omniture

"ออโตโมบิลี ปินินฟารินา" เปิดตัวดีไซน์รถยนต์รุ่นใหม่ "ออโตโมบิลี ปินินฟารินา พูรา วิชั่น"

Automobili Pininfarina
2023-08-03 19:53 120
  • แนวคิดการออกแบบโฉมใหม่ ออโตโมบิลี ปินินฟารินา พูรา วิชั่น แสดงให้เห็นถึงความหรูหราของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน
  • รูปทรงที่หรูหรา สัดส่วนที่น่าทึ่ง และพื้นผิวที่สะอาดตา แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบพูรา ในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
  • ลายเส้นที่เฉียบคมและความสวยงามสมัยใหม่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ผสานรวมมรดกการออกแบบที่สืบทอดมายาวนานกว่า 94 ปีเพื่อนำทางสู่อนาคต
  • พูรา วิชั่น พร้อมเปิดตัวสู่สาธารณะในช่วงสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ของ ออโตโมบิลี ปินินฟารินา
  • แนวคิดการออกแบบเกิดและพัฒนาขึ้นในอิตาลีโดยผู้เชี่ยวชาญประจำออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในโรงงานเดียวกันกับที่มีการประกอบรถยนต์แบตติสตา ไฮเปอร์ จีที
  • รับชมชุดภาพพูรา วิชั่น ทั้งหมดได้ที่นี่
  • รับชมภาพยนตร์เปิดตัวพูรา วิชั่น ได้ทาง youtu.be/HRcnCTLHCD4

กัมเบียโน, อิตาลี, 3 สิงหาคม 2566 /PRNewswire/ -- ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) นำเสนอยุคใหม่แห่งความหรูหราด้วยพลังงานไฟฟ้าผ่านแนวคิดการออกแบบพูรา วิชั่น (PURA Vision) รูปทรงที่หรูหราและสัดส่วนอันน่าทึ่งของการออกแบบแสดงถึงปรัชญาของบริษัทอย่าง "พูรา" (PURA) พลิกโฉมดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ในอดีตของปินินฟารินาสู่อนาคตในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าสุดหรู (e-LUV)

PURA Vision 01
PURA Vision 01

แนวคิดการออกแบบใหม่นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับรถยนต์หรูหราพลังงานไฟฟ้ารุ่นต่อไปของออโตโมบิลี ปินินฟารินา และจะเปิดตัวต่อสาธารณะในเดือนสิงหาคมระหว่างสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์ (Monterey Car Week) โดยจะปรากฏพร้อมกับรถยนต์แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ไฮเปอร์ จีที (Battista Edizione Nino Farina hyper GT) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมรถยนต์รุ่นใหม่อีกรุ่นที่สวยงามไม่แพ้กัน กำหนดนิยามใหม่แห่งความสุขในการขับขี่

พูรา วิชั่น แสดงถึงการตีความที่โดดเด่นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู ด้วยสัดส่วนห้องโดยสารด้านหลังที่โดดเด่น ผสมผสานเข้ากับความงามเหนือกาลเวลาและรายละเอียดที่ประณีต เพื่อสร้างเอกลักษณ์แบบไดนามิกพร้อมรูปลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นได้แก่เรือนกระจกแบบแคบและประตูสามบานแบบไร้เสาซึ่งมอบการเข้าถึงห้องโดยสารที่ซับซ้อนได้สูงสุด

เปาโล เดลลาชา (Paolo Dellachà) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "พูรา วิชั่น เป็นสะพานเชื่อมจากปัจจุบันไปสู่อนาคตใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับออโตโมบิลี ปินินฟารินา เราได้เฉลิมฉลองมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของเราในปีที่ 5 ด้วยการเปิดตัวแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา และพูรา วิชั่น ได้แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นและผลลัพธ์ของการนำแนวคิดพูรามาใช้ในการออกแบบรถยนต์ประเภทใหม่โดยสิ้นเชิง"

"พูรา วิชั่น เป็นมากกว่าการเปิดตัวดีไซน์รถยนต์รุ่นใหม่ แต่ยังได้นำเสนอปรัชญาการออกแบบที่เฉียบคมและทันสมัยซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกที่ตกทอดมาอย่างยาวนานของปินินฟารินา สร้างต้นแบบสำหรับคอลเลกชันรถยนต์หรูหราที่สวยงาม"

"ผลงานชิ้นแรกในคอลเลกชันใหม่ของเราที่สวยงามและแตกต่างซึ่งได้แรงบันดาลจากพูรา วิชั่น จะถูกนำมาเปิดตัวควบคู่กับแนวคิดการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ณ ที่พักอาศัยส่วนบุคคลของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในช่วงสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์ (17-20 สิงหาคม) และงานจัดแสดงรถยนต์เดอะ เควล (The Quail – A Motorsports Gathering) (18 สิงหาคม 2566)"

ปรัชญาพูราของออโตโมบิลี ปินินฟารินา

การออกแบบที่เหนือกาลเวลาคือจุดเด่นของปินินฟารินาตลอด 94 ปีที่ผ่านมาและ พูรา วิชั่น ได้มอบความงามที่เป็นเอกลักษณ์ผ่านการผสมผสานของสัดส่วนคลาสสิกและรายละเอียดที่ประณีต นำเสนอประติมากรรมที่ไม่เหมือนใครด้วยฝากระโปรงทรงเตี้ยและบังโคลนทรงสูงที่ได้แรงบันดาลใจจากรถยนต์รุ่นซิซิสตาเลีย (Cisitalia) ที่โด่งดังในปี 2490 และเป็นยานพาหนะคันแรกที่เข้าสู่คอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) ในนิวยอร์ก

เดฟ อมันที (Dave Amantea) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "พูรา วิชั่น รวมไว้ซึ่งแก่นแท้ของยานพาหนะอันเป็นสัญลักษณ์แห่งอดีตของปินินฟารินา สานต่อสู่อนาคตด้วยลายเส้นที่เฉียบคมและความสวยงามสมัยใหม่ มีความโดดเด่นจากทุกมุมมอง สื่อให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบพูราของเราสำหรับยานพาหนะประเภทใหม่ ดีไซน์ที่น่าทึ่ง การตกแต่งภายในที่ดึงดูดใจ และวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดี ทำให้รถคันนี้ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้ได้ทันทีว่าเป็นปินินฟารินา ด้วยตัวถังที่สวยงาม สัดส่วนที่เหนือกาลเวลา และรายละเอียดส่วนล่างที่ประณีต"

การตกแต่งภายนอกที่ไม่ธรรมดา

พูรา วิชั่น โดดเด่นด้วยหน้าปัดไฟหน้าแบบซ่อนและเทคโนโลยีไฟส่องสว่าง L.E.S.S. เส้นใยนาโนที่สร้างเอกลักษณ์ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน เส้นใยที่มีความหนาน้อยกว่า 1 มม. ทำให้สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการออกแบบได้เกือบทุกรูปแบบ ในขณะที่โครงสร้างน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหนือกว่านั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าชั้นหรู ตัวไฟหน้าประกอบอยู่ในส่วนล่างที่ใช้การออกแบบเชิงเทคนิคอเนกประสงค์แบบเต็มความกว้าง ทำให้ช่วยระบายความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก

การเลือกใช้วัสดุภายนอกและสีโครงรถยังเน้นรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของพูรา วิชั่น อย่างชัดเจนด้วยพื้นผิวที่ซับซ้อนของตัวถังสีเบียงโก เซสตริเอเร (Bianco Sestriere) แบบเงา ตัดกับชิ้นส่วนด้านล่างที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และห้องกระจกแคบและหลังคาแบบลอยตัวสีดำเงาด้านบน สัดส่วนหลังห้องโดยสารที่น่าทึ่งของพูรา วิชั่นและระยะยื่นสั้นทำให้มีดูมีเค้าโครงที่ทรงพลัง ในขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 23 นิ้วทำให้ดูแข็งแกร่ง บริเวณยางยังมีแถบสีขาวที่ทำให้ภายนอกดูกลมกลืนและเพิ่มความหมายให้กับตัวล้อสีดำด้าน

