เซี่ยเหมิน, จีน--3 พฤศจิกายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
งานประชุมใหญ่เชิงวิชาการอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า (Conference on the Electric Power Supply Industry หรือ CEPSI) ครั้งที่ 24 ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2566 ณ เมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน
งานประชุมใหญ่ครั้งนี้มีสมาพันธ์อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าแห่งเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกตะวันตก (AESIEAP) และสภาการไฟฟ้าแห่งประเทศจีน (CEC) เป็นเจ้าภาพ ร่วมกับบริษัทและองค์กรด้านพลังงานรายใหญ่ของจีนอีก 18 แห่ง โดยการประชุมจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "พลังงานคาร์บอนต่ำขับเคลื่อนอนาคตสีเขียว" (Low Carbon Energy Powering a Green Future) และถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่หวนกลับมาจัดงานในจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง หรือนับตั้งแต่ปี 2547 นอกจากนั้นยังเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติอีกงานในปีนี้ ถัดจากการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road International Cooperation Summit Forum) ครั้งที่ 3
งานประชุมใหญ่ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นระยะเวลาสามวันด้วยกัน โดยนอกเหนือจากการกล่าวสุนทรพจน์หลักแล้ว คณะกรรมการด้านเทคนิคของ AESIEAP ยังได้ออกรายงานฉบับพิเศษ พร้อมจัดการประชุมแลกเปลี่ยนเอกสารในหัวข้อพิเศษอีก 11 หัวข้อ นอกจากนั้นยังจัดการประชุมคู่ขนานอีก 3 การประชุม ขณะเดียวกันยังมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม นิทรรศการ และการเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ นับเป็นเวทีที่มีมิติหลากหลายสำหรับการสื่อสารและการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมงานกับผู้แทนจากองค์กรต่าง ๆ และในส่วนของการจัดนิทรรศการนั้นครอบคลุมพื้นที่มากถึง 17,500 ตารางเมตร โดยมีการจัดแสดงความสำเร็จของหน่วยงานสมาชิก AESIEAP งานนี้มีแขกเข้าร่วมราว 3,000 คน จากองค์กรต่าง ๆ เกือบ 600 แห่ง ซึ่งรวมถึงหน่วยงานภาครัฐ บริษัทพลังงาน สมาคมอุตสาหกรรม องค์กรวิจัย และมหาวิทยาลัยจากกว่า 50 ประเทศและภูมิภาค อนึ่ง งานประชุมที่จัดขึ้นแสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือและการสื่อสารด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่เปิดทางไปสู่การสร้างประชาคมพลังงานเอเชียแปซิฟิกที่มีอนาคตร่วมกัน
สำหรับพิธีปิดงานในช่วงเย็นของวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ได้มีการจัดพิธีส่งมอบธงให้ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นประธานของ AESIEAP ในปี 2567-2568 ทั้งนี้ AESIEAP จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนแนวคิดประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่มีอนาคตร่วมกัน และผนึกกำลังกันสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับการพัฒนาพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป