ลอนดอน, 14 ก.ย. 2566 /PRNewswire/ -- การศึกษาใหม่เกี่ยวกับการรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมเผยว่า การรีไซเคิลกระป๋องเครื่องดื่มใช้แล้วช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) ได้ 60 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573 โดยการศึกษานี้จัดทำโดยสถาบันอะลูมิเนียมระหว่างประเทศ (International Aluminium Institute) หรือไอเอไอ (IAI) โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเอมิเรตส์ โกลบอล อะลูมิเนียม (Emirates Global Aluminium) คราวน์ โฮลดิงส์ (Crown Holdings) สภาอะลูมิเนียมออสเตรเลีย (Australian Aluminium Council) และโนเวลิส (Novelis)
ผลการประเมินนี้อยู่ในรายงานที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลกอย่างโรแลนด์ เบอร์เกอร์ (Roland Berger) รายงานนี้จัดทำให้กับไอเอไอ โดยได้เสนอแนวทาง 25 ประการเพื่อเพิ่มการรีไซเคิล และชุดคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ผ่านการจัดลำดับความสำคัญ เพื่อพัฒนาการรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมสำหรับ 6 ประเทศในตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และเอเชีย
การค้นพบและข้อเสนอแนะเหล่านี้มาจากการประเมินระบบการจัดการขยะกระป๋องในออสเตรเลีย กัมพูชา เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม
บรรดาประเทศดังกล่าวได้ร่วมกันให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำเสนอเกี่ยวกับการใช้กระป๋อง รวมถึงการรวบรวม และกระบวนการในประเทศและวัฒนธรรมต่าง ๆ การประเมินนี้ยังได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระแสการค้าเศษกระป๋องเครื่องดื่มใช้แล้ว (UBC) ในภูมิภาค ทั้งในภูมิภาคอ่าวอาหรับและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งทั้งสองพื้นที่เป็นจุดศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ
ในบรรดา 6 ประเทศดังกล่าวแต่ละประเทศนั้น ได้มีการวิเคราะห์ในแง่มุมต่าง ๆ รวมถึงแผนการจัดการและแผนการกำกับดูแลขยะ โครงสร้างพื้นฐานในการเก็บรวบรวม อัตราการรีไซเคิลและการฝังกลบ ปริมาณที่มีอยู่ในตลาด แนวโน้มการใช้งาน ประสิทธิภาพโดยรวม การค้ากระป๋องเครื่องดื่มใช้แล้ว การไหลของวัสดุ และเป้าหมายในอนาคต
เกาหลีใต้มีอัตราการรีไซเคิลสูงสุดที่ 96% รองลงมาคือเวียดนามที่ 93% ตามด้วยกัมพูชาที่ 90% ไทย 86% ออสเตรเลีย 74% และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 33%
6 ประเทศดังกล่าวนี้ แบ่งตามหลักเกณฑ์กว้าง ๆ ได้ 3 กลุ่ม ดังนี้
อะลูมิเนียมยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม โดยคาดว่าการบริโภคทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 50% ระหว่างปี 2563 – 2573 (กล่าวคือ จากระดับ 4.2 แสนล้านกระป๋อง สู่ระดับ 6.3 แสนล้านกระป๋องต่อปี)
คุณมาร์เลน เบอร์แทรม (Marlen Bertram) ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์และการคาดการณ์ของไอเอไอ กล่าวว่า "การศึกษาเชิงลึกนี้ได้ยืนยันสิ่งที่เราได้ตีพิมพ์ไปเมื่อปี 2565 ว่า กระป๋องอะลูมิเนียมที่วางจำหน่ายทั่วโลกประมาณ 71% หรือมากกว่านั้น มีการนำไปรีไซเคิล โดยทางไอเอไอได้เพิ่มความสูญเสียที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการรีไซเคิลลงในข้อมูลที่จัดส่งให้กับโรแลนด์ เบอร์เกอร์ ด้วย และพบว่า 79% ของกระป๋องที่วางจำหน่ายในตลาดของ 6 ประเทศดังกล่าวรวมกันแล้วจะถูกเปลี่ยนเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิลเพื่อการใช้งานอื่น ๆ ต่อไป"
"รายงานดังกล่าวยังเน้นย้ำให้เห็นถึงวิธีที่สำคัญในการทำให้อะลูมิเนียมรีไซเคิลได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการตระหนักรู้ที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับประโยชน์ของการรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียม การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ รายงานยังแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมของเรามีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินการตามแผนการ เพื่อสร้างความแตกต่างอันมีคุณค่าในการเพิ่มอัตราการรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมได้อย่างไร"
"ศักยภาพในการลดคาร์บอนของการรีไซเคิลนั้นไม่ควรประเมินเอาไว้ต่ำเกินไป โดยการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมที่ใช้แล้วมีบทบาทอย่างมากต่อการลดการปล่อยคาร์บอนโดยรวมของอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม เนื่องจากการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์เหล่านี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 0.6 ตันต่อตัน ซึ่งน้อยกว่าการผลิตอะลูมิเนียมใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 16.6 ตันต่อตัน ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่สมาชิกของไอเอไอมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิตอะลูมิเนียมตั้งแต่เริ่มต้น และเพิ่มการใช้เศษอะลูมิเนียม ซึ่งจะช่วยลดการฝังกลบอะลูมิเนียมที่ใช้งานแล้ว"
