ปักกิ่ง--15 พฤศจิกายน 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต
จีนประกาศว่าจะเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติโดยคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ในขณะที่กรุงปักกิ่ง มณฑลเหอเป่ย และอีกหลายพื้นที่ของประเทศ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและธรณีพิบัติภัย หลังเกิดฝนตกหนักในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมและต้นเดือนสิงหาคม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ได้เยี่ยมเยือนพื้นที่ประสบภัยในกรุงปักกิ่งและมณฑลเหอเป่ย เพื่อตรวจสอบการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม และในขณะที่ฤดูหนาวคืบคลานมายังภาคเหนือของจีน เขาได้เรียกร้องให้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและกำจัดจุดอ่อน พร้อมกับเร่งปรับปรุงระบบป้องกันน้ำท่วมและการจัดการเหตุฉุกเฉิน
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวในเขตเหมินโถวโกวของกรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ได้พูดคุยกับนักเรียน เขากล่าวว่าดีใจที่ได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเด็ก ๆ ที่ได้กลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง และในโอกาสนี้ เขาได้เรียกร้องให้มีการปรับปรุงการให้ความรู้เรื่องความปลอดภัย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเด็ก ๆ
หลังจากนั้นประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้พบและแสดงความเสียใจกับสมาชิกในครอบครัวของผู้กล้าที่เสียสละชีวิตของตนเองในช่วงที่เกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ เขาได้พูดคุยกับสมาชิกพรรคระดับท้องถิ่นและผู้ปฏิบัติงานป้องกันอุทกภัยและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่
ยกระดับความพยายามในการป้องกันภัยพิบัติ
ในวันเดียวกันนั้นเอง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เยี่ยมเยือนหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลเหมียวเฟิงซาน โดยเขาได้ตรวจสอบการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่
"หลังน้ำท่วมใหญ่ เราจำเป็นต้องดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงขนานใหญ่ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการอนุรักษ์น้ำและการควบคุมน้ำท่วมขนานใหญ่เช่นกัน" ผู้นำจีนกล่าวกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมกับเรียกร้องให้บูรณาการการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติและการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูงเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีการปรับปรุงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยเจาะจงเป็นพิเศษว่า การฟื้นฟูชนบทและการสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาควรดำเนินไปพร้อมกับกระบวนการฟื้นฟู เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติอย่างรอบด้าน
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบการจัดการเหตุฉุกเฉินในระดับรากหญ้าทั้งในเมืองและชนบท เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะสามารถช่วยเหลือตัวเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้