ปักกิ่ง--11 กันยายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเมืองซางจื้อ (Shangzhi) มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยเขาได้เน้นย้ำถึงความพยายามที่จะเร่งฟื้นฟูบ้านเมืองหลังภัยพิบัติ และรับประกันความปลอดภัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม หลายพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเผชิญกับน้ำฝนปริมาณมากและน้ำท่วมอย่างหนัก หลังจากพายุไต้ฝุ่นทกซูรีและพายุไต้ฝุ่นขนุนเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ซึ่งสร้างความเสียหายและทำให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยหลังจากที่ระดับน้ำลดลงแล้ว โดยเน้นย้ำว่าการฟื้นฟูและการบูรณะหลังภัยพิบัติเป็นภารกิจสำคัญในภูมิภาคเหล่านี้
เร่งดำเนินการฟื้นฟู
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เมืองซางจื้อเผชิญกับฝนตกหนักมากที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน 79,000 คน เมืองซางจื้อเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ ดังนั้นพื้นที่เพาะปลูกเกือบ 420,000 หมู่ (mu) (28,000 เฮกตาร์) จึงได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก
นายสี จิ้นผิง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหมู่บ้านหลงหวังเหมียว (Longwangmiao) และพบว่าพื้นที่เพาะปลูกมากถึง 58.8% ได้รับความเสียหาย ขณะที่บ้านเรือนของครัวเรือนถาวร 149 ครัวเรือน จากทั้งหมด 193 ครัวเรือนได้รับความเสียหาย
นายสี จิ้นผิง ได้เดินไปตามทุ่งนาของหมู่บ้านเพื่อตรวจสอบผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมกับเดินไปตามถนนหนทางในหมู่บ้านเพื่อตรวจดูงานบูรณะบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ เนื่องจากฤดูหนาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาเร็วกว่าและยาวนานกว่าภาคอื่นของประเทศ นายสี จิ้นผิง จึงสั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นดูแลกิจกรรมในชีวิตประจำวันและการทำงานของชาวบ้านด้วยความใส่ใจ พร้อมทั้งวางแผนและดำเนินการล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ผู้นำจีนขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย เร่งฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ ลดความสูญเสียทางการเกษตรที่เกิดจากภัยพิบัติ และรับประกันความปลอดภัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนได้เยี่ยมเยือนชาวบ้านตามครัวเรือนเพื่อมอบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งรับฟังเรื่องราวความสูญเสียและให้กำลังใจในการเอาชนะความยากลำบาก เขาแสดงความหวังว่าอีกไม่นานชาวบ้านจะสามารถกลับมาทำงานและใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง และจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ตอกย้ำความสำคัญของการฟื้นฟู
การเยี่ยมเยือนหมู่บ้านหลงหวังเหมียวนับเป็นการตอกย้ำข้อเรียกร้องของผู้นำจีนที่ให้เร่งฟื้นฟูบ้านเมืองหลังภัยพิบัติ ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูน้ำหลาก
เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม เขาได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาภัยพิบัติ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับให้ความสำคัญสูงสุดในการรับประกันความปลอดภัยของประชาชน หลังจากที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ รวมถึงเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งส่งผลให้มีผู้ประสบภัยและสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก
ต่อมาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ระหว่างการตรวจเยี่ยมมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เขาสั่งการให้เตรียมการควบคุมน้ำท่วมและบรรเทาภัยพิบัติ ตลอดจนลดการบาดเจ็บล้มตายและการสูญเสียทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่ลุ่มแม่น้ำแยงซีเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ออกคำสั่งใหม่เพื่อรับมือกับฝนตกหนักทางตอนเหนือของจีนและภูมิภาคต่าง ๆ ตามแนวแม่น้ำฮวงโหและแม่น้ำหวยเหอ ซึ่งก่อให้เกิดน้ำท่วมและภัยพิบัติทางธรณีวิทยา ทำให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมากในปักกิ่งและเหอเป่ย
คำสั่งของนายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนความมั่นคงทางสังคม ต้องได้รับการรับประกันด้วยความพยายามสูงสุด
ภายใต้คำสั่งของนายสี จิ้นผิง หน่วยงานภาครัฐทุกระดับได้ดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลกลางได้จัดสรรงบประมาณมากกว่า 9.68 พันล้านหยวน (เกือบ 1.32 พันล้านดอลลาร์) ให้กับบรรดากองทุนป้องกันน้ำท่วมและบรรเทาภัยพิบัติ นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูน้ำหลากปีนี้
หลังจากที่จีนประสบความสำเร็จในการป้องกันน้ำท่วมและบรรเทาภัยพิบัติ คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้จัดการประชุมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม เพื่อเตรียมงานฟื้นฟูและบูรณะหลังภัยพิบัติเพิ่มเติมต่อไป
"ในประเทศจีน หากประชาชนประสบกับความยากลำบาก เราจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากจุดแข็งของระบอบสังคมนิยม นั่นคือ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในจุดใดจุดหนึ่ง ความช่วยเหลือจะมาจากทุกภาคส่วน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวกับชาวบ้านในหมู่บ้านหลงหวังเหมียว