ประเด็นสำคัญของการศึกษาชิ้นนี้ รวมถึง
คุณอับดุลนัสเซอร์ อิบราฮิม ซาอิฟ บิน คัลบาน (Abdulnasser Ibrahim Saif Bin Kalban) ซีอีโอของเอมิเรตส์ โกลบอล อะลูมิเนียม ชี้ว่า "อะลูมิเนียมเป็นวัสดุสำคัญสำหรับการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนมากขึ้น การรีไซเคิลอะลูมิเนียมใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตอะลูมิเนียมใหม่เป็นอย่างมาก แต่อะลูมิเนียมที่ถูกนำไปฝังกลบก็ยังมีปริมาณมากเกินไป เราต้องพัฒนาทั้งระบบการแยกอะลูมิเนียม เช่น กระป๋องเครื่องดื่มใช้แล้ว และโครงสร้างพื้นฐานในการรีไซเคิล เรากำลังมีความก้าวหน้า แต่ยังมีหลายอย่างอีกมากที่ต้องทำ ซึ่งเอมิเรตส์ โกลบอล อะลูมิเนียม จะเข้ามามีส่วนร่วม เรากำลังพัฒนาโรงงานรีไซเคิล และในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น เรากำลังร่วมงานกับผู้ผลิตกระป๋อง ผู้ผลิตเครื่องดื่ม และบริษัทจัดการขยะ เพื่อยกระดับการรีไซเคิลอะลูมิเนียมในสังคม"
คุณมาร์กานิตา จอห์นสัน (Marghanita Johnson) กรรมการบริหารสภาอะลูมิเนียมออสเตรเลีย กล่าวว่า "การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะมีนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานที่ก้าวหน้าสำหรับการรีไซเคิลในออสเตรเลีย แต่ยังมีโอกาสที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และมีการดำเนินการที่สามารถทำได้เป็นรายบุคคลและทำแบบร่วมมือกัน เพื่อช่วยพัฒนาอัตราการรีไซเคิลกระป๋อง ลดการปนเปื้อน และเพื่อเพิ่มอัตราการนำกระป๋องกลับมาใช้ซ้ำ"
คุณซองดรีน ดูเกอร์รอย-เดอเลแซล (Sandrine Duquerroy-Delesalle) ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและกิจการภายนอกของคราวน์ กล่าวว่า "ความสามารถที่เหนือกว่าในการรีไซเคิลกระป๋องเครื่องดื่มอะลูมิเนียมได้สร้างแรงบันดาลใจให้เราอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิลที่แข็งแกร่งขึ้นทั่วโลก"
"จากการศึกษาใหม่นี้ เราได้ระบุกลไกที่มีประสิทธิภาพในตลาดสำคัญ 4 แห่งสำหรับคราวน์ ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในซัพพลายเชนอะลูมิเนียมนั้นนำไปใช้ได้ และควรรับผิดชอบต่อการดำเนินการ เราหวังว่ารัฐบาลในแต่ละภูมิภาคจะตระหนักถึงบทบาทสำคัญที่พวกเขามีในการสร้างกรอบนโยบายที่เหมาะสม เพื่อใช้แนวทางเหล่านี้และผลักดันความคืบหน้า เราจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางกฎหมาย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยส่งเสริมการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล ทั้งในกรอบเวลาที่ต้องทำทันทีและในระยะยาว"
คุณซาชิน สัตปูตี (Sachin Satpute) ประธานโนเวลิส เอเชีย กล่าวเสริมว่า "การรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมแบบนำกลับมาใช้ซ้ำ คือวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการประหยัดทรัพยากรและพลังงาน รวมถึงการลดการปล่อยมลพิษคาร์บอนในอุตสาหกรรม กระป๋องอะลูมิเนียมใช้แล้วสามารถรีไซเคิลและนำกลับไปวางจำหน่ายใหม่ในร้านค้าได้ภายในระยะเวลาเพียง 60 วัน การรีไซเคิลอะลูมิเนียมใช้พลังงานเพียง 5 % ของพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตอะลูมิเนียมใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น ส่งผลให้การปล่อยมลพิษคาร์บอนลดลงถึง 95% ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น โนเวลิสได้ลงทุนและประกาศพัฒนาขีดความสามารถในการรีไซเคิลทั่วโลกเป็นเงินถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เราจะร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก ๆ ในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อพัฒนาวงจรชีวิตของกระป๋องอะลูมิเนียมด้วยการพัฒนาการรีไซเคิลกระป๋องแบบนำกลับมาใช้ซ้ำ"
การประเมินนี้ประกอบด้วยการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การทบทวนกฎระเบียบ การประเมินบริบทของตลาดและห่วงโซ่คุณค่า การทบทวนการรวบรวมข้อมูล และการกำหนดพื้นฐาน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อค้นพบจากการศึกษานี้ได้ในเอกสารสรุปข้อมูลของเราที่ "การรีไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเอเชียแปซิฟิก: การทบทวนความสมบูรณ์ของการจัดการขยะใน 6 ประเทศ" (Aluminium Can Recycling in the United Arab Emirates and Asia Pacific: A Review Of Waste Management Maturity In Six Countries)
Logo - https://mma.prnasia.com/media2/2210219/International_Aluminium_Institute_Logo.jpg?p=medium600