คีชีเนา, มอลโดวา, 14 มิถุนายน 2566 /PRNewswire/ -- อุตสาหกรรมไวน์ของมอลโดวาที่กำลังเติบโตอย่างโดดเด่น มีบทบาทสำคัญในการประชุมสุดยอดประชาคมการเมืองยุโรป (European Political Summit) หรืออีพีซี (EPC) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีผู้สื่อข่าวนานาชาติกว่า 500 คน พร้อมด้วยตัวแทน 47 ประเทศทั่วยุโรป มาร่วมงานที่ปราสาทมิมิ (Mimi Castle) ในชุมชนผู้ผลิตไวน์ของมอลโดวาที่เป็นแหล่งรวมความงดงาม ความน่าเชื่อถือ และรสชาติ อย่างหมู่บ้านบัลบัวกา (Bulboaca) ทั้งนี้ การประชุมอีพีซี ซึ่งมีการอภิปรายประเด็นต่าง ๆ ที่ทวีปยุโรปกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ถูกจัดขึ้นในประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียูเป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และการปรับตัวเพื่อเข้าร่วมอียูของมอลโดวา
ระหว่างการประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสใช้เวลาอยู่กับอุตสาหกรรมไวน์ของมอลโดวาที่มีความสำคัญต่อประเทศ ในปัจจุบัน มอลโดวากลายเป็นผู้ส่งออกไวน์รายใหญ่อันดับ 14 ของโลก คิดเป็น 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และเป็นประเทศที่มีต้นองุ่นต่อหัว (per capita) มากที่สุดในโลก ด้านคุณแจนซิส โรบินสัน (Jancis Robinson) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ ระบุในบทความ "มอลโดวานำการเมืองด้วยการผลิตไวน์" ลงในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ (Financial Times) ว่า "มอลโดวามีข้อได้เปรียบทางธรรมชาติในฐานะผู้ผลิตไวน์หลายประการ" โดย "ไร่องุ่นหลายแห่งของมอลโดวาสามารถอวดได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับแคว้นเบอร์กันดีของฝรั่งเศสทั้งในเรื่องแนวที่ตั้งหรือละติจูดและสภาพหินปูน ทั้งนี้ ไวน์จากมอลโดวาสามารถคว้ารางวัลระดับนานาชาติไปแล้ว 5,014 ครั้งตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ"
สำหรับผู้เข้าร่วมงานบางรายแล้ว สายพันธุ์องุ่นพื้นเมืองและปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตไวน์ที่ไม่มีใครเหมือนของมอลโดวา เปรียบเสมือนอัญมณีที่รอคอยการค้นพบ โดยไวน์ ออฟ มอลโดวา (Wine of Moldova) แบรนด์ไวน์ประจำชาติ จึงมีความยินดีที่ได้จัดงานพิเศษ "ลิ้มรสมอลโดวา เชิญพบกับผู้ผลิตท้องถิ่นของเรา" (Taste Moldova – Meet our local producers!) ไว้สำหรับผู้สื่อข่าวที่ได้รับเชิญเท่านั้น ในงานมีการจัดแสดงไวน์คุณภาพสูง การท่องเที่ยว และสินค้าการเกษตรของมอลโดวา ซึ่งผู้สื่อข่าวแต่ละรายจะได้รับชุดลงทะเบียนที่ประกอบไปด้วยไวน์มอลโดวาที่ได้รับการคัดสรรอย่างดีมาให้ได้ลิ้มลองกัน
ไวน์ ออฟ มอลโดวา ยังใช้โอกาสนี้ในการเผยแพร่ยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนในอนาคต ในปีนี้ หน่วยงานส่งเสริมการขายได้ริเริ่มแคมเปญ "ทศวรรษแห่งการปฏิวัติไวน์" (#10yearsofwinerevolution) ที่ออกแบบมาเพื่อเน้นให้เห็นความสำคัญว่า อุตสาหกรรมไวน์ของมอลโดวากำลังปรับตัวเพื่อแข่งขันบนเวทีโลกอย่างไรและเพราะเหตุใด
ขณะที่ผู้บริหารของไวน์ ออฟ มอลโดวา มีแผนที่จะระดมทุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐตลอด 5 ปีข้างหน้า เพื่อนำเงินจำนวนมากไปซื้อที่ดินและอุปกรณ์ต่าง ๆ มอลโดวายังมุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยจำนวนผู้ผลิตไวน์ที่เพิ่มขึ้นจึงสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เทียบเคียงกับไวน์ชั้นนำจากนาปา (Napa) สเตลเลนบอช (Stellenbosch) และเมนโดซา (Mendoza) ได้ โดยสายพันธุ์องุ่นพื้นเมือง ผู้ผลิตคลื่นลูกใหม่ และวัฒนธรรมผลิตไวน์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ทำให้มอลโดวาพร้อมสำหรับงานระดับนานาชาติครั้งต่อไป เพื่อใช้เป็นโอกาสในการนำเสนอไวน์ที่มีความพิเศษของตนเองต่อชาวโลก
วิดีโอ - https://mma.prnasia.com/media2/2098892/Wine_of_Moldova_2023.mp4