บาร์เซโลน่า, สเปน, 28 กุมภาพันธ์ 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- หลี่ เผิง (Li Peng) รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย (Huawei) และประธานของไอซีที เซล แอนด์ เซอร์วิส (ICT Sales & Service) ได้กล่าวคำปราศรัยในงาน MWC Barcelona 2024 เกี่ยวกับโอกาสใหม่เชิงกลยุทธ์ที่เปิดกว้างให้กับอุตสาหกรรมไอซีที (ICT) ในโลกอัจฉริยะ
"เรากำลังมุ่งไปสู่โลกอัจฉริยะอย่างรวดเร็ว" หลี่ กล่าว "ในขณะที่ความต้องการด้านเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น 5.5G ก็ได้กลายมาเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางที่มุ่งไปสู่โลกอัจฉริยะ ซึ่งคาดว่า 5.5G จะเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2567 ดังนั้น ให้เรามาสร้างเครือข่ายของวันนี้เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตเพื่อก้าวไปสู่โลกอัจฉริยะด้วยกัน"
เริ่มต้นการเดินทางในการนำ 5.5G มาใช้ในเชิงพาณิชย์
หลี่ ได้อธิบายว่า ในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลและดิจิทัลได้นำโอกาสที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์มาสู่อุตสาหกรรมไอซีที (ICT) และความต้องการเครือข่ายที่สูงขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกอัจฉริยะ เช่น อัปลิงก์อัลตร้าบรอดแบนด์ การสื่อสารบรอดแบนด์แบบเรียลไทม์ และไอโอที (IoT) ที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ ความต้องการดังกล่าวได้ขับเคลื่อนให้มีการพัฒนาไปสู่ 5.5G อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานสถานการณ์และโมเดลธุรกิจที่ล้ำสมัยได้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 เศรษฐกิจอัจฉริยะ จะมีมูลค่ามากกว่า 18.8 ล้านล้านดอลลาร์ และนำมาโอกาสใหม่ๆ มาสู่อุตสาหกรรม
Li states that the global digital economy will bring new strategic opportunities for the ICT industry
ผู้ให้บริการชั้นนำในประเทศจีน ตะวันออกกลาง และยุโรปได้ตรวจสอบขีดความสามารถขั้นสูงของ 5.5G บนเครือข่ายเชิงพาณิชย์แล้ว โดยการทดสอบของพวกเขาครอบคลุมไปถึงสถานการณ์ที่หลากหลาย รวมถึง การเชื่อมต่ออัจฉริยะสำหรับผู้คน บ้าน พาหนะ และสนามกีฬา ยิ่งไปกว่านั้น เมืองอัจฉริยะขนาด 10 กิกะบิตที่ขับเคลื่อนโดย 5.5G ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วยเช่นกัน
ในงาน MWX ประจำปีนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5.5G เต็มรูปแบบสำหรับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมกับโมเดลพื้นฐานโทรคมนาคมโมเดลแรกของอุตสาหกรรม โดยโมเดลนี้จะช่วยให้ผู้บริการสามารถเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับเครือข่ายของพวกเขา โดยเฉพาะในด้านต่างๆ เช่น การรับประกันประสบการณ์เครือข่าย และ O&M อัตโนมัติ
ในขณะที่เทคโนโลยีเครือข่ายที่กำลังพัฒนายังคงกำหนดนิยามใหม่ให้กับข้อมูลและสายธารแห่งคุณค่า และปลดปล่อยพลังของการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย อีกไม่นาน เราจะพบว่าเราอยู่ในโลกอัจฉริยะเต็มรูปแบบ
กำหนดนิยามใหม่ให้กับกระแสข้อมูล: เนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังผลักดันปริมาณการรับส่งข้อมูลใหม่ให้เพิ่มสูงขึ้น
เทคโนโลยีอัจฉริยะกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และแอปพลิเคชั่นอัจฉริยะก็เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
