นิวยอร์ก, 4 มิถุนายน 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม TIME เผยรายชื่อ 100 บริษัททรงอิทธิพลประจำปี 2567 (2024 TIME100 Most Influential Companies) โดยให้ความสำคัญกับองค์กรที่สร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ระดับโลก Envision Energy ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสีเขียวและโซลูชั่นพลังงานหมุนเวียนระดับโลก ได้รับการยกย่องในฐานะ 'Green Giant' ความโดดเด่นดังกล่าวตอกย้ำถึงการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระดับโลกไปสู่พลังงานสีเขียวและจัดการกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
TIME ร้องขอการเสนอชื่อจากภาคส่วนต่าง ๆ และร่วมมือกับเครือข่ายผู้ให้ข้อมูล รวมถึงผู้สื่อข่าวทั่วโลก ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญภายนอกเพื่อรวบรวมรายชื่อ โดยมีเป้าหมายในการคัดเลือกองค์กรซึ่งมีบทบาทด้านการกำหนดแนวโน้มในอนาคตและสร้างผลกระทบที่สำคัญต่อโลก จากข้อมูลของ TIME พบว่า Envision Energy ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในแง่ของการรักษ์โลก โดยมีโมเดลต้นแบบ Net Zero Industrial Park ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบวนทัศน์ในการขับเคลื่อนความพยายามด้านการลดปริมาณคาร์บอนทั่วโลก และมีส่วนช่วยสร้างอนาคตที่สะอาดและยั่งยืน การยกย่องนี้ไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถทางเทคโนโลยีของ Envision Energy เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมด้านการพัฒนาพลังงานสีเขียวทั่วโลกให้ก้าวหน้าอีกด้วย
Envision Energy อยู่ในระดับแนวหน้าด้านการพัฒนาพลังงานลมอัจฉริยะ ระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ และโซลูชั่นไฮโดรเจนสีเขียวล้ำสมัยซึ่งตอบสนองความต้องการพลังงานยั่งยืนทั่วโลกอย่างเร่งด่วน บริษัทโดดเด่นด้วยกลยุทธ์ที่มีวิสัยทัศน์ในด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ความพยายามและการมีส่วนร่วมของบริษัทได้รับการยอมรับจาก TIME ว่ามีศักยภาพในการปฏิวัติภาคพลังงาน และมีส่วนสำคัญต่อความพยายามด้านการลดคาร์บอนทั่วโลก ดูชื่อบริษัททั้งหมดได้ที่นี่: time.com/100companies ชมข้อมูลของ Envision Energy ได้ที่นี่: https://time.com/6980418/envision-energy/
ความสำเร็จอันโดดเด่นของ Envision Energy คือการสร้าง Net Zero Industrial Park แห่งแรกของโลกที่มีระบบพลังงานหมุนเวียนอิสระ โดยรังสรรค์โซลูชันนอกกริดระดับอุตสาหกรรม และปลดล็อกศักยภาพการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนเต็มรูปแบบโดยไม่มีข้อจำกัดในการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า โครงการริเริ่มสุดล้ำนี้ตอกย้ำสถานะของ Envision Energy ในฐานะผู้นำด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และได้รับความสนใจจากนานาประเทศถึงศักยภาพของโครงการที่จะดำเนินการในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ โครงการไฮโดรเจนและแอมโมเนียสีเขียวเชิงพาณิชย์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีกำลังการผลิต 1.5 ล้านตัน ได้รับการพัฒนาผ่านโมเดลนิคมอุตสาหกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อันล้ำสมัย โครงการดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% และบรรลุการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพระหว่างการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์จากลมกับการผลิตไฮโดรเจน-แอมโมเนีย-แอลกอฮอล์ เพื่อลดต้นทุนและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในระบบพลังงานหมุนเวียน โครงการนี้นับเป็นหลักชัยสำคัญในการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และปูทางไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของ 'ขุมทรัพย์แห่งใหม่' ทั่วโลก
นอกจากนี้ Envision Energy ยังได้รับคำสั่งซื้อกังหันลมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 22 กิกะวัตต์ ในปีงบประมาณ 2566 โดยครองตำแหน่งสูงสุดทั่วโลก Envision Energy Storage มีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ ทั่วโลกมากกว่า 200 แห่ง มีการส่งมอบสะสมกว่า 10 กิกะวัตต์ชั่วโมง และมีคำสั่งซื้ออยู่ในมือมากกว่า 15 กิกะวัตต์ ในปี 2564 Envision เข้าร่วมโครงการ Science Based Targets (SBTi) และตั้งเป้า "จำกัดอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน1.5°C" จากระดับอุณหภูมิเฉลี่ยก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม Envision Technology บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานปี 2565 และคาดว่าจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2571