omniture

"เมนารินี" เปิดตัวหนังสือรวมผลงานศิลปะของยอดจิตรกร "บอตตีเชลลี" ในฟลอเรนซ์ อุทิศให้กับสัญลักษณ์ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอิตาลี

Menarini Industrie Farmaceutiche Riunite
2023-05-16 19:21 86

ฟลอเรนซ์, อิตาลี, 16 พฤษภาคม 2566 /PRNewswire/ -- ซันโดร บอตตีเชลลี (Sandro Botticelli) จิตรกรผู้ประสบความสำเร็จ ศิลปินที่ตีความวัฒนธรรมในยุคสมัยของตนเองได้อย่างละเอียดอ่อน และผู้สร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมมากมาย ถือเป็นปรมาจารย์ด้านความงามที่แท้จริง ด้วยผลงานจิตรกรรมภาพ "วีนัส" (Venus) บอตตีเชลลีได้สรรสร้างหลักการแห่งความสมบูรณ์แบบโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีความใกล้เคียงกับหลักการที่สะท้อนอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้น เขาก็เป็นบุคคลที่ลึกลับและไม่หยุดนิ่ง แม้เขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังเหนือกาลเวลา แต่ภาพวาดของเขายังคงซุกซ่อนความลึกลับที่ยากจะหยั่งรู้ หลังจากเวลาผ่านไป 60 ปี ผลงานของซันโดร บอตตีเชลลี ได้หวนคืนกลับสู่ซีรีส์งานศิลปะของเมนารินี กรุ๊ป (Menarini Group) กับหนังสือรวมผลงานศิลปะที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนซึ่งมีการนำเสนอ ณ ห้องอะพอลโลรูม (Apollo Room) ของพระราชวังปุชชี่ (Palazzo Pucci) ในเมืองฟลอเรนซ์ ผ่านปลายปากกาของผู้เขียนอย่างคริสตินา แอซิดินี (Cristina Acidini) อดีตผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งในฟลอเรนซ์ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานของพิพิธภัณฑ์ซานตาโครเช (Opera di Santa Croce) และสถาบันอันทรงเกียรติอื่น ๆ ในฟลอเรนซ์

Nicola Armentano (City of Florence Councillor), Lucia Aleotti (Menarini Group Shareholder and Board Member), Cristina Acidini (Author of the Botticelli art monograph), Eric Cornut (Menarini Group Chairman), Eugenio Giani (President of Region of Tuscany); Elcin Barker Ergun (Menarini Group CEO), Alberto Giovanni Aleotti (Menarini Group Shareholder and Board Member) and Carlo Colombini (Menarini Group Board Member)
Nicola Armentano (City of Florence Councillor), Lucia Aleotti (Menarini Group Shareholder and Board Member), Cristina Acidini (Author of the Botticelli art monograph), Eric Cornut (Menarini Group Chairman), Eugenio Giani (President of Region of Tuscany); Elcin Barker Ergun (Menarini Group CEO), Alberto Giovanni Aleotti (Menarini Group Shareholder and Board Member) and Carlo Colombini (Menarini Group Board Member)

หนังสือรวมผลงานศิลปะเล่มนี้ได้พาเราย้อนเวลากลับไปยังเมืองฟลอเรนซ์ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 15 ณ โรงงานย้อมสีของมาริอาโน ฟิลิเปปิ (Mariano Filipepi) ผู้เป็นบิดาของบอตตีเชลลี ซึ่งในสถานที่ดังกล่าว บอตตีเชลลีในวัยเด็กซึ่งมีความหลงใหลในสีสันที่ได้เห็นในโรงงานอุตสาหกรรมของครอบครัว ได้สัมผัสกับการเรียนศิลปะเป็นครั้งแรก แหล่งข่าวเพียงไม่กี่แหล่งที่รู้จักบอตตีเชลลีกล่าวว่า ศิลปินผู้นี้เป็นชายที่ชอบประชดประชัน ชอบพูดจาเสียดสี และชอบล้อเลียนผู้อื่น ตามจิตวิญญาณของชาวฟลอเรนซ์ในยุคนั้น จิตวิญญาณของเขาถูกรบกวนด้วยอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่น โดยในอดีต บอตตีเชลลีได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะไม่แต่งงาน แต่เขาได้ประกาศความรักนิรันดร์มั่นคงต่อฟลอเรนซ์ นครที่เขาไม่เคยจากไปไหนเว้นแต่เฉพาะทริปเดินทางสั้น ๆ เพียงไม่กี่ครั้ง ด้วยความอ่อนไหวในฐานะมนุษย์และความเป็นศิลปินที่มีเปี่ยมล้น เขาได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้ ตั้งแต่ชัยชนะอันน่าตื่นเต้นของลอเรนโซ เดอ เมดิชิ (Lorenzo de' Medici) ไปจนถึงขบวนแห่ของซาโวนาโรลา (Savonarola) ในฐานะศิลปิน เขามีความสามารถที่โดดเด่นในการปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย โดยเขามักวาดภาพบุคคลคนที่กำลังเจ็บปวดทรมานด้วยสีโทนเข้ม เช่น ผลงานภาพความโทมนัสต่อพระคริสต์ผู้ล่วงลับ (Lamentation over the Dead Christ) และพระตรีเอกภาพ (Pala delle Convertite) ซึ่งแตกต่างจากภาพที่มีมิติกลมกลืนและดูสง่างามอย่างผลงานกำเนิดวีนัส (Birth of Venus) และวสันตฤดู (Primavera) โดยผลงานสองชิ้นหลังที่ว่านี้ซึ่งการมีเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่นับครั้งไม่ถ้วน ได้ทำให้บอตตีเชลลีกลายเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ซึ่งผลงานของเขายังคงสะท้อนอยู่ในการศึกษาสมัยใหม่ หรือแม้กระทั่งในยุคปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงยังมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์และการตีความภาพวาดของบอตตีเชลลีอยู่หลายชิ้น รวมถึงภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดด้วย แท้ที่จริงแล้ว การบูรณะและการตรวจสอบวินิจฉัยที่ซับซ้อนมักทำให้โลกได้เห็นองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผลงานของเขา ซึ่งก่อให้เกิดแนวคิดที่นำไปสู่การถกเถียงกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ

"ผลงานของศิลปินที่ไม่ธรรมดาผู้นี้ได้หวนคืนสู่ซีรีส์งานศิลปะของเมนารินี กับหนังสือรวมผลงานศิลปะชุดที่ 2 ซึ่งพิจารณาถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีการค้นพบในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้จากการค้นพบเอกสารใหม่ ๆ และการตีความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาพวาดที่ชวนให้รำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตและมีความลึกลับที่สุดของเขา นอกจากนี้ การสืบสวนทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการบูรณะผลงานหลาย ๆ ชิ้นของบอตตีเชลลี ก็ได้ช่วยเพิ่มพูนความรู้ของเราเกี่ยวกับสไตล์การวาดภาพที่ละเอียดอ่อนและหลากหลายของเขา" คริสตินา แอซิดินี กล่าว "บอตตีเชลลีเป็นหนึ่งในผู้ที่ตีความด้านวัฒนธรรมที่เก่งกาจที่สุดในยุคของเขา ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในสังคมฟลอเรนซ์ที่เขาอาศัยอยู่ เริ่มต้นจากยุคของลอเรนโซผู้ยิ่งใหญ่ (Lorenzo the Magnificent) ในช่วงเวลาแห่งความสุขที่วัฒนธรรมกำลังเฟื่องฟู จากนั้นก็ยุคของจิโรลาโม ซาโวนาโรลา (Girolamo Savonarola) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาหลายปีแห่งการปฏิรูปศาสนาที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ด้วยเหตุนี้ บอตตีเชลลีจึงกลายเป็น "สัญลักษณ์" ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่เปี่ยมไปด้วยความรุ่งโรจน์และความสับสนวุ่นวาย"

หนังสือรวมผลงานศิลปะของบอตตีเชลลีได้เสริมเติมความเลอค่าให้กับซีรีส์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าของเมนารินี กรุ๊ป ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2499 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความงดงามของอิตาลีผ่านจิตรกรระดับปรจารย์ชาวอิตาลี