ในแง่ของกระแสข้อมูลแล้ว เจนเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) กำลังขับเคลื่อนวัตถุและสถานการณ์ที่มีการเชื่อมต่อประเภทใหม่ๆ เช่น มนุษย์เสมือนจริงและรถยนต์อัจฉริยะ สถานการณ์ใหม่เหล่านี้ต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึง โมเดลใหม่สำหรับการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลร่วมกันระหว่างคลาวด์ เอดจ์ (Edge) และอุปกรณ์ เอไอจีซี (AIGC) จะขับเคลื่อนการสร้างข้อมูลมากกว่า 1 แสนล้านกิกะไบต์ และผลักดันการรับส่งข้อมูลมากกว่าหนึ่งล้านล้านกิกะไบต์ โดยหัวเว่ยคาดว่าในปี 2569 AI จะถูกนำมาใช้สร้างภาพกว่า 2.5 แสนล้านภาพ และวิดีโอกว่า 70 ล้านรายการ ซึ่งจะกำหนดนิยามใหม่ให้กับแนวทางการสร้างสรรค์เนื้อหาของโลก
กำหนดนิยามใหม่ให้กับกระแสคุณค่า: การสร้างรายได้จากบริการมือถือที่นอกเหนือจากการเชื่อมต่อ
ความต้องการประสบการณ์เครือข่ายที่เชื่อถือได้ในหลายมิติได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมไอซีทีมีแอปพลิเคชั่นอัจฉริยะที่เป็นนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น โดยความเร็วอัปลิงก์ที่คงที่ QoS และความหน่วงแฝงจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และลูกค้าในอุตสาหกรรม ซึ่งจะมอบโอกาสการเติบโตใหม่ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ให้บริการ พร้อมกับเปิดกระแสคุณค่าใหม่ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์
ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการสัญชาติจีนรายหนึ่งได้เปิดตัวแพ็คเกจไลฟ์สด 5G เพื่อส่งมอบความเร็วอัปลิงก์ที่คงที่สำหรับการไลฟ์สดที่ราบรื่น ข้อเสนอบริการใหม่นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ได้มากกว่า 70%
ในภาคการขนส่ง บริการ 5G New Calling ของผู้ให้บริการอีกรายหนึ่งได้ส่งมอบการระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ และการโต้ตอบระหว่างการโทรที่แม่นยำสำหรับแอปพลิเคชัน เช่น การเคลมประกันรถยนต์ ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถยื่นเคลมประกันได้แบบครบวงจร สำรวจสถานที่ และชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจราจร โดยบริการรูปแบบใหม่นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างรายได้จากตลาด B2B2C ได้สำเร็จ
ปลดปล่อยขุมพลังแห่งการเชื่อมต่อที่แพร่หลาย: สรรค์สร้างคุณค่าใหม่สำหรับทุกอุตสาหกรรม
การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G คุณภาพสูงช่วยให้ผู้ให้บริการเชื่อมต่อผู้คนกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นในทุกที่ทุกเวลา และระบบโทรศัพท์บนคลาวด์ก็เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม แบนด์วิดท์ที่มากขึ้นและความหน่วงแฝงที่ลดลงช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องใช้การประมวลผลสูงที่สุด และใช้แอปพลิเคชั่นสถานที่ทำงานที่ทันสมัยที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินกว่าขีดจำกัดของพื้นที่จัดเก็บ และขุมพลังการประมวลผลในเครื่อง
เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น IoT ในพื้นที่กว้าง กำลังพลิกโฉมการใช้งานทางอุตสาหกรรมเช่นกัน ความหนาแน่นและความแม่นยำในการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้น 10 เท่าได้ช่วยให้ภาคส่วนไอซีทีสามารถตอบโจทย์ความต้องการในการเชื่อมต่อในทุกสถานการณ์ทางอุตสาหกรรม ตั้งแต่กริดอัจฉริยะไปจนถึงการผลิต การจัดเก็บ และการขนส่ง
เหล่าผู้บุกเบิกกำลังปูทางสู่โลกอัจฉริยะ หลี่ เผิงได้กล่าวปิดด้วยการเรียกร้องให้อุตสาหกรรมเปิดรับ 5.5G และสร้างรากฐานไอซีทีที่แข็งแกร่งสำหรับโลกอัจฉริยะที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น