 |
กัมเบียโน, อิตาลี, 11 เมษายน 2567 /PRNewswire/ -- ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) ได้ส่งมอบยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดอย่างแบตติสตา รีเวอร์ซาริโอ (Battista Reversario) เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแบตติสตา แอนนิเวอซาริโอ (Battista Anniversario) และแนวคิดเรื่องความสมดุล นับเป็นที่สุดของ "Dream Cars. Made Real" อันเป็นปรัชญาของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในการร่วมรังสรรค์รถยนต์ที่มีเอกลักษณ์อย่างแท้จริงร่วมกับลูกค้า
ยนตรกรรมที่รังสรรค์ด้วยมือทุกคันที่ออกจากโรงงานของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในเมืองกัมเบียโน สะท้อนบุคลิกของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างมีเอกลักษณ์ โดยแบตติสตา รีเวอร์ซาริโอ เป็นแบบอย่างในเรื่องนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
ลูกค้าและนักออกแบบของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ได้ร่วมกันรังสรรค์แบตติสตา รีเวอร์ซาริโอ โดยได้สร้างรถสั่งทำพิเศษที่จะไม่มีวันผลิตซ้ำอีก ซึ่งลูกค้ารายนี้เป็นเจ้าของรถคันที่ 5 ในซีรีส์แบตติสตา แอนนิเวอซาริโอ ซึ่งผลิตออกมาเพียง 5 คันด้วย
แบตติสตา รีเวอร์ซาริโอ มีองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งในเรื่องโทนสี ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตรงกันข้ามกับการออกแบบอันเป็นลักษณะเฉพาะของรุ่นแอนนิเวอซาริโอ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นอายความเป็นปินินฟารินา โดยตัวถังส่วนล่างเคลือบเงาสีเบียงโก เซสตรีเร (Bianco Sestriere) และตัวถังส่วนบนเคลือบเงาสีกรีจิโอ อันโตเนลเลียโน (Grigio Antonelliano)
นอกจากนี้ยังมีลายเส้นสอดรับกับลายเส้นด้านบนในสีไอโคนิกา บลู (Iconica Blu) อันเป็นเอกลักษณ์ตามดีไซน์ของรุ่นก่อน พร้อมคำจารึกสั่งทำพิเศษ รวมถึงชื่อ "Reversario" ทั้งด้านหน้าและ "สะท้อน" บนปีกคาร์บอนด้านข้างและด้านล่างของปีกหลังแบบแอ็คทีฟ
ภายในตัวรถโดดเด่นสะดุดตาด้วยเบาะนั่งพิโลตา (Pilota) บุด้วยผ้าอัลคันทารา (Alcantara) แบบ white-on-white พร้อมพื้นหลังฉลุสีไอโคนิกา บลู ขณะที่บริเวณห้องโดยสารส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ รวมถึงแผ่นแชสซีสั่งทำพิเศษชุบอโนไดซ์สีดำ และมีการเน้นสีเป็นลูกเล่นทั้งที่วางแก้วน้ำ ขอบแผ่นปิดหลังคาตรงกลาง และเข็มขัดนิรภัย ทั้งหมดตกแต่งด้วยสีไอโคนิกา บลู
รีเวอร์ซาริโอมาพร้อมกับชุดกระเป๋าเดินทางแบบพิเศษสามชิ้น เพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่สั่งผลิตรถคันนี้ โดยกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าเดินทางพร้อมสายสะพาย และกระเป๋าสูทล้วนตัดเย็บด้วยหนังสีดำ ตัดขอบสีไอโคนิกา บลู และผ้านวมอัลคันทาราสีออฟไวต์ เพื่อเป็นคอลเลกชันไลฟ์สไตล์ขั้นสูงสุด
ลูกค้าที่สั่งผลิตรีเวอร์ซาริโอ แสดงความคิดเห็นว่า: "แอนนิเวอซาริโอและรีเวอร์ซาริโอถูกลิขิตให้สร้างขึ้นโดยทีมงานออโตโมบิลี ปินินฟารินา เพียงท้าทายให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้หากคุณทำตามหัวใจและความหลงใหลของคุณ ขอยกเครดิตทั้งหมดให้พวกเขาเลย
"รถคู่แฝดทั้งสองนับเป็นความสมบูรณ์แบบอันลงตัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกยานยนต์ โดยไม่เพียงแต่สืบทอดมรดกและสายเลือดในชื่อและเครื่องหมายของนักออกแบบรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเสริมซึ่งกันและกันเสมือนภาพสะท้อนในกระจกด้วย
"รถคู่แฝดทั้งสองจะเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความรักอันสมบูรณ์แบบตลอดไป โดยแยกออกจากกันไม่ได้เพราะออกแบบมาให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง"
คุณเดฟ อมันที (Dave Amantea) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการออกแบบของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวเสริมว่า "รีเวอร์ซาริโอเป็นผลงานอันเป็นที่สุด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นแอนนิเวอซาริโอที่มีอยู่เดิม โดยเป็นการสะท้อนในทุกแง่มุม ผสมผสานสีสันอันเหนือกาลเวลาเพื่อสร้างสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน ผงาดได้อย่างโดดเด่นไม่ว่าจะยืนเดียวหรือยืนคู่ นี่คือยานยนต์ที่แสดงออกถึงปรัชญาของเราที่ว่า Dream Cars. Made Real ได้ดีที่สุด"
แบตติสตา แอนนิเวอซาริโอ เปิดตัวในปี 2563 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีนับตั้งแต่ที่แบตติสตา "ปินิน" ฟารินา ได้ก่อตั้งแบรนด์ผู้ผลิตและออกแบบปินินฟารินาในตำนานขึ้นมา โดยมีการผลิตรถรุ่นนี้เพียง 5 คันเท่านั้น
ส่วนแบตติสตา รีเวอร์ซาริโอ เช่นเดียวกับแอนนิเวอซาริโอ คือรถยนต์สัญชาติอิตาลีที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังที่ล้ำสมัย รถยนต์ไฮเปอร์ จีที ไฟฟ้าล้วนคันแรกของโลกนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง 120 kWh บรรจุอยู่ภายในคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา
รถรุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง 4 ตัว ติดอยู่กับแต่ละล้อ ทั้งยังมีระบบควบคุมแรงบิดเต็มรูปแบบ ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์ดิฟเฟอเรนเชียล ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการส่งกำลังและการตอบสนองในการขับขี่ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ระบายความร้อนด้วยของเหลวทรงตัว T ไว้ตรงกลางด้านหลังเบาะนั่ง เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
ส่วนเทคโนโลยีควบคุมการออกตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของแบตติสตาทำให้เร่งความเร็วในระดับที่แซงรถฟอร์มูลาวันได้ โดยทำความเร็ว 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ใน 1.79 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 1.86 วินาที ความเร็ว 0-120 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 4.49 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.75 วินาที
แบตติสตาผสานสมรรถนะของไฮเปอร์คาร์เข้ากับระยะการแล่นและห้องโดยสารที่หรูหราของรถจีทีแบบดั้งเดิม มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบออลวีล และโหมดการขับขี่ 5 โหมดพร้อมรองรับทุกการขับขี่ ได้แก่ คาลมา (Calma), พูรา (Pura), เอเนอร์จิกา (Energica), ฟูริโอซา (Furiosa) และคารัตเตเร (Carattere)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ automobili-pininfarina.com/media-hub
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับออโตโมบิลี ปินินฟารินา
ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) มีสำนักงานใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการอยู่ในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี และสำนักงานฝ่ายการค้าในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีทีมงานซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารมากประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์จากแบรนด์รถยนต์ระดับหรูหราและพรีเมียม รถทั้งหมดของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ออกแบบ วางระบบ และผลิตด้วยมือในอิตาลี โดยมุ่งรังสรรค์ประสบการณ์สำหรับบรรดาผู้กำหนดเทรนด์ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของโลก พร้อมแฝงปรัชญาการออกแบบอย่างพูรา (PURA) เอาไว้ด้วย ปรัชญานี้จะแทรกตัวอยู่ในรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในอนาคตทั้งหมด โดยนำแรงบันดาลใจแบบคลาสสิกมารวมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างลงตัว ออโตโมบิลี ปินินฟารินา เป็นการลงทุนของบริษัทมาฮินดร้า แอนด์ มาฮินดร้า (Mahindra & Mahindra Ltd) ทั้งหมด 100% และได้ลงนามในข้อตกลงใบอนุญาตเครื่องหมายการค้ากับปินินฟารินา (Pininfarina S.p.A.) แล้ว ออโตโมบิลี ปินินฟารินา ได้รับประโยชน์จากมรดกอันยาวนานถึง 94 ปีของปินินฟารินาในการผลิตยนตรกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งตอกย้ำบทบาทของบริษัทฯ ในแวดวงยานยนต์หรู
เกี่ยวกับออโตโมบิลี ปินินฟารินา แบตติสตา ( ดาวน์โหลดเอกสารประกอบข่าว )
แบตติสตา (Battista) เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยออกแบบและสร้างในอิตาลี โดยจะมอบสมรรถนะในระดับที่ยังไม่มีรถสปอร์ตแบบใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนท้องถนนรุ่นใดทำได้ในปัจจุบัน รถแบตติสตาทำความเร็วได้เหนือกว่ารถแข่งฟอร์มูลาวัน จากการที่ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที ทั้งยังมีกำลัง 1,900 แรงม้า และแรงบิด 2,340 Nm รถแบตติสตาผสานวิศวกรรมและเทคโนโลยีขั้นสุดในรูปแบบที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ขณะที่แบตเตอรี่ขนาด 120 kWh ของรถแบตติสตาให้พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ซึ่งติดไว้หนึ่งตัวในล้อแต่ละจุด มีระยะวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ได้ไกล 476 กิโลเมตร และวิ่งตามมาตรฐาน US EPA ได้ไกล 300 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ รถแบตติสตาจะผลิตขึ้นไม่เกิน 150 คัน แต่ละคันจะผลิตด้วยมือที่โรงงานในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383630/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_Anniversario_1.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383631/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_Anniversario_2.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383626/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_1.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383627/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_2.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383628/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_3.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2383629/Automobili_Pininfarina_Battista_Reversario_4.jpg?p=medium600
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/1316779/4641264/Automobili_Pininfarina_Logo.jpg?p=medium600
