ปักกิ่ง, 29 พฤษภาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีของจีน และเตโอโดโร โอเบียง อึงเกมา อึมบาโซโก (Teodoro Obiang Nguema Mbasogo) ประธานาธิบดีของอิเควทอเรียลกินี ได้ประกาศการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านระหว่างการประชุม ณ กรุงปักกิ่ง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยกย่องมิตรภาพระหว่างสองประเทศ โดยกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะใช้โอกาสนี้ในการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอิเควทอเรียลกินีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการปฏิรูป การพัฒนา และการบรรเทาความยากจน เพื่อเสริมสร้างพลังขับเคลื่อนที่ยั่งยืนให้กับมิตรภาพของทั้งสองประเทศ
ทั้งสองประเทศจึงได้ปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาของตนให้สอดคล้องกันอย่างแข็งขัน และกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในยุคใหม่โดยยึดมั่นในความเคารพและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ผลประโยชน์ร่วมกัน
ในประเทศอิเควทอเรียลกินี โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มากมาย เช่น ถนน สะพาน ท่าเรือ สนามบิน โรงไฟฟ้า และโทรคมนาคม มักได้รับความช่วยเหลือและก่อสร้างโดยประเทศจีน ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2514 จีนได้ส่งทีมแพทย์จำนวน 33 ทีม พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่าอีก 600 คน ไปให้บริการทางการแพทย์ในประเทศอิเควทอเรียลกินี โดยให้การรักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่าหนึ่งล้านคน
นอกจากนี้ บริษัทจีนยังให้ความช่วยเหลือในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำจิโบลโฮ (Djibloho Hydropower Plant) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิเควทอเรียลกินี ซึ่งทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 90 ของความต้องการไฟฟ้าในพื้นที่ทวีปของประเทศนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Three Gorges Project" ของประเทศอิเควทอเรียลกินี
ในขณะเดียวกัน อิเควทอเรียลกินีก็ให้ความช่วยเหลือแก่จีนเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโอเบียง ได้ประกาศบริจาคโรงเรียนประถมแห่งมิตรภาพจีน-อิเควทอเรียลกินี (China-Equatorial Guinea Friendship Primary School) ให้กับเขตจิ้นผิง (Jinping) ในมณฑลยูนนาน (Yunnan) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในระหว่างการเยือนประเทศจีนเมื่อเดือนเมษายน 2558 โดยมีเด็กมากกว่า 2,000 คนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา
"จีนและอิเควทอเรียลกินีนั้นเป็นเพื่อนที่ดีและหุ้นส่วนที่จริงใจต่อกัน" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวกับประธานาธิบดีโอเบียง พร้อมเสริมว่า จีนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของอิเควทอเรียลกินี ตลอดจนความพยายามในการส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจและการสร้างฐานอุตสาหกรรม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การแพทย์ สุขภาพ การศึกษา และวัฒนธรรม เพื่อสานต่อมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างทั้งสองประเทศ และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากขึ้น
ประธานาธิบดีโอเบียงเน้นย้ำว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาคและการเคารพซึ่งกันและกันมาโดยตลอด ท่านกล่าวว่า ประเทศของตนยินดีที่จะเปิดประตูสู่จีน และต้อนรับบริษัทจีนให้มาร่วมลงทุนและร่วมมือในประเทศอิเควทอเรียลกินี เพื่อช่วยให้ประเทศบรรลุการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน
เปิดศักราชใหม่ในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนกับแอฟริกา
จีนและอิเควทอเรียลกินีได้ประสบความสำเร็จในความร่วมมือหลายด้านภายใต้กรอบของโครงการริเริ่ม Belt and Road Initiative (BRI) และการประชุมว่าด้วยความร่วมมือจีน-แอฟริกา (Forum on China-Africa Cooperation หรือ FOCAC)
โรงพยาบาลมิตรภาพจีน-อิเควทอเรียลกินี (China-Equatorial Guinea Friendship Hospital) ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการในปี 2566 ช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการบริการของระบบสาธารณสุขและสุขภาพของประเทศอิเควทอเรียลกินี
อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของสนามบินนานาชาติมาลาโบ (Malabo International Airport) ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงระดับภูมิภาคและภายในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2566 จีนได้ริเริ่มโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการสนับสนุนการสร้างฐานอุตสาหกรรมของแอฟริกา แผนการสนับสนุนของจีนในการปรับปรุงการเกษตรกรรมสมัยใหม่ของแอฟริกา และแผนความร่วมมือจีน-แอฟริกาในด้านการพัฒนาบุคคลากรผู้มีความสามารถ ซึ่งล้วนมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการบูรณาการและการปรับปรุงแอฟริกาให้ทันสมัย
"ผมรู้สึกชื่นชมความริเริ่มของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา และเชื่อว่านี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับแอฟริกาในการเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเราไม่สามารถบรรลุได้ผ่านประเทศที่เคยล่าอาณานิคมของเรา" ประธานาธิบดีโอเบียง กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับซินหัว (Xinhua)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ประเทศกำลังพัฒนามีความจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือมากกว่าเดิม โดยกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับแอฟริกาในการจัดการประชุม FOCAC ครั้งต่อไป และร่วมกันหารือเกี่ยวกับแผนสำหรับการพัฒนาและความร่วมมือในอนาคต เพื่อเปิดศักราชใหม่ในการสร้างชุมชนจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกัน