ปักกิ่ง--5 กันยายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
มหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน (China International Fair for Trade in Services หรือ CIFTIS) ประจำปี 2566 ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันเสาร์ ณ กรุงปักกิ่ง นับเป็นการเปิดเวทีให้ประเทศจีนได้แสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการเปิดกว้างด้านการค้าภาคบริการ และสะท้อนถึงความตั้งใจจริงที่จะส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอในการประชุมสุดยอดการค้าภาคบริการโลก (Global Trade in Services Summit) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน โดยให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับทุกประเทศและทุกฝ่ายเพื่อดำเนินการพัฒนาอย่างครอบคลุมผ่านการเปิดกว้าง ส่งเสริมการเชื่อมโยงและการบูรณาการผ่านความร่วมมือ สนับสนุนกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาผ่านนวัตกรรม และสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมผ่านการให้บริการร่วมกัน เพื่อจับมือกันนำพาเศรษฐกิจโลกเข้าสู่เส้นทางการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
มหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน ประจำปี 2566 จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายน ภายใต้หัวข้อ "การเปิดกว้างนำไปสู่การพัฒนา ความร่วมมือสร้างอนาคตที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์"
สภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมมากขึ้น
นับตั้งแต่จัดงานครั้งแรกในปี 2555 มหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีนก็สามารถดึงดูดผู้จัดแสดงสินค้าได้มากกว่า 600,000 ราย จาก 196 ประเทศและภูมิภาค สำหรับในปีนี้ ตัวแทนจาก 59 ประเทศ และ 24 องค์กรระหว่างประเทศ จะตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกกว่า 500 แห่งและองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมได้มาร่วมนำเสนอความสำเร็จภายในงาน ส่งผลให้อัตราความเป็นสากลโดยรวมของงานอยู่ที่ 20%
ในการกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอ ประธานาธิบดีจีนเน้นย้ำว่าจีนจะสร้างสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่เปิดกว้างและครอบคลุมมากขึ้น
"เราจะขยายเครือข่ายเขตการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูงทั่วโลก มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเจรจาเกี่ยวกับรายการข้อจำกัดและข้อห้าม (Negative List) สำหรับการค้าภาคบริการและการลงทุน รวมถึงเปิดกว้างมากขึ้นในภาคบริการต่าง ๆ เช่น โทรคมนาคม การท่องเที่ยว กฎหมาย และการสอบวิชาชีพ ทั้งนี้ เขตสาธิตการบูรณาการระดับชาติเพื่อการเปิดกว้างมากขึ้นในภาคบริการ รวมถึงเขตการค้าเสรีนำร่องและท่าเรือการค้าเสรีที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จะเป็นกลุ่มแรกที่มีการปรับนโยบายให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศที่มีมาตรฐานสูง" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
ผู้นำจีนกล่าวเสริมว่า จีนจะขยายการเข้าถึงภาคบริการของจีน ยกระดับการเปิดกว้างการค้าภาคบริการข้ามพรมแดนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ปรับปรุงมาตรฐานการค้าภาคบริการ และขยายการเปิดกว้างทางสถาบันอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม คณะมุขมนตรีของจีนได้เปิดเผยแนวปฏิบัติซึ่งประกอบด้วยมาตรการเฉพาะ 24 ประการเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนจากต่างประเทศของจีน และเพิ่มการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ
มาตรการเหล่านี้ประกอบด้วย การขยายเขตนำร่องเพื่อเปิดกว้างมากขึ้นในด้านการบริการ การส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติรวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาดำเนินโครงการด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่มีความสำคัญ การอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญ และสมาชิกในครอบครัว ไปจนถึงการเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญของบุคลากรในหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ
ปัจจุบัน การคว่ำบาตรฝ่ายเดียว การกีดกันทางการค้า และการทวนกระแสโลภาภิวัตน์กำลังเพิ่มมากขึ้น ทว่าจีนยังคงเปิดกว้างและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับขยาย "เครือข่ายมิตร" ด้านการค้าภาคบริการ โดยจีนมีความสัมพันธ์ด้านการค้าภาคบริการกับเกือบ 240 ประเทศและภูมิภาค และได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือการค้าภาคบริการทวิภาคีกับ 14 ประเทศ
เส้นทางการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
องค์กรและสถาบันกว่า 60 แห่งได้มาร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในมหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน ประจำปี 2566 ครอบคลุมสาขาปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีทางการเงิน การแพทย์และการดูแลสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม เพื่ออัดฉีดพลังใหม่ ๆ ให้กับการพัฒนาการค้าภาคบริการ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะปรับปรุงเส้นทางการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
"จีนจะเร่งสร้างกลไกใหม่ ๆ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของการค้าภาคบริการ รวมทั้งนำร่องการปฏิรูประบบพื้นฐานด้านข้อมูล ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาการค้าดิจิทัลผ่านการปฏิรูปและนวัตกรรม" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
เขากล่าวเสริมว่า จีนจะผลักดันการพัฒนาการค้าภาคบริการแบบบูรณาการร่วมกับอุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่ การผลิตระดับไฮเอนด์ และการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อปลดล็อกพลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มากขึ้น
นอกจากนี้ จีนยังดำเนินการทดลองขั้นสูงเพื่อพัฒนาการค้าภาคบริการอย่างรอบด้าน ยกตัวอย่างเช่น จีนได้จัดตั้งเขตนำร่องความร่วมมืออีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม และสร้างเขตสาธิตระดับชาติสำหรับการพัฒนานวัตกรรมการค้าภาคบริการ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการค้าและสนับสนุนความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นที่มีทางคุณภาพสูง
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของการค้าภาคบริการก็เป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ การค้าภาคบริการผ่านระบบดิจิทัลของจีนเพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของการค้าภาคบริการโดยรวมถึง 3.8 จุดเปอร์เซ็นต์
ในตอนท้ายของการกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสนับสนุนการค้าเสรีและการค้าพหุภาคีที่ต้องอาศัยความพยายามอย่างมากกว่าจะได้มา รวมทั้งแบ่งปันโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาการค้าภาคบริการระดับโลก ตลอดจนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์โลกที่มีอนาคตสดใสยิ่งขึ้นและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