"คอลเลกชันงานศิลปะของเมนารินีมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนศิลปินชาวอิตาลีผู้ยิ่งใหญ่ และแบ่งปันผลงานเหล่านี้กับคนรุ่นใหม่" ลูเซีย (Lucia) และอัลเบร์โต จิโอวานนี อาเลโอตติ (Alberto Giovanni Aleotti) ผู้ถือหุ้นและสมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมนารินี กล่าว "การค้นพบความสับสนวุ่นวายและความพิศวงเบื้องหลังภาพวาดที่โดดเด่นที่สุดของบอตตีเชลลีแสดงให้เห็นว่า ศิลปินผู้นี้มีความใกล้ชิดกับความรู้สึกร่วมสมัยในปัจจุบันมากเพียงใด"

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การทำงานด้านศิลปะของเมนารินี กรุ๊ป ได้เติบโตและพัฒนาขึ้นด้วยโครงการมัลติมีเดียที่มีชื่อว่า 'เมนารินี พิลส์ ออฟ อาร์ต' (Menarini Pills of Art) คลิปวิดีโอเหล่านี้เป็นวิดีโอสั้น ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญจะมาเปิดเผยเกร็ดประวัติและเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับผลงานหลายชิ้นที่ถูกนำเสนออยู่ในซีรีส์ผลงานศิลปะของเมนารินี จนถึงตอนนี้มีการเผยแพร่วิดีโอไปแล้วประมาณ 700 คลิป ซึ่งมียอดชมรวมกว่าหลายสิบล้านครั้ง คลิปวิดีโอเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่อยู่ในช่องเมนารินี ยูทูบ (Menarini YouTube) ใน 8 ภาษาด้วยกัน พร้อมอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกเดือน สำหรับวิดีโอเกี่ยวกับผลงานที่โด่งดังที่สุดของบอตตีเชลลีเพิ่งได้รับการเผยแพร่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ร่วมกับวิดีโอที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภาพเขียนการนมัสการของโหราจารย์ (Adoration of the Magi) ของเลโอนาร์โด (Leonardo) พระแม่มารีแห่งถ้ำ (Madonna delle Cave) ของมันเตญญา (Mantegna) และบาคคัส (Bacchus) ของคาราวัจโจ (Caravaggio)

รับชมคลิปวิดีโอของเมนารินี พิลส์ ออฟ อาร์ต ได้ที่ลิงก์: https://www.menarini.com/it-it/news/menarini-pills-of-art

เมนารินี ฟามาซูติคัลส์ กรุ๊ป (Menarini Pharmaceutical Group) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองฟลอเรนซ์ มีสำนักงานกระจายตัวอยู่ใน 140 ประเทศทั่วโลก โดยมีผลประกอบการอยู่ที่ 4,155 ล้านยูโร และมีพนักงานมากกว่า 17,000 คน ด้วยศูนย์วิจัยและพัฒนา 9 แห่ง ผลิตภัณฑ์ของเมนารินีจึงครอบคลุมกลุ่มการรักษาโรคที่สำคัญที่สุด รวมถึงการรักษาโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคปอด โรคติดเชื้อ โรคเบาหวาน และผลิตภัณฑ์กลุ่มต้านการอักเสบ/บรรเทาปวด การผลิตยาของเมนารินีดำเนินการผ่านโรงงานผลิต 18 แห่งของกลุ่มบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ในอิตาลีและในต่างประเทศ โดยมียอดการผลิตผลิตภัณฑ์รวมกว่า 577 ล้านชิ้นต่อปี และส่งออกไปจัดจำหน่ายใน 5 ทวีปทั่วโลก การผลิตยาของเมนารินีเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพสูงสุด และมีส่วนช่วยสนับสนุนสุขภาพของผู้ป่วยทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.menarini.com

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2076875/Menarini_group.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2076874/Menarini_presentation.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1958938/4035543/MENARINI_GROUP_Logo.jpg?p=medium600

Presentation of the Menarini art volume dedicated to Botticelli
Presentation of the Menarini art volume dedicated to Botticelli

 

 

Source: Menarini Industrie Farmaceutiche Riunite
Keywords: Art Entertainment Medical/Pharmaceuticals Pharmaceuticals New products/services
Related News