หลังคาพาโนรามาที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรามีระดับ ส่วนตรงกลางแบบ 'บิสคอตโต' ยังส่องสว่างด้วยวงแหวนไฟ LED ที่นุ่มนวล เชื่อมต่อกับกระจกบังลมขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าเข้ากับประตูท้ายที่ด้านหลัง โครง 'บิสคอตโต' ตรงกลางยังรองรับหน้าต่างด้านข้างแบบชิ้นเดียวชนิดโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของช่องเปิดประตูห้องโดยสารในแต่ละด้าน แสดงให้เห็นถึงการออกแบบพูรา วิชั่นได้อย่างชัดเจนจากด้านบน ตัวบานพับยังถูกยกขึ้นอย่างมาก รองรับการเปิดแบบไร้เสาและประตูหลังแบบบานพับ ช่วยให้สามารถเข้าถึงห้องโดยสารขนาด 2+2 ที่นั่งได้อย่างไม่จำกัด ประตูห้องโดยสารยังได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบแบบแบบไร้เสาของรถยนต์รุ่นแลนเซีย ฟลอริดา (Lancia Florida) โดยแบตติสตา ฟารินา (Battista Farina) ในยุค 50 และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ก่อตั้งของปินินฟารินา

เครื่องประดับภายนอกแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของออโตโมบิลี ปินินฟารินา องค์ประกอบเหล่านี้ครอบคลุมขอบกระจกด้านล่างชุบผิวอะลูมิเนียมที่ออกแบบอย่างแม่นยำรอบเรือนกระจกซึ่งเริ่มต้นจากกระจกบังลมตามด้วยส่วนโค้งที่สวยงามบริเวณโดยรอบ ตัวหลังคาทำจากชิ้นส่วนอะลูมิเนียม ประกอบด้วยกล้องมองหลังซึ่งแทนที่กระจกมองข้างแบบเดิมที่ด้านหน้า และรองรับดีไซน์พูรา วิชั่น ที่โดดเด่นด้านหลัง

บริเวณท้ายตัวรถประกอบด้วยไฟ LED แนวนอนที่เพรียวบางเป็นพิเศษ และเรือนกระจกทรงเรียวที่เข้ากันได้ดีกับส่วนโค้งที่คมชัดของพูรา วิชั่น ตัวรถยกสูงจากซุ้มล้อที่มีความคล้ายคลึงกับรถสปอร์ต และมีส่วนช่วยให้พูรา วิชั่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อรวมเข้ากับหลังคาบิสคอตโตแบบใหม่แล้วจึงก่อให้เกิดรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเมื่อมองจากด้านบน เช่นเดียวกับแบตติสตา ไฮเปอร์ จีที

บริเวณด้านล่างของตัวรถประกอบด้วยกันชนคาร์บอนไฟเบอร์ส่วนหน้า ตัดกับพื้นผิวและรูปทรงประติมากรรมของตัวรถส่วนบน

การเชื่อมต่อและความหรูหราที่ลงตัว

ภายนอกของพูรา วิชั่น ผสานรูปลักษณ์บนท้องถนนของรถเอสยูวี เข้ากับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของรถสปอร์ตทรงเตี้ย การตกแต่งภายในที่หรูหรายังเป็นไปตามหลักการเดียวกัน ตำแหน่งการขับขี่นั้นเหมือนกันกับรถสองที่นั่ง เพิ่มเติมด้วยความประทับใจโดยรวมของห้องโดยสารที่นุ่มนวล โปร่งสบาย และเป็นกันเอง ระบบส่งกำลังไฟฟ้าช่วยให้ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวางพร้อมพื้นเรียบที่ทำให้ดูกว้างขึ้น เสริมด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา

ทั้งส่วนบน โครงสร้างภายนอกและภายในยังได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากเรือยอชต์สุดหรู เบาะนั่งด้านหน้าแบบ 'ลอยได้' ของพูรา วิชั่นถูกแขวนไว้เหมือนฟอยล์ของเรือใบ ขณะที่คอนโซลกลางมีลักษณะคล้ายกับใบเรือ บริเวณด้านหลังพวงมาลัยประกอบด้วยแผงแดชบอร์ดขนาดกว้างที่ผสานกับภายนอกอย่างลงตัว มอบมุมมองขยายที่โดดเด่นของฝากระโปรงในห้องโดยสาร

