ปักกิ่ง--16 ตุลาคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
ปัจจุบัน ชาเขียวออร์แกนิกคุณภาพสูงจากอำเภออู้หยวน มณฑลเจียงซีในภาคตะวันออกของจีน ได้ถูกจำหน่ายไปยังกว่า 60 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งนับเป็น 25 ปีติดต่อกันแล้วที่ชาออร์แกนิกครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป
ด้วยอัตราพื้นที่ป่าไม้ที่สูงถึงร้อยละ 82.6 อู้หยวนจึงมีสภาพแวดล้อมทางนิเวศที่สวยงาม และได้รับการยกย่องว่าเป็น "แหล่งออกซิเจนตามธรรมชาติ" สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ดีเช่นนี้ทำให้ชาของอำเภอสามารถทลายอุปสรรคจนสามารถเข้าสู่ตลาดสีเขียวของยุโรป และก้าวไปสู่ระดับโลกได้
"เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ ดำเนินการพัฒนาสีเขียว และผลักดันการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศให้สอดประสานไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวในโอกาสเป็นประธานการประชุมสัมมนาว่าด้วยการพัฒนาความก้าวหน้าของแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ณ เมืองหนานชาง มณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ
"น้ำใสและภูเขาเขียวขจีคือสมบัติอันล้ำค่า" แนวคิดหลักในการผลักดันการพัฒนาระบบนิเวศของจีนนี้ไม่เพียงนำไปสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมของประเทศแบบขนานใหญ่เท่านั้น แต่ยังสร้างแรงกระตุ้นการเติบโตใหม่สำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย
ข้อมูลของสำนักงานป่าไม้และทุ่งหญ้าแห่งชาติระบุว่า พื้นที่ป่าไม้และปริมาณป่าของจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 24.02 และมีพื้นที่อนุรักษ์ป่าปลูกรวม 1.314 พันล้านหมู่ (mu) ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนลดความเข้มข้นของการใช้พลังงาน (energy intensity) ลงได้ร้อยละ 26.4 ทำให้จีนเป็นประเทศที่ลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานได้เร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
ขณะเดียวกัน จีนมีส่วนสนับสนุนกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนใหม่ของโลก คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 48 ในปี 2565 ตามข้อมูลในรายงานของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (IRENA)
ฟรานเชสโก ลา คาเมรา (Francesco La Camera) ผู้อำนวยการใหญ่ของ IRENA กล่าวกับไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group) ว่า จีนมุ่งมั่นสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในระหว่างการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการเสริมการการจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศอย่างครอบคลุม เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมมลพิษในพื้นที่สำคัญ ประสานทรัพยากรน้ำ สิ่งแวดล้อม และนิเวศวิทยา ตลอดจนส่งเสริมการป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศและดินอย่างจริงจัง เพื่อลดปริมาณการปล่อยมลพิษทั้งหมดตั้งแต่ต้น
ดำเนินการพัฒนาสีเขียว
จีนพัฒนาการท่องเที่ยวชนบทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเพื่อเพิ่ม "สีเขียว" ให้กับการพัฒนาระบบนิเวศ โดยเปลี่ยนความได้เปรียบทางนิเวศวิทยาและความงามตามธรรมชาติให้เป็นแรงผลักดันสำหรับการพัฒนาสีเขียว
แม้ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ตำบลจงหยวนซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าบนเนินเขาในมณฑลเจียงซี ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วประเทศในช่วงฤดูร้อน
จงหยวนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเขตภูเขาจิ่วหลิง มีอากาศเย็นกว่าพื้นที่อื่นในฤดูร้อน เนื่องจากปกคลุมด้วยป่าไม้ถึงเกือบร้อยละ 90 ของพื้นที่ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนา "เศรษฐกิจฤดูร้อน"
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า มีโฮมสเตย์ที่จดทะเบียนในเขตตากอากาศฤดูร้อนของจงหยวนมากถึง 721 แห่ง ซึ่งเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวราว 30,000 คนในทุกฤดูร้อน นอกจากนี้ ครอบครัวกว่า 640 ครอบครัวในจงหยวนยังได้เริ่มทำธุรกิจความบันเทิงทางการเกษตร ซึ่งสร้างงานให้กับชาวบ้านมากกว่า 2,000 คน
นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว จีนกำลังเดินหน้าผลักดันการปฏิรูปอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนผิวน้ำ ซึ่งมีอุณหภูมิของน้ำต่ำกว่าแหล่งน้ำเปิด จึงเอื้อต่อการทำฟาร์มประมงเนื่องจากมีปริมาณออกซิเจนในน้ำสูงกว่า
จากข้อมูลของสภาการไฟฟ้าแห่งประเทศจีนในช่วงปี 2549-2565 พบว่า อุตสาหกรรมพลังงานของจีนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 2.473 หมื่นล้านตัน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิรูปและการยกระดับอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลักดันการขยายตัวของอุตสาหกรรมสีเขียวและคาร์บอนต่ำให้เร็วขึ้น พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์สีเขียว ตลอดจนเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งของการพัฒนา