ปักกิ่ง, 25 กันยายน 2567 /PRNewswire/ -- รายงานข่าวจาก CRIOnline:
ในช่วงเช้าของวันที่ 23 กันยายน การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี จีน-อาเซียน ประจำปี 2567 (China-ASEAN Technology Transfer and Collaborative Innovation 2024 หรือ FCATTCI) ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีจีน-อาเซียน (China-ASEAN Technology Transfer Center) และกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Department of Science and Technology of Guangxi Zhuang Autonomous Region) ได้เปิดฉากขึ้นแล้วที่เมืองหนานหนิงในกว่างซี
ทั้งนี้ ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับอาเซียนหลายฉบับในระหว่างพิธีเปิด โดยเน้นที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ กลไกทวิภาคีสำหรับความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาแพลตฟอร์ม และความร่วมมือด้านทรัพยากรนวัตกรรม ข้อตกลงเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างการบูรณาการของหน่วยงานด้านนวัตกรรมระหว่างจีนและอาเซียนให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลการแข่งขันนวัตกรรมและผู้ประกอบการจีน-อาเซียน (China-ASEAN Innovation and Entrepreneurship Competition) ครั้งที่ 2 พร้อมเปิดตัวการแข่งขันครั้งที่ 3 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรมในภูมิภาค
ภายในงานยังมีการจัดทัวร์ค่ายนวัตกรรมและผู้ประกอบการจีน-อาเซียน (China-ASEAN Innovation and Entrepreneurship Camp China Tour) เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างเยาวชน และสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างจีนและประเทศอาเซียน
งาน FCATTCI ในปีนี้เน้นย้ำไปที่ความร่วมมือสำคัญด้านต่าง ๆ เช่นเทคโนโลยีสีเขียวและปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีกิจกรรมที่หลากหลาย ครอบคลุมพิธีเปิดและการประชุมหลัก การประชุมนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ 10+3 (10+3 Young Scientist Forum) ครั้งที่ 6 การประชุมความร่วมมือ AI จีน-อาเซียน (China-ASEAN AI Cooperation Conference) ประจำปี 2567 และการประชุมจับคู่เทคโนโลยีจีน-อาเซียน (China-ASEAN Technology Matching Meeting) นอกจากนี้ ยังมีการจัดมหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงครั้งที่ 21 (Exhibition on Advanced Technologies) ภายในงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo) ควบคู่กันไป โดยนำรูปแบบการประชุมร่วมกับงานจัดแสดงสินค้ามาใช้เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และกำหนดวิสัยทัศน์ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยผลักดันการพัฒนาชุมชนจีน-อาเซียนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนาคตที่มีร่วมกัน