กรุงจาการ์ตา, อินโดนีเซีย, 8 ก.พ. 2567/พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- สุเอซ (SUEZ) ผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ เพิ่งลงนามในสัญญาโครงการโรงบำบัดน้ำ (WTP) Buaran III ในกรุงจาการ์ตา กลุ่มบริษัทจะจัดหาอุปกรณ์สำคัญสำหรับกระบวนการบำบัดน้ำ และจะให้บริการที่ปรึกษาทางเทคนิคสำหรับการติดตั้งและทดสอบการใช้งานระบบสาธารณูปโภค Buaran III โรงบำบัดน้ำใหม่ในเมืองหลวงของอินโดนีเซียจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบประปาของเมืองเพื่อจัดหาน้ำระยะยาวที่ปลอดภัยและมั่นคงให้ชุมชนท้องถิ่นได้
SUEZ's patented technology is applied in various countries and regions globally, with projects such as the Macao Water project initiative being regarded as one of the benchmarks in the Asian water industry.
ปัจจุบัน โรงบำบัดน้ำของกรุงจาการ์ตาสามารถบำบัดน้ำได้ 1.47 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้พื้นที่เมืองร้อยละ 65 มีน้ำสะอาดใช้ รัฐบาลของเมืองตั้งเป้ามีน้ำสะอาดในเมืองครอบคลุมร้อยละ 100 ภายในปี 2573 โดยวางแผนให้โรงบำบัดน้ำแห่งใหม่ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วยปริมาณเพิ่มเติม 960,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เมื่อโครงการโรงบำบัดน้ำ Buaran III เสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะช่วยเพิ่มความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายนี้ โดยจะจัดหาน้ำสะอาดเพิ่มเติม 260,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันให้กับชุมชนในกรุงจาการ์ตา ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 28 ของความจุน้ำที่เพิ่มขึ้นที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายปี 2573
ในกรุงจาการ์ตา ความขุ่นของน้ำดิบอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงฤดูฝน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการมีน้ำสะอาดใช้ในชุมชนเมือง ในฐานะซัพพลายเออร์เทคโนโลยีหลักในโครงการนี้ สุเอซจะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการบำบัดน้ำ ตลอดจนบริการให้คำปรึกษาทางเทคนิคสำหรับการติดตั้งและทดสอบการใช้งาน ถังพักตะกอน Densadeg™ และตัวกรอง Aquazur® V ที่ได้รับสิทธิบัตรของสุเอซจะถูกนำมาใช้เป็นนวัตกรรมให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและคุณภาพการบำบัดน้ำของโครงการดังกล่าว โดยถือเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้ง Densadeg™ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Francois Fevrier ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรน้ำเอเชีย สุเอซ กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างความร่วมมือครั้งใหม่ในกรุงจาการ์ตา เราภาคภูมิใจกับความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ และขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรที่ไว้วางใจ เราตั้งตารอให้โรงบำบัดน้ำ Buaran III เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสิ่งที่เราสืบทอดและการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างมูลค่าด้วยโซลูชั่นทางเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าของเราตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์และบริการ"
ตั้งแต่ปี 2496 สุเอซได้สร้างโรงงานผลิตน้ำและบำบัดน้ำเสียหลายแห่งทั่วประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการมีน้ำใช้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขยายการดำเนินงานไปยังเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ในขณะเดียวกัน สุเอซได้สั่งสมความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นในด้านการบริการจัดการน้ำและของเสียอย่างต่อเนื่องเพื่อแสวงหาความเป็นเลิศในภาคส่วนนี้และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เติบโต
เกี่ยวกับสุเอซ:
เมื่อเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น สุเอซได้ให้บริการที่จำเป็นที่คุ้มครองและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเรามานานกว่า 160 ปี สุเอซให้บริการลูกค้าด้วยโซลูชั่นนวัตกรรมที่ยืดหยุ่นสำหรับบริการด้านน้ำและของเสีย ด้วยพนักงาน 40,000 คนใน 40 ประเทศ กลุ่มบริษัททำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างมูลค่าตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์และบริการ และเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงคาร์บอนต่ำ ในปี 2565 สุเอซจัดหาน้ำดื่มให้กับผู้คน 68 ล้านคนทั่วโลก และบริการด้านสุขอนามัยแก่ผู้คนกว่า 37 ล้านคน กลุ่มบริษัทผลิตพลังงานได้ 7.9 TWh จากของเสียและน้ำเสีย ในปี 2565 สุเอซสร้างรายได้ 8.8 พันล้านยูโร* สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.suez.com// Twitter @suez
*ทบทวนทุก 12 เดือน
เกี่ยวกับสุเอซในเอเชีย:
ในเอเชีย การเดินทางของสุเอซเริ่มต้นเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว โดยเริ่มที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนที่จะขยายไปยังประเทศจีนเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว ด้วยพนักงานมากกว่า 6,500 คนทั่วเอเชีย สุเอซได้สร้างโรงผลิตน้ำและบำบัดน้ำเสียมากกว่า 600 แห่ง เรายังร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อให้บริการรีไซเคิลและฟื้นฟูน้ำและของเสียแก่ผู้คนกว่า 25 ล้านคนและสวนอุตสาหกรรม 19 แห่งทั่วประเทศ สุเอซได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศจีน และเป็นมาตรฐานการบริการสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมชั้นนำของเอเชีย ปัจจุบัน สุเอซทำงานร่วมกับลูกค้าในเขตเทศบาลและอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่กว่า 30 เมืองและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน บริหารจัดการสัญญาโครงการน้ำที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเอกชนฉบับแรกของจีนในมาเก๊า ดำเนินการโรงงานเผาขยะอันตรายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียในเซี่ยงไฮ้ และได้ทุ่มเงินลงทุนมากกว่า 4 พันล้านหยวนในฉงชิ่ง
