ปักกิ่ง, 5 มีนาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/
คุณผู่ เหลียงกง (Pu Lianggong) คือผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการผลิตธูป เช่นเดียวกับบรรพบุรุษชาวอาหรับของเขา
ปัจจุบัน คุณผู่มีอายุเกือบ 70 ปี ประกอบอาชีพผลิตธูปในเขตหย่งชุน เมืองเฉวียนโจว ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน
งานฝีมือผลิตธูปนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเส้นทางสายไหมทางทะเลในสมัยก่อน ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนทางการค้าและวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาคชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนและต่างประเทศ
คุณผู่เป็นสมาชิกตระกูลเชื้อสายอาหรับรุ่นที่ 10 ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงปีพ.ศ. 2189 ในเมืองเฉวียนโจว สถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเลสมัยก่อน เมืองเฉวียนโจวได้กลายเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของจีนในช่วงที่การค้าทางทะเลของจีนเจริญรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) และราชวงศ์หยวน (พ.ศ. 1814-1911)
บรรพบุรุษชาวอาหรับของคุณผู่ได้นำส่วนผสมกลิ่นหอมเข้ามาในจีนตามเส้นทางสายไหมทางทะเล และหาเลี้ยงชีพด้วยการขายสินค้าเหล่านี้ และค่อย ๆ เริ่มต้นตั้งหลักปักฐานในเฉวียนโจว พร้อมแต่งงานกับคนในท้องถิ่นและใช้นามสกุลจีนว่าผู่
ตระกูลผู่เป็นผู้ผลิตธูปจากไม้ไผ่และส่วนผสมกลิ่นหอมจากบ้านเกิด ซึ่งแตกต่างจากเศษไม้หอมที่เรียกว่า "บาคูต" ของประเทศอาหรับส่วนใหญ่ แต่จะมีลักษณะคล้ายกับธูปจีน โดยมีแท่งไม้ไผ่ห่อด้วยส่วนผสมกลิ่นหอมที่ผ่านการบด
อิทธิพลของตระกูลผู่ส่งผลให้ธูปกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองในเขตหย่งชุน โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตธูปเกือบ 300 แห่ง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น คนงานและครอบครัวของพวกเขาจึงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยส่วนหนึ่งมาจากแรงสนับสนุนจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI)
โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนที่เริ่มต้นในปี 2556 มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายการค้าและโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปรวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ตามเส้นทางสายไหมโบราณเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
โครงการนี้ยังทำหน้าที่เป็นเวทีในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมและความเข้าใจร่วมกัน นำเสนอโอกาสในการส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเคยกล่าวถึงสุภาษิตจีนโบราณที่ว่า "ซุปแสนอร่อยมาจากหลายส่วนผสมรวมกัน" เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของความหลากหลาย
อนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
"ซุปแสนอร่อยมาจากหลายส่วนผสมรวมกัน"
คำกล่าวนี้มาจากเรื่องเล่า "สามก๊ก" ของจีน สะท้อนถึงประเพณีการทำอาหารจีนที่ใช้ส่วนผสมหลากหลาย เช่น สมุนไพร เครื่องเทศ และผักในการทำซุปที่มีรสชาติ เน้นย้ำถึงพลังแห่งความร่วมมือและคุณค่าของความหลากหลายในอารยธรรมมนุษย์ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดแห่งความก้าวหน้าของมนุษยชาติ
ประธานาธิบดีสีกล่าวถึงเรื่องนี้ในปาฐกถาพิเศษที่สำนักงานสหประชาชาติ ณ เมืองเจนีวา เมื่อเดือนมกราคม 2560 โดยระบุว่าความหลากหลายคือ "กลไกที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์"
"โลกของเราประกอบด้วยประเทศและภูมิภาคมากกว่า มากกว่า 200 แห่ง มีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 2,500 กลุ่มและมีศาสนาต่าง ๆ มากมาย ด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์ และประเพณีที่แตกต่างกันนี้เองที่ก่อให้เกิดเป็นอารยธรรมที่หลากหลาย ทำให้โลกมีสีสัน" ประธานาธิบดีสีกล่าว
"เราควรทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจในการพัฒนาสังคมมนุษย์และสายสัมพันธ์ที่ทำให้โลกเกิดสันติภาพ"
ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างโลกที่เปิดกว้างและครอบคลุมผ่านการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเสริมว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมเป็น "แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจในการพัฒนาสังคมมนุษย์" และ "ความผูกพันในการรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของโลก"
สุภาษิตจีนโบราณสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การทำธูปในเมืองหย่งชุนเป็นอย่างมาก โดยเมื่อหลายศตวรรษก่อน ส่วนผสมกลิ่นหอมของอาหรับได้เข้ามายังประเทศจีนในฐานะ "ผู้ส่งสาร" และถูกผสมผสานและต่อยอดเข้ากับส่วนผสมกลิ่นหอมของจีน เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกส่งออกไปยังทั่วโลก
ปัจจุบัน ชาติอาหรับซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมในเส้นทางการค้าเส้นทางสายไหมโบราณ เป็นพันธมิตรที่สำคัญของจีนในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นในประเทศพันธมิตร มอบโอกาสด้านอาชีพและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศ
นับตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2565 การค้าระหว่างประเทศของจีนและประเทศพันธมิตรในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีมูลค่าสูงถึง 19.1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6.4% ต่อปี ทั้งนี้ จีนยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมากกว่า 200 ฉบับร่วมกับมากกว่า 150 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 30 องค์กรใน 5 ทวีป ณ เดือนมิถุนายน 2566 นำไปสู่โครงการระดับใหญ่และโครงการขนาดเล็กที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก
นอกจากนี้ จีนยังเดินหน้าจับมือประเทศและองค์กรพันธมิตรในโครงการผ่านกิจกรรมด้านวัฒนธรรมร่วมกัน ประกอบด้วยการจัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศด้านโรงละคร พิพิธภัณฑ์ เทศกาลศิลปะ และห้องสมุด เช่นพันธมิตรระหว่างประเทศด้านพิพิธภัณฑ์แห่งเส้นทางสายไหม (International Alliance of Museums of the Silk Road) และพันธมิตรโรงละครแห่งเส้นทางสายไหม (Silk Road International League of Theaters)
ด้วยการเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่หลากหลายและประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้ส่งเสริมความร่วมมือ ความเปิดกว้าง และการมีส่วนร่วมทั่วโลก ทำให้จีนเข้าใกล้เป้าหมายในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติเพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน