omniture

เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งกลุ่มประเทศบริกส์ ตอกย้ำประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่กำลังท้าทายระเบียบเศรษฐกิจโลก

Henley & Partners
2024-01-30 16:00 86

ลอนดอน, 30 มกราคม 2567 /PRNewswire/ -- เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน ได้เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS Wealth Report) ฉบับแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มประเทศบริกส์มีความมั่งคั่งที่สามารถนำไปลงทุนได้ (investable wealth) รวมมูลค่า 45 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจำนวนเศรษฐีจะเพิ่มขึ้นถึง 85% ในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน ในกลุ่มประเทศบริกส์มีเศรษฐี 1.6 ล้านคนที่มีสินทรัพย์ที่สามารถนำไปลงทุนได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้านดอลลาร์ (centi-millionaires) 4,716 คน และเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ 549 คน

แรกเริ่มเดิมทีกลุ่มประเทศบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ แต่ล่าสุดกลุ่มประเทศบริกส์ได้เพิ่มขุมพลังทางการเงินและอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเปิดรับสมาชิกใหม่จากภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในเดือนมกราคมนี้ ได้แก่ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่งผลให้ในขณะนี้ กลุ่มประเทศบริกส์มีประชากรคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 45% ของประชากรโลก และครองส่วนแบ่ง GDP โลก (เกือบ 36%) มากกว่ากลุ่มประเทศ G7 (30%) เมื่อปรับความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity: PPP)

ดร. ยอร์ก สเตฟเฟน (Dr. Juerg Steffen) ซีอีโอของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า การขยายกลุ่มประเทศบริกส์นำเสนอโอกาสใหม่ที่น่าดึงดูดใจให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการทั่วโลก "การรวมสมาชิกใหม่จากภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นการยอมรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ด้วย พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ รวมถึงสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมและธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์"

แนวโน้มการเติบโตของความมั่งคั่ง

รายงานฉบับใหม่เผยให้เห็นว่า ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ความมั่งคั่งส่วนบุคคลเติบโตอย่างน่าทึ่งถึง 92% ในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีเศรษฐี 862,400 คน ในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้าน 2,352 คน และเศรษฐีพันล้าน 305 คน ส่วนอินเดียตามมาเป็นอันดับ 2 ในการจัดอันดับบุคคลผู้มีความมั่งคั่งสูงในกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS HNWI) โดยมีเศรษฐี 326,400 คน ในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้านกว่า 1,000 คน และเศรษฐีพันล้าน 120 คน ขณะที่ความมั่งคั่งส่วนบุคคลพุ่งขึ้น 85% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้านจำนวนเศรษฐีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ทะยานขึ้น 77% นับตั้งแต่ปี 2556 และปัจจุบันมีเศรษฐี 116,500 คน ในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้านกว่า 300 คน นอกจากนี้ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ความมั่งคั่งส่วนบุคคลก็มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในซาอุดีอาระเบียและเอธิโอเปีย โดยมีจำนวนเศรษฐีเพิ่มขึ้น 35% และ 30% ตามลำดับ

คุณเจฟฟ์ ดี. ออปไดก์ (Jeff D. Opdyke) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลระดับแนวหน้า กล่าวว่า "ในเชิงเศรษฐกิจนั้น ประเทศที่ไม่ใช่ประเทศตะวันตก ซึ่งมีกลุ่มประเทศบริกส์เป็นแนวหน้า กำลังผลักดันโลกให้เข้าสู่ความเป็นจริงใหม่ นั่นคือ สถานะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเงินที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมที่โลกเคยยอมรับมานานเกือบแปดทศวรรษแบบพลิกฝ่ามือ"

เมื่อมองไปในทศวรรษหน้า อินเดียจะเป็นผู้นำกลุ่มประเทศบริกส์ด้วยความมั่งคั่งต่อหัวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 110% ภายในปี 2576 รองลงมาคือซาอุดีอาระเบียที่คาดว่าจะมีความมั่งคั่งต่อหัวเติบโตมากกว่า 105% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ตามมาด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (95%) จีน (85%) เอธิโอเปีย (75%) แอฟริกาใต้ (60%) และอียิปต์ (55%)

เมืองที่มั่งคั่งที่สุด

จีนมีห้าเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มั่งคั่งที่สุด 10 อันดับแรกในกลุ่มประเทศบริกส์ โดยเมืองหลวงปักกิ่งครองอันดับ 1 ด้วยจำนวนเศรษฐี 125,600 คน ในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้าน 347 คน และเศรษฐีพันล้าน 42 คน ส่วนอันดับ 2 คือเซี่ยงไฮ้ (เศรษฐี 123,400 คน) ตามมาด้วยเซินเจิ้น (อันดับ 5 มีเศรษฐี 50,300 คน) หางโจว (อันดับ 6 มีเศรษฐี 31,600 คน) และกว่างโจว (อันดับ 9 มีเศรษฐี 24,500 คน)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดียต่างก็มีสองเมืองที่ติด 10 อันดับแรก โดยดูไบรั้งอันดับ 3 ด้วยจำนวนเศรษฐี 72,500 คน (ในจำนวนนี้เป็นเศรษฐีร้อยล้าน 212 คน และเศรษฐีพันล้าน 15 คน) และอาบูดาบีติดอันดับ 10 ด้วยจำนวนเศรษฐี 22,700 คน (เศรษฐีร้อยล้าน 68 คน และเศรษฐีพันล้าน 5 คน) ขณะที่มุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอินเดีย คว้าอันดับ 4 ด้วยจำนวนเศรษฐี 58,800 คน (เศรษฐีร้อยล้าน 236 คน และเศรษฐีพันล้าน 29 คน) และเมืองหลวงเดลีรั้งอันดับ 7 ด้วยจำนวนเศรษฐี 31,000 คน (เศรษฐีร้อยล้าน 123 คน และเศรษฐีพันล้าน 16 คน) ส่วนทางด้านกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย อยู่ที่อันดับ 8 ด้วยจำนวนเศรษฐี 30,300 คน (เศรษฐีร้อยล้าน 207 คน และเศรษฐีพันล้าน 23 คน)

เมืองหลวงของรัสเซียเป็นเมืองเดียวใน 10 อันดับแรกที่มีจำนวนเศรษฐีลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยกรุงมอสโกมีเศรษฐีลดลง 24% ในขณะที่เมืองอื่น ๆ ที่มั่งคั่งที่สุดในกลุ่มประเทศบริกส์ต่างก็มีความมั่งคั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่อาบูดาบีที่มีจำนวนเศรษฐีเพิ่มขึ้น 75% ไปจนถึงเซินเจิ้นที่มีจำนวนเศรษฐีพุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่งมากถึง 140% จากปี 2556

คุณแอนดรูว์ เอมอยล์ส (Andrew Amoils) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทนิวเวิลด์เวลท์ (New World Wealth) กล่าวว่า มี 5 เมืองในกลุ่มประเทศบริกส์ที่น่าจับตามอง ได้แก่ บังกาลอร์ เคปทาวน์ เจดดาห์ ริยาด และชาร์จาห์ ซึ่งคาดว่าจะมีความมั่งคั่งส่วนบุคคลเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (มากกว่า 80%) ตลอดทศวรรษหน้า

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม

Source: Henley & Partners
Keywords: Banking/Financial Service Publishing/Information Service Economic news, trends, analysis Survey, Polls & Research
Related News