ฟรานเซสโก ชุนดาริ (Francesco Cundari) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบภายในของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "พูรา วิชั่น นำเสนอการตกแต่งภายในที่หรูหราของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ยุคใหม่ ลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ มาพร้อมทัศนวิสัยที่เหนือกว่าและการเลือกใช้วัสดุที่สวยงาม ผสานรูปลักษณ์รถสปอร์ตเข้ากับพื้นที่และความสะดวกสบายของรถยนต์ระดับหรู"

รถยนต์รุ่นต่อไปของออโตโมบิลี ปินินฟารินา จะมอบความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อในทุก ๆ การขับขี่ และพูรา วิชั่น ได้สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานนี้ ห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในสิ่งที่พวกเขาต้องการทุกเวลาผ่านหน้าจอสัมผัสส่วนกลางที่ใช้งานง่าย เครื่องมือวัดแบบดิจิทัลขั้นสูง และจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งได้

ความใส่ใจในรายละเอียดที่เห็นได้ชัดในการออกแบบยังแสดงให้เห็นได้จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จอแสดงผลส่วนกลางสามารถยกขึ้นจากคอนโซลได้เมื่อจำเป็น และพับเก็บได้เพื่อไม่ให้เกะกะ ขณะที่ลำโพงในพนักพิงศีรษะมอบโซนเสียงเฉพาะสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง พื้นที่กระจกขนาดใหญ่ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกเชื่อมต่อกับสิ่งรอบข้าง เพิ่มอรรถรสในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีตู้แช่ไวน์ในตัวระหว่างที่นั่งด้านหลังคู่ ช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับความหรูหราร่วมสมัยในทุกความรู้สึก

นวัตกรรมที่ยั่งยืน

การประยุกต์ใช้วัสดุที่ซับซ้อน วัสดุแท้ และวัสดุที่เน้นสัมผัสเป็นจุดเด่นของ พูรา วิชั่น ที่สร้างความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครในแง่ความหรูหราร่วมสมัย เบาะสีขาวทั้งสี่มาพร้อมแดชบอร์ดหนังชาร์โคลสีขาวและขอบประตูด้านบนที่มอบมุมมอง 360 องศาภายในตัวรถ

หนังกึ่งอะนิลีนเนื้อนุ่มผสมผสานกับผ้าทออันเป็นเอกลักษณ์ตลอดแนวภายในเข้ากันได้ดีกับตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ชุบอะลูมิเนียมแบบเปลือยภายนอก ออโตโมบิลี ปินินฟารินา ยังใช้เศษอะลูมิเนียมจากล้อของพูรา วิชั่น เพื่อสร้างแผ่นป้องกันแบบสั่งทำพิเศษสำหรับประดับขอบประตู เพิ่มความอลังการเมื่อประตูเลานจ์ ดอร์ (Lounge Door) เปิดออก

ซาร่า แคมปาโญโล (Sara Campagnolo) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบสีและวัสดุของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า "วัสดุเป็นมากกว่าแค่สิ่งคลุมรถ แต่เป็นสิ่งสะท้อนส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของยานพาหนะของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบพูรา เราจึงใช้วัสดุจำนวนน้อยที่สุดแต่มีคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสร้างผลงานที่ซับซ้อน ไร้กาลเวลา และยั่งยืน"

พื้นผิวผ้าอันเป็นเอกลักษณ์บริเวณคอนโซลกลาง พนักพิงด้านบน และวัสดุบุหลังคาเกิดจากการผสมผสานระหว่างผ้าขนสัตว์นาติวา (Nativa) 30% และโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 70% เกิดเป็นรูปแบบลายก้างปลาผิวสัมผัสนุ่ม มาพร้อมโลโก้ปินินฟารินาที่เชื่อมด้วยไฟฟ้าบนพนักพิงศีรษะ แม้ว่าพูรา วิชั่น จะมีสถานะเป็นเพียงแนวคิดการออกแบบ แต่สิ่งทอที่ใหม่นี้ได้บรรลุมาตรฐานความทนทานของออโตโมบิลี ปินินฟารินาสำหรับยานยนต์ที่ใช้งานจริงอยู่แล้ว

