 |
จาการ์ตา, อินโดนีเซีย, 4 กรกฎาคม 2567 /PRNewswire/ -- Docquity คอมมูนิตี้ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 7 ปี กับ P.T. Green Nature Farm (GNF) พันธมิตรการจัดจำหน่ายในอินโดนีเซียของ Cho-A Pharmaceutical ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพของเกาหลีเพื่อผลักดันการเติบโตของตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์วิตามินรวมสำหรับเด็กในอินโดนีเซีย
โครงการ Awareness to Advocacy (A2A) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Docquity ได้ช่วยให้ GNF มีชุดโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อผลักดันการศึกษาของบุคลากรทางการแพทย์ผ่านการเผยแพร่หลายช่องทาง และสร้างผู้นำบุคลากรทางการแพทย์ผ่านผู้แทนยา (Medical Representative) ทั้งทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ การขยายขีดความสามารถของโปรแกรมผ่านการสนับสนุนการจัดจ้างบุคคลภายนอกในเชิงพาณิชย์ได้ช่วยให้ Docquity สามารถเชื่อมโยง GNF เข้ากับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศได้ GNF มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงบุคลากรทางการแพทย์กว่า 7,600 ราย (กุมารแพทย์และแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป) ในอินโดนีเซียตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้บรรลุเป้าหมาย 20% ในเวลาเพียง 1 เดือนนับตั้งแต่ความร่วมมือเริ่มต้นขึ้น
GNF ได้รับการอนุมัติและใบอนุญาตสำหรับวิตามินรวมสำหรับเด็กของ Cho-A ในอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2564 และได้ทำให้วิตามินเหล่านี้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ป่วยโดยตรงผ่านเครือข่ายร้านขายยา และแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกลับมีจำหน่ายในภูมิภาคเดียวของอินโดนีเซียในช่วงก่อนหน้านี้และไม่สามารถขยายตลาดต่อไปได้ เนื่องจากขาดทีมส่งเสริมการขายเฉพาะและมีการเข้าถึงแพทย์และองค์กรทางการแพทย์ที่จำกัด
"ในฐานะคอมมูนิตี้ทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย Docquity เป็นพันธมิตรเชิงนวัตกรรมที่มโดดเด่นในการช่วยให้เราเข้าถึงแพทย์กลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านการทำหน้าที่เป็น "ร้านค้าครบวงจร" ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความสัมพันธ์กับบุคลากรทางการแพทย์ไว้ได้อย่างเหมาะสม และยกระดับความพร้อมใช้งานให้กับผลิตภัณฑ์ของเราทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เด็ก ๆ ที่ต้องการสารอาหารเหล่านี้มากที่สุดสามารถเข้าถึงสารอาหารสำคัญเหล่านี้ได้อีกด้วย" Aningsih, Director, PT. Green Nature Farm (GNF) กล่าว
การส่งเสริมความสัมพันธ์กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีความหมาย
โปรแกรม A2A ของ Docquity ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และโซลูชันที่แข็งแกร่งหลายช่องทาง เพื่อสร้างชื่อเสียงและความไว้วางใจให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ในวงการแพทย์ เป้าหมายของ GNF ในอินโดนีเซีย Docquity ยังได้พัฒนาและนำเสนอเนื้อหางานวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการปรับแต่งผ่านแพลตฟอร์มและช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มเติมผ่านการติดต่อจากผู้แทนยาซึ่งจะเป็นผู้ที่พูดคุยกับแพทย์โดยตรงทั้งในช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ได้ตามที่แพทย์ต้องการ Docquity ติดตามการตอบสนองของผู้ใช้ และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมแบบเรียลไทม์ รวมถึงการติดตามผลทางธุรกิจของแคมเปญผ่านเมตริกที่ชื่อว่า Intent to Prescribe (ITP) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Docquity ด้วย
การเจาะตลาดที่กำลังเติบโตทั่วประเทศอินโดนีเซีย
Docquity ยังร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่นเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีพร้อมให้บริการในโรงพยาบาล คลินิก และเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานของ GNF และยกระดับการดำเนินงานทั่วทั้งประเทศ
"โครงการ Awareness to Advocacy ของ Docquity และความร่วมมือในท้องถิ่นที่แข็งแกร่งช่วยให้เราสามารถให้การสนับสนุนด้านการขายและการตลาดแบบครบวงจรแก่บริษัทด้านการดูแลสุขภาพที่ต้องการสร้างชื่อเสียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดยเราได้ช่วยให้บริษัทเหล่านี้ได้เป้าหมายการเติบโตและพัฒนาผลลัพธ์ด้านการดูแลสุขภาพในตลาดที่เราให้บริการ ตั้งแต่การใช้แคมเปญหลายช่องทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลไปจนถึงการรักษาความสัมพันธ์กับบุคลากรทางการแพทย์และช่วยให้มั่นใจว่าตลาดต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" Christophe Meugnier Chief Commercial Officer ของ Docquity กล่าว
เกี่ยวกับ Docquity https://docquity.com/
Docquity เป็นแหล่งรวมบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองและเป็นที่ไว้วางใจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้วิสัยทัศน์การเชื่อมโยงแพทย์เข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชากรในวงกว้าง Docquity เป็นสื่อกลางช่วยให้แพทย์ได้เรียนรู้ เชื่อมโยงและเติบโต ร่วมกันกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อพัฒนาการเข้าถึงและให้ความรู้กับแพทย์ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ในวิชาชีพแพทย์อีกด้วย
Docquity มีแพทย์ที่เป็นสมาชิกกว่า 410,000 คนในแพลตฟอร์ม และมีสำนักงานอยู่ในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และไต้หวัน
