"ซานี่" ประกาศเป้าหมายรับปีใหม่ มุ่งสร้าง "แหล่งบ่มเพาะผู้มีความสามารถ" อย่างยั่งยืน เพื่อวันหน้าที่ดีกว่า

เซี่ยงไฮ้, 9 ม.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- ซานี่ กรุ๊ป (SANY Group) หรือ "ซานี่" เผยเป้าหมายรับปีใหม่ในการสร้าง 'แหล่งบ่มเพาะผู้มีความสามารถ' ที่มีความยั่งยืน เพื่อรุกสร้างอนาคตให้ดียิ่งขึ้น โครงการริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของซานี่ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในระดับโลก และสร้างแรงบันดาลใจผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในโครงการริเริ่มด้านสวัสดิการสาธารณะของซานี่

คุณเซียง เหวินโป (Xiang Wenbo) ประธานหมุนเวียนของซานี่ กรุ๊ป กล่าวว่า "เนื่องในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ ซานี่ขอส่งความปรารถนาอันอบอุ่นให้ทุกท่าน เราทุ่มเทในการจัดหาอุปกรณ์และโซลูชันต่าง ๆ เพื่อยกระดับชุมชนมนุษย์ โดยมีนวัตกรรมและความมุ่งมั่นที่เราดำเนินการเสมอมาในเรื่องกลยุทธ์ปั้นบุคลากรผู้มีความสามารถเป็นตัวขับเคลื่อน เราเปิดรับโลกาภิวัตน์ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และลดการปล่อยคาร์บอน ทั้งยังมีเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและชัดเจน เพื่อดำเนินการอย่างเด็ดขาดในการส่งเสริมความยั่งยืนระดับโลก เรายินดีต้อนรับคนใหม่ ๆ มาร่วมสร้างโลกที่ดีกว่าและยั่งยืนมากขึ้นไปกับเรา"

โลกาภิวัตน์ นวัตกรรมดิจิทัล และการลดคาร์บอน ดันซานี่สู่การเป็นผู้นำในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมสู่อนาคตที่มีความชาญฉลาด

เมื่อปี 2566 ซานี่ได้รับเลือกจากฟอร์บส์ ไชนา (Forbes China) ให้เป็น "นายจ้างที่ดีที่สุดของจีน" เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สัญชาติจีนเพียงรายเดียวที่อยู่ในการจัดอันดับดังกล่าว ซานี่ยกให้การวิจัยและพัฒนา (R&D) เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน โดยนำ 5% ของรายได้จากการขายในแต่ละปีไปอัดฉีดให้กับฝ่ายวิจัยและพัฒนา ซานี่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนามากกว่า 10,000 คน และขณะนี้ก็กำลังขับเคลื่อนขอบเขตอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างของจีนอย่างต่อเนื่อง

ซานี่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดนวัตกรรมเฟ้นหาผู้นำยุคใหม่ ทั้งยังได้จัดการสัมมนา การฝึกอบรม ค่าย และการบรรยายต่าง ๆ เพื่อค้นหาและปลูกฝังผู้มีความสามารถ พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรด้วยพลังแห่งนวัตกรรมล้ำสมัย

ในปี 2566 ซานี่ได้ขยายธุรกิจไปยัง 178 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยส่งมอบอุปกรณ์ไปถึง 300,000 หน่วยให้กับลูกค้า 18,000 ราย ซึ่งในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 นั้น ผลิตภัณฑ์ของซานี่ยังคงมีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 4.047 พันล้านหยวน (565.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ทำยอดขายในต่างประเทศได้ 2.2466 หมื่นล้านหยวน (3.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 35.87% เมื่อเทียบเป็นรายปี และคิดเป็นสัดส่วน 56.88% ของรายได้รวม ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ารายได้และกำไรส่วนใหญ่ของซานี่มาจากต่างประเทศ นับเป็นหมุดหมายสำคัญในกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของซานี่

กลยุทธ์ 3 ประการของซานี่อย่างโลกาภิวัตน์ นวัตกรรมดิจิทัล และการลดคาร์บอนนั้นให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ โดยมีโรงงาน 6 แห่งของบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อโรงงาน 5G ประจำปี 2566 ทั้งนี้ ทางเครือฯ ได้ให้การสนับสนุนในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง พร้อมนำระบบไฟฟ้ามาใช้กับผลิตภัณฑ์ของซานี่เพื่อกวาดส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้ และขยายกลยุทธ์ไปสู่ภาคพลังงานใหม่ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ไฮโดรเจน และการจัดเก็บพลังงาน

ในปี 2566 ซานี่รับหน้าที่เป็นหัวหอกในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักไปสู่การผลิตอัจฉริยะ ซานี่มีโรงงานระดับไลต์เฮาส์ (lighthouse) ที่ได้รับการรับรองในภาคส่วนของตนเองอยู่ 2 แห่ง ซึ่งได้เข้ามาสร้างมาตรฐานเอาไว้สูงมาก โดยโรงงานหมายเลข 18 ในฉางชานั้นดำเนินการตามแนวคิด "Garden Scenario" ซึ่งได้เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนอย่างเห็นได้ชัด และปัจจุบัน ซานี่กำลังพัฒนาโรงงานระดับไลต์เฮาส์ในต่างประเทศแห่งแรกของซานี่ที่ประเทศอินโดนีเซียตามมาตรฐานอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจในระดับสากล

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ซานี่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการสำนักงานใหญ่ในแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการ โดยหวังปั้นให้เป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ ซานี่ทุ่มทุนมากถึง 300 ล้านแรนด์ (16.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี และจะรองรับการผลิตรถขุดและผลิตภัณฑ์อุปกรณ์อื่น ๆ ได้ 1,000 หน่วยต่อปี

คุณเซียง กล่าวว่า "ในภายภาคหน้านั้น ซานี่มองว่าการนำโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมมารวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่เป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในอนาคต โดยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและสารสนเทศใหม่ ๆ กำลังเข้ามากระตุ้นความต้องการใหม่ ๆ เช่นเดียวกับโอกาสในการเติบโต โดยที่ตลาดต่างประเทศดูมีศักยภาพมากขึ้นสำหรับผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างของจีน"