หางโจว, จีน, 25 ม.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- ประเด็นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมความปลอดภัยในปี 2567 ถือเป็นภาพรวมที่น่าตื่นเต้นซึ่ง Hikvision กำลังดำเนินการอยู่ จากการเปิดรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและปรับให้เข้ากับความต้องการของสังคมซึ่งเปลี่ยนแปลงไป เราจึงได้เห็นการบรรจบกันของเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันด้วยกัน (IoT) และบิ๊กดาต้า นวัตกรรมเหล่านี้กำลังปูทางไปสู่โซลูชันการรักษาความปลอดภัยเชิงรุกอันชาญฉลาดและคาดการณ์ได้มากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการที่ใช้งานง่ายอีกด้วย
Hikvision ขอแบ่งปัน 7 เทรนด์สำคัญซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยในปีนี้
1. AI กำลังยกระดับการประมวลผลในเครื่องจักร
AI กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมความปลอดภัยโดยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเครื่องจักรผ่านการควบรวมแสงที่มองเห็น เสียง รังสีเอ็กซ์เรย์ แสงอินฟราเรด เรดาร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้าไว้ด้วยกัน
ตัวอย่างหนึ่งคือเทคโนโลยีการประมวลผลสัญญาณภาพปัญญาประดิษฐ์ (AI-ISP) ปฏิวัติการถ่ายภาพวิดีโอ และมอบการมองเห็นคุณภาพสูงผ่านการลดสัญญาณรบกวนอัจฉริยะ ช่วยให้ได้ภาพซึ่งชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างและรายละเอียดอันคมชัดแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ลดการพึ่งพาแสงเพิ่มเติม และนำไปสู่การตอบสนองต่อสถานการณ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. แอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถูกออกแบบเพื่อปฏิวัติอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ในปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าในโมเดล AI ขนาดใหญ่ได้ยกระดับความสามารถในการตีความสถานการณ์อันซับซ้อนโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลาย Hikvision เชื่อว่าความก้าวหน้าดังกล่าวจะสร้างความเป็นไปได้สำหรับโซลูชัน AI ซึ่งปรับปรุงให้ดีขึ้นในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งการผลิต พลังงาน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา
ด้วยแพลตฟอร์มแบบเปิดและอัลกอริธึมขั้นสูง สถาปัตยกรรมที่มีความคล่องตัวมากขึ้นอำนวยความสะดวกในการนำ AI มาใช้อย่างราบรื่นตามระดับการจัดการที่หลากหลาย สิ่งนี้ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและสร้างระบบนิเวศอันเป็นนวัตกรรมเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
3. ความรุดหน้าในการผสานระบบประมวลผลแบบคลาวด์และเอดจ์
การบรรจบกันของระบบประมวลผลคลาวด์และเอดจ์กำลังผลักดันให้เกิดบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะนำไปสู่โซลูชันอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ เช่น การควบคุมขอบเขตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่สะดวกกว่าเดิม ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจผ่านระบบประมวลผลเอดจ์ได้ทันที แพลตฟอร์มบนคลาวด์ยังลดการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และเสนอตัวเลือกที่ปรับขนาดได้สำหรับธุรกิจทุกขนาดและงบประมาณ อันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
4. เทคโนโลยี Digital Twin จะปฏิวัติการบริหารจัดการธุรกิจ
โมเดลเสมือนจริงของวัตถุทางกายภาพ หรือ Digital twins เป็นการจำลองสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบเรียลไทม์ ด้วยการผสาน AIoT การประมวลผลบนคลาวด์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตัวชี้วัดประสิทธิภาพต่าง ๆ ในทันที เช่น ความปลอดภัย การรับส่งข้อมูล และการใช้พลังงาน ซึ่งทำให้ได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจจากการมองเห็นที่หลากหลายในคราวเดียว ยกระดับประสิทธิภาพของกระบวนการ ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที และนำไปสู่การประหยัดต้นทุนและการจัดการธุรกิจที่ดีขึ้น
5. เทคโนโลยีการแสดงผล โดยเฉพาะ LED จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
การนำเทคโนโลยี COB (ชิปออนบอร์ด) มาใช้อย่างแพร่หลายก่อให้เกิดอุปสงค์ใน LED ระดับพิทช์ขนาดเล็ก นอกจากนี้ โซลูชัน LED อันก้าวหน้ายังก่อให้เกิดการสร้างสมดุลระหว่างการใช้พลังงานที่น้อยลงด้วยความละเอียดสูง ส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน และรองรับการใช้งานในวงกว้าง วิดีโอประมวลผลแบบหลายจอในศูนย์บัญชาการช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดด้วยมุมมองที่ใช้งานง่าย จอแสดงผลแบบอินเทอร์แอคทีฟและป้ายดิจิทัลกำลังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบตัวเลขในภาคการศึกษา ธุรกิจ และการบริการ
6. ความปลอดภัยในการรับรองความถูกต้องของข้อมูลดิจิทัลมีความสำคัญมากขึ้น
การรับรองความถูกต้องของข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบและให้สิทธิ์ข้อมูลระบุตัวตน ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญ ผู้คุกคามใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น ฟิชชิง มัลแวร์ และการล่อลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลระบุตัวตน เพื่อปกป้องข้อมูลดังกล่าว ผู้ใช้งานและองค์กรควรมีรหัสผ่านที่รัดกุม ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย หลีกเลี่ยงเครือข่ายสาธารณะ อัปเดตซอฟต์แวร์ในเวลาที่เหมาะสม และป้องกันการชักจูงบุคคลให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ
7. เทคโนโลยีอันล้ำหน้าขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมหันมาใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการใช้ทรัพยากร ซึ่งรวมถึงการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ บรรจุภัณฑ์อันยั่งยืน และการใช้ส่วนประกอบที่ได้มาตรฐาน Hikvision ยังคาดหวังที่จะเห็นการนำเทคโนโลยีซึ่งเป็นนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การผสานอุปกรณ์ตรวจจับด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย จะช่วยให้สามารถตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟป่า แผ่นดินถล่ม และหิมะถล่มได้ดีขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้และเทรนด์ยอดนิยมอื่น ๆ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา หรือติดต่อเราได้ที่นี่