เซินเจิ้น, จีน, 23 พ.ค. 2566 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
งาน "สร้างฮับใหม่ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ระหว่างพื้นที่เขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) กับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน" และงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง เดอะ เทรน ทู เดอะ ฟรอนเทียร์ (the Train to the Frontier) จัดขึ้นที่เมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566
หลังจากที่ได้ทำเวอร์ชวลโปรดักชันให้กับภาพยนตร์เรื่อง ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (Everything Everywhere All at Once) และ คิง ออฟ เดอะ สกาย (King of the Sky) มาแล้ว เวอร์ชวลโปรดักชันของยูนิลูมิน (Unilumin) จะถูกนำมาใช้อีกครั้งกับเรื่อง เดอะ เทรน ทู เดอะ ฟรอนเทียร์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ อันเป็นการเร่งกระบวนการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศ
หวง ชางหนิง (Huang Changning) ประธานสมาคมอุตสาหกรรมภาพยนตร์กวางตุ้ง และบรรดาผู้นำของกว่างโจว เลเจนดารี ฟิล์ม คอร์ปอเรชัน (Guangzhou Legendary Film Corporation), ยูนิลูมิน และบริษัทอื่น ๆ ก็ได้รับเชิญเข้าร่วมงานด้วย เช่นเดียวกับทีมผู้อำนวยการสร้างของ เดอะ เทรน ทู เดอะ ฟรอนเทียร์ ทั้ง ฟ่าง จินหลี่ (Fang Jinli ผู้กำกับ), ไมค์ ลีเดอร์ (Mike Leeder ผู้อำนวยการสร้างร่วม), ฟิล นิบเบอลิงค์ (Phil Nibbelink ผู้กำกับศิลป์), วิคเตอร์ เอ็นริเกวซ (Victor Enriquez ผู้ประสานงานด้านวิชวลสเปเชียลเอฟเฟกต์) และดมิทรี (Dmitry ผู้กำกับสเปเชียลเอฟเฟกต์) ซึ่งก็ไปรวมตัวกันที่กว่างโจว 1978 ฟิล์มทาวน์ (Guangzhou 1978 Film Town) เพื่อเป็นสักขีพยานให้กับบทใหม่ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ด้วยกัน
ในงานดังกล่าว กว่างโจว เลเจนดารี ฟิล์ม คอร์ปอเรชัน กับยูนิลูมิน ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านเวอร์ชวลโปรดักชัน, สเปเชียลเอฟเฟกต์ และดิจิทัลแอสเซทของภาพยนตร์ 6 เรื่อง อาทิ เดอะ เทรน ทู เดอะ ฟรอนเทียร์ และ โรแมนติกเยียร์ส (Romantic Years) เป็นต้น และนอกจากนี้ บริษัทกว่างโจว เลเจนดารี ฟิล์ม คอร์ปอเรชัน, ยูนิลูมิน และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมกว่างซี (Guangxi Satellite TV) ยังได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมและขยายการประยุกต์ใช้เวอร์ชวลโปรดักชันด้วย
เดอะ เทรน ทู เดอะ ฟรอนเทียร์ เป็นเรื่องราวของผู้โดยสารที่ต้องต่อสู้กับคนร้ายที่ครอบครองสมบัติชาติอย่างผิดกฎหมายบนรถไฟที่มุ่งสู่ชายแดน โดยมีรายงานว่าทีมงานฮอลลีวูดและผู้สร้างภาพยนตร์จีนได้ร่วมมือกันเพื่อนำโซลูชันเวอร์ชวลโปรดักชันแบบครบวงจรของยูนิลูมินมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ และเนื้อหา 90% ของภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทำในสตูดิโอแบบเวอร์ชวล
ในด้านเวอร์ชวลโปรดักชันนั้น ยูนิลูมินมีโซลูชันครบวงจร ทั้งการถ่ายทำภาพยนตร์, ดิจิทัลแอสเซท และจอ LED ในโรงภาพยนตร์
นับจนถึงปี 2565 ยูนิลูมินสร้างสตูดิโอถ่ายทำแบบเวอร์ชวลไปแล้วกว่า 100 แห่ง จาก 140 แห่งทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 80% ของตลาด และในอนาคต เวอร์ชวลโปรดักชันของยูนิลูมินก็จะเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้สร้างภาพยนตร์ในประเทศและต่างประเทศได้สื่อสารกัน ช่วยให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนรุ่งเรืองและเฟื่องฟู