ปักกิ่ง, 12 ธันวาคม 2568 /PRNewswire/ -- CGTN เผยแพร่บทความสรุปวาระเศรษฐกิจจีนปี 2569 ซึ่งเน้นย้ำความมุ่งมั่นของชาติในการเสริมสร้างอุปสงค์ภายในประเทศ ส่งเสริมนวัตกรรม และขยายการเปิดกว้างในระดับสูง อันส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นและสร้างความมั่นใจมากขึ้นสำหรับการพัฒนาระดับโลก พร้อมกับที่บรรดาผู้นำจีนมารวมตัวกันในการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปี ณ กรุงปักกิ่ง
เหล่าผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปี ซึ่งเป็นเข็มทิศสำหรับทิศทางเศรษฐกิจของจีน ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10 และ 11 ธันวาคม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในการทบทวนผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในปี 2568 ประเมินความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ และกำหนดลำดับความสำคัญสำหรับปี 2569 ซึ่งเป็นปีแรกของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะเวลาห้าปีฉบับที่ 15 (2569-2573)
บรรดาผู้นำเน้นย้ำว่านโยบายในปีหน้าจะมุ่งเน้นไปที่ "การแสวงหาความก้าวหน้าควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพ" และ "การปรับปรุงทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ" โดยได้กำหนดภารกิจหลักแปดประการ ได้แก่ การกระตุ้นความต้องการภายในประเทศ การส่งเสริมนวัตกรรม การปฏิรูปและการเปิดประเทศอย่างลึกซึ้ง เสริมสร้างการพัฒนาคาร์บอนต่ำ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การประชุมครั้งนี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจีนกำลังก้าวสู่ปี 2569 ด้วยความเชื่อมั่น ความชัดเจนทางนโยบาย และแรงผลักดันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพและโอกาสให้กับเศรษฐกิจโลก
อุปสงค์ภายในประเทศเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโต
การประชุมเน้นย้ำว่า การเพิ่มการบริโภคภายในประเทศเป็นลำดับความสำคัญทางเศรษฐกิจหลักสำหรับปีหน้า ผู้กำหนดนโยบายวางแผนที่จะดำเนินการเฉพาะเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ปรับปรุงนโยบาย "two new" ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาอุปกรณ์ขนาดใหญ่และการนำสินค้าเก่ามาประเมินมูลค่าเพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าใหม่ รวมถึงขจัดข้อจำกัดที่ไม่สมเหตุสมผลในภาคผู้บริโภคเพื่อปลดล็อกศักยภาพของการบริโภคภาคบริการ
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ตลาดผู้บริโภคของจีนยังคงแข็งแกร่งในปี 2568 โดยสามไตรมาสแรก การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคขั้นสุดท้ายมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของ GDP ถึง 53.5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นเก้าเปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ยอดขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเกิน 40 ล้านล้านหยวน (5.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 4.3 เปอร์เซ็นต์เทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของปีที่แล้ว
Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อธิบายถึงการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของจีนในปี 2568 โดย IMF เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการสัมภาษณ์พิเศษกับ CGTN โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริโภคภายในประเทศในการสนับสนุนความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ เธอชื่นชมความมุ่งมั่นของจีนในการรักษาระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและมีความรับผิดชอบ โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้สนับสนุนการมุ่งเน้นด้านการบริโภคในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมห้าปีฉบับใหม่ของประเทศ
นวัตกรรมขับเคลื่อนการเติบโตใหม่
นวัตกรรมจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการพัฒนา จีนตั้งเป้าที่จะสร้างศูนย์กลางนวัตกรรมระดับนานาชาติในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย เขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า นโยบายต่าง ๆ จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมนวัตกรรมที่นำโดยภาคธุรกิจ การเสริมสร้างการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ การขยายขีดความสามารถของภาคบริการ และการพัฒนา AI ผ่านการกำกับดูแลที่ดีขึ้นและการบูรณาการเทคโนโลยีและการเงิน
จากดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2568 จีนติดอันดับ 10 เป็นครั้งแรกและยังคงเป็นอันดับสูงสุดในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับบน 36 แห่ง บรรดากลุ่มนวัตกรรมของจีนอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก โดยมีกลุ่มเซินเจิ้น-ฮ่องกง-กว่างโจวครองอันดับหนึ่ง Bloomberg Economics คาดการณ์ว่าภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเติบโตจาก 14.3 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ในปี 2566 เป็นเกือบ 19 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2569
จีนที่เปิดกว้างสร้างความมั่นใจให้กับโลก
การเปิดประเทศยังคงเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ของจีน และการประชุมครั้งนี้ตอกย้ำว่าจีนจะขยายการเปิดประเทศทั้งในด้านสถาบันและด้านความเป็นอิสระในภาคบริการ ปรับปรุงโครงสร้างเขตการค้าเสรี และพัฒนาท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน
การค้าต่างประเทศของจีนในปีนี้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นแม้จะเผชิญกับความท้าทายระดับโลก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน การนำเข้าและส่งออกรวมอยู่ที่ 41.21 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.6 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
ผลสำรวจระดับโลกของ CGTN เมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่า 86.7 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าความพยายามอย่างต่อเนื่องของจีนในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศจะสร้างโอกาสสำคัญ ๆ แก่บรรดาบริษัทระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกัน 89.1 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าการขยายการเปิดประเทศอย่างต่อเนื่องของจีนจะสร้างโอกาสในการพัฒนาทั่วโลกอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น