สร้างสรรค์ขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กร

แนวคิดการออกแบบพูรา วิชั่น ได้รับการพัฒนาโดยอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษและความเชี่ยวชาญภายในของตระกูลผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการผลิตของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในอิตาลี เพื่อกำหนดยุคใหม่แห่งความหรูหราด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เชื่อมต่อถึงกัน รถยนต์ที่จะสร้างขึ้นใหม่นี้จะถูกคิดค้น ออกแบบ และพัฒนาในอิตาลี และนำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงพัฒนาขึ้นจากศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในเยอรมนี

ปัจจุบัน ออโตโมบิลี ปินินฟารินา มีพนักงาน 116 คนทั่วทั้งไซต์งานในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี และเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทีมงานประกอบด้วยผู้คนมากกว่า 20 สัญชาติ ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระดับโลกเพื่อสร้างยุคใหม่แห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

ขนาดของพูรา วิชั่น

ความยาว: 5,215 มม.
ความกว้าง: 2,147 มม. (รวมกระจก)
ความสูง: 1,641 มม.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ automobili-pininfarina.com/media-zone

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับออโตโมบิลี ปินินฟารินา

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีทีมงานซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารมากประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์จากแบรนด์รถยนต์ระดับหรูหราและพรีเมียม รถยนต์ไฮเปอร์ จีที รุ่นแบตติสตา และรุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดในอนาคต ซึ่งออกแบบ วางระบบ และผลิตด้วยมือในอิตาลี จะวางจำหน่ายในตลาดใหญ่ ๆ ทั่วโลกในแบรนด์ปินินฟารินา ทั้งนี้ บริษัทน้องใหม่แห่งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นแบรนด์รถหรูอันเป็นที่ปรารถนาและยั่งยืนที่สุดในโลก โดยเป็นการลงทุนของบริษัทมาฮินดร้า แอนด์ มาฮินดร้า (Mahindra & Mahindra Ltd) ทั้งหมด 100% และได้รับการตั้งชื่อว่าออโตโมบิลี ปินินฟารินา หลังจากที่ได้ลงนามในข้อตกลงใบอนุญาตเครื่องหมายการค้าระหว่างปินินฟารินา (Pininfarina S.p.A.) และมาฮินดร้า แอนด์ มาฮินดร้า เรามีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนความสามารถด้านการออกแบบและการผลิตรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกหลายรุ่นด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานถึง 94 ปี

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา แบตติสตา

แบตติสตา (Battista) เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยออกแบบและสร้างในอิตาลี โดยจะมอบสมรรถนะในระดับที่ยังไม่มีรถสปอร์ตแบบใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนท้องถนนรุ่นใดทำได้ในปัจจุบัน รถแบตติสตาทำความเร็วได้เหนือกว่ารถแข่งฟอร์มูลา วัน จากการที่ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที ทั้งยังมีกำลัง 1,900 แรงม้า และแรงบิด 2,340 Nm รถแบตติสตาผสานวิศวกรรมและเทคโนโลยีขั้นสุดในรูปแบบที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ขณะที่แบตเตอรี่ขนาด 120 kWh ของรถแบตติสตา ให้พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ซึ่งติดไว้หนึ่งตัวในล้อแต่ละจุด มีระยะวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ได้ไกล 476 กิโลเมตร และวิ่งตามมาตรฐาน US EPA ได้ไกล 300 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ รถแบตติสตาจะผลิตขึ้นไม่เกิน 150 คัน แต่ละคันจะผลิตด้วยมือที่โรงงานแบตติสตา อเทลิเยร์ ในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167381/PURA_Vision_01.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167380/PURA_Vision_02.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167378/PURA_Vision_03.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167376/PURA_Vision_04.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167375/PURA_Vision_05.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2167373/PURA_Vision_06.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1316779/4191823/Automobili_Pininfarina_Logo.jpg?p=medium600

 

PURA Vision 02
PURA Vision 02

 

PURA Vision 03
PURA Vision 03

 

PURA Vision 04
PURA Vision 04

 

PURA Vision 05
PURA Vision 05

 

PURA Vision 06
PURA Vision 06

 

 

Source: Automobili Pininfarina
Keywords: Auto Transportation New products/services Trade show news