Cloudera เสริมแกร่งการจัดการ Metadata ด้วยการปรับปรุง Data Catalog และการผนวกรวม Iceberg REST

การอัปเดตล่าสุดของ Cloudera ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบเปิด พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการกำกับดูแลและการรักษาความปลอดภัยข้อมูล

การอัปเดตแพลตฟอร์มจะนำเสนอภายในงาน EVOLVE24 ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 6-7 สิงหาคม

ซานตาคลารา, แคลิฟอร์เนีย, 7 สิงหาคม 2567 /PRNewswire/ -- Cloudera แพลตฟอร์มไฮบริดสำหรับข้อมูล การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว ประกาศอัปเดตโซลูชันการจัดการ Metadata ในสองส่วนสำคัญ โดยการอัปเดตดังกล่าวช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบเปิดภายใน Open Data Lakehouse และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการกำกับดูแลและการรักษาความปลอดภัยตลอดวงจรชีวิตของข้อมูลทั้งหมด

เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ หันมาลงทุนมากขึ้นในแอปพลิเคชัน generative AI ดังนั้นการจัดการ Metadata อย่างมีประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนได้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนด อย่างไรก็ตาม การที่จะประสบความสำเร็จและสามารถมอบผลลัพธ์ที่แม่นยำและยืดหยุ่นมากขึ้นได้นั้น องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียวและปลอดภัย ซึ่งสามารถปลดปล่อยพลังแห่งการพลิกโฉมการจัดการ Metadata ได้

ในฐานะผู้นำด้านการจำหน่ายแพลตฟอร์มสำหรับข้อมูล การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์ระดับองค์กรในอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด Cloudera ได้มอบ Open Data Lakehouse แบบครบวงจร พร้อมมาตรฐานแบบเปิดที่สามารถบูรณาการและทำงานร่วมกันในระบบนิเวศใด ๆ ก็ได้ สำหรับการอัปเดตล่าสุดเพื่อปรับปรุงสถาปัตยกรรมข้อมูลให้ทันสมัยมีดังนี้

• การบูรณาการ Iceberg REST Catalog ใหม่ของ Cloudera ช่วยให้เข้าถึง Apache Iceberg ได้อย่างราบรื่นโดยใช้เอนจินของบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือได้หลากหลายโดยรับประกันการกำกับดูแลและการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังช่วยลดความซับซ้อนในการเข้าถึงข้อมูล และรักษาสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและ lineage บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตลอดจนลดต้นทุนและความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลด้วยการลดจำนวนชั้นความปลอดภัยที่แยกจากกันให้เหลือน้อยที่สุด

• Shared Data Experience (SDX) ของ Cloudera อยู่ในสถานะพรีวิวทางเทคนิคในรูปแบบ cloud-native และ containerized มอบการรักษาความปลอดภัย การกำกับดูแล และการจัดการ Metadata ที่เป็นหนึ่งเดียวแบบครบวงจร โดยตอนนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีความยืดหยุ่น ความสามารถในการขยายขนาด และประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมนำเสนอการเข้าถึงข้อมูลด้วยตัวเองผ่านเครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากการละเมิดด้วยการรวมฟังก์ชันด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และรองรับการจัดการแบบ single pane of glass ทั้งสำหรับข้อมูลบนคลาวด์และภายในองค์กร

นอกเหนือจากการปกป้องข้อมูลด้วยการรักษาความปลอดภัยและ lineage ตลอดวงจรชีวิตของข้อมูลแล้ว การอัปเดตล่าสุดของ Cloudera ยังช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และความยืดหยุ่นได้ ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ Metadata นอกจากนี้ การอัปเดตยังอำนวยความสะดวกในการแบ่งปัน Metadata โดยไม่ต้องสร้างสำเนา ทำให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยเครื่องมือของบุคคลที่สามได้โดยไม่ต้องผูกขาดกับผู้จำหน่าย

"ไม่มีความได้เปรียบใดยิ่งใหญ่ไปกว่าข้อมูลในองค์กรของคุณ เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้ องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการแนวทางที่เป็นหนึ่งเดียวในการเข้าถึงและกำกับดูแลข้อมูลทุกประเภท ทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง และในทุกสถานที่ ทั้งภายในองค์กรและมัลติคลาวด์ และในทุกความเร็ว ทั้งแบบแบตช์และแบบสตรีม โดยผู้นำด้านข้อมูลต่างต้องการมุมมองข้อมูลที่สอดคล้องกันในฟอร์แมตตารางเปิด และใช้ชุดนโยบายที่สอดคล้องกันไม่ว่าคอนเทนต์จะอยู่ที่ใดก็ตาม" Sanjeev Mohan นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม กล่าว "สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยการปรับปรุง Data Catalog ที่ครอบคลุมฟอร์แมตต่าง ๆ เช่น Iceberg REST API และเปิดใช้งานการควบคุมการเข้าถึงแบบละเอียด"

"ข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวและการทำงานร่วมกันได้นั้น ถือเป็นและจะยังคงเป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรม Open Data Lakehouse ของ Cloudera บนคลาวด์ไฮบริด" Dipto Chakravarty ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Cloudera กล่าว "แพลตฟอร์มของเรามอบความสามารถในการปรับขนาด ประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความคุ้มค่าที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับการจัดการ Metadata ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องผูกขาดกับผู้จำหน่ายหรือเก็บข้อมูลแบบแยกส่วนกัน เรายึดมั่นในมาตรฐานแบบเปิด จึงรับรองการบูรณาการและการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นในทุกระบบนิเวศ เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์"

Cloudera จะสาธิตการอัปเดตเหล่านี้ในงาน EVOLVE24 Singapore ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรม ในระหว่างวันที่ 6-7 สิงหาคม ณ Sands Expo & Convention Center โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Cloudera ในการเป็น Open Data Lakehouse แบบไฮบริดที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวที่นำการวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์มาสู่ข้อมูลทางธุรกิจ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าการอัปเดตล่าสุดของ Cloudera ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบเปิด พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการกำกับดูแลและการรักษาความปลอดภัยข้อมูลได้อย่างไร โปรดดูที่บล็อกล่าสุดของเรา

เกี่ยวกับ Cloudera

Cloudera คือแพลตฟอร์มไฮบริดสำหรับข้อมูล การวิเคราะห์ และปัญญาประดิษฐ์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว โดยมีข้อมูลภายใต้การจัดการมากกว่าผู้จำหน่ายบนคลาวด์เพียงอย่างเดียวรายอื่นถึง 100 เท่า Cloudera จึงช่วยให้องค์กรระดับโลกสามารถแปลงข้อมูลทุกประเภทบนคลาวด์สาธารณะหรือส่วนตัวให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและเชื่อถือได้ โดย Open Data Lakehouse ของเรามอบการจัดการข้อมูลที่ปรับขนาดได้และปลอดภัยด้วยการวิเคราะห์แบบ cloud-native ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำโมเดล GenAI มาสู่ข้อมูลของตน ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความเป็นส่วนตัวและรับประกันการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ด้วยความรับผิดชอบและเชื่อถือได้ ทั้งนี้ แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านบริการทางการเงิน ประกัน สื่อ การผลิต และภาครัฐ ต่างไว้วางใจ Cloudera ให้สามารถใช้ข้อมูลของตนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ Cloudera.com และติดตามเราทาง LinkedIn และ X ทั้งนี้ Cloudera และเครื่องหมายที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Cloudera, Inc. ขณะที่ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เป็นเจ้าของ

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/495570/Cloudera_Logo.jpg?p=medium600