สิงคโปร์--9 ต.ค 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
เกเบอริท (Geberit) ผู้นำด้านสุขภัณฑ์จากยุโรป เปิดแฟลกชิปโชว์รูมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ณ ห้างสรรพสินค้ามารินาสแควร์ (Marina Square) ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 โดยได้รับเกียรติจากนายแฟรงก์ กรึตเตอร์ (Frank Grütter) เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศสิงคโปร์ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่น ๆ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดครั้งนี้
Ribbon cutting ceremony with (Left to Right): Michael Allenspach, Managing Director of Geberit North & South East Asia, Ambassador Frank Grütter, Swiss Ambassador to Singapore and Brunei, and Mr Yeo Siew Hong, Managing Director of Econflo Systems.
โชว์รูมที่มารินาสแควร์ครอบคลุมพื้นที่ 140 ตารางเมตร พร้อมให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์จากแบรนด์เกเบอริทอย่างเต็มที่ โดยโชว์รูมแห่งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางการขยายธุรกิจของเกเบอริท เนื่องจากเป็นโชว์รูมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเสนอสุขภัณฑ์ปฏิวัติวงการของเกเบอริทอย่างเต็มรูปแบบ การที่เกเบอริทตัดสินใจเปิดโชว์รูมในห้างสรรพสินค้าอันคึกคักแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดึงดูดลูกค้า ทั้งผู้บริโภครายย่อยและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาคารและการก่อสร้าง
เกเบอริทคือผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยกำหนดนิยามใหม่ของระบบน้ำทั้งหมด ตั้งแต่ถังพักน้ำ ห้องน้ำ ไปจนถึงท่อระบายน้ำ สำหรับคอนเซปต์ของโชว์รูมแห่งใหม่คือการนำเสนอสุขภัณฑ์แบบคู่ขนาน ได้แก่ เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่หลังผนังและสุขภัณฑ์ที่อยู่ด้านหน้าผนัง เพื่อสร้างประสบการณ์ห้องน้ำที่กลมกลืนกัน ซึ่งผสมผสานการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเข้ากับการตกแต่งห้องน้ำอย่างสวยงามลงตัว
ผู้เยี่ยมชมโชว์รูมสามารถรับชมการสาธิตเทคโนโลยีล้ำสมัยของเกเบอริท ดังนี้
ผลิตภัณฑ์ของเกเบอริทสามารถตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้บริโภครายย่อยที่ฉลาดเลือกไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาคารและการก่อสร้าง โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผสมผสานการออกแบบที่หรูหราเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัว ช่วยให้ติดตั้งและบำรุงรักษาได้ง่าย โดยผลิตภัณฑ์ของเกเบอริทมีทั้งโซลูชันประหยัดพื้นที่และเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ไปอีกขั้น
โชว์รูมแห่งใหม่มีการจัดสรรพื้นที่อย่างพิถีพิถัน โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน ดังนี้
1. ผนังทางเข้าตกแต่งอย่างน่าประทับใจ เพื่อนำเสนอความเป็นเลิศแบบฉบับสวิส (Swiss Excellence) ของเกเบอริท
2. โซนสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration Zone) มีการตกแต่งห้องน้ำด้วยสุขภัณฑ์ของเกเบอริท ซึ่งรวมถึงอ่างล้างหน้าและกระจก
3. โซนเทคโนโลยี (Technology Zone) นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงของเกเบอริท พร้อมการสาธิตระบบชำระล้างคุณภาพเยี่ยม
4. อคาเดมี (Academy) เปิดพื้นที่เฉพาะเพื่อให้พนักงานและลูกค้าได้พูดคุยและค้นหาโซลูชันที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
ชื่อเสียงของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมนั้น ส่งผลให้สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการเปิดแฟลกชิปโชว์รูมของเกเบอริท และในโอกาสนี้ อีคอนโฟล ซิสเต็มส์ (Econflo Systems) ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่ผันตัวมาเป็นองค์กรผู้จัดหาสุขภัณฑ์ให้แก่โครงการของภาครัฐและโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ของภาคเอกชนในสิงคโปร์ ได้ผนึกกำลังกับเกเบอริทในฐานะพันธมิตรในท้องถิ่น โดยจะมีการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมของอีคอนโฟลในด้านการค้าปลีกและชื่อเสียงอันแข็งแกร่งของเกเบอริท เพื่อเพิ่มการรับรู้และความน่าดึงดูดใจของผลิตภัณฑ์จากเกเบอริท
คุณเฮนรี ยู (Henry Yew) นักออกแบบตกแต่งภายในจากอินเด็กซ์ ดีไซน์ (Index Design) เป็นผู้นำการออกแบบโชว์รูม โดยผสมผสานอัตลักษณ์และค่านิยมของแบรนด์เกเบอริทเข้ากับการตกแต่งภายในแบบมินิมอล ซึ่งสะท้อนแนวคิด "Design Meets Function" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเกเบอริทในด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ ความยั่งยืน และนวัตกรรม สะท้อนให้เห็นในทุกแง่มุมของโชว์รูมสุดพิเศษแห่งนี้
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกเบอริทและผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ https://www.geberit.com.sg/
เกี่ยวกับเกเบอริท
เกเบอริท กรุ๊ป (Geberit Group) คือผู้นำด้านสุขภัณฑ์จากยุโรปที่ดำเนินธุรกิจทั่วโลก เกเบอริทมีธุรกิจที่แข็งแกร่งในเกือบทุกประเทศทั่วยุโรป โดยนำเสนอเทคโนโลยีสุขภัณฑ์และสุขภัณฑ์เซรามิกที่เพิ่มมูลค่าเฉพาะตัวให้กับห้องน้ำ เครือข่ายการผลิตของบริษัทประกอบด้วยโรงงานผลิต 26 แห่ง โดย 4 แห่งในจำนวนนี้อยู่ในต่างประเทศ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองรัพเพอร์สวิล-โจนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพนักงานราว 12,000 คน ในประมาณ 50 ประเทศ และมียอดขาย 3.4 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2565 ทั้งนี้ เกเบอริทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์ (SIX Swiss Exchange) และรวมอยู่ในดัชนีตลาดสวิส (Swiss Market Index หรือ SMI) มาตั้งแต่ปี 2555