เวที GLOBAL LOGISTICS FORUM ประจำปี 2567 ประกาศรายชื่อพันธมิตรชั้นนำสำหรับงานที่กำลังจะมีขึ้น ณ กรุงริยาด พร้อมนับถอยหลังสู่วันเปิดงาน

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, 11 ต.ค. 2567 /PRNewswire/ -- การประชุม Global Logistics Forum (GLF) ซึ่งจัดโดยกระทรวงคมนาคมและบริการโลจิสติกส์ ได้ประกาศรายชื่อพันธมิตรสำหรับงานที่กำลังจะมีขึ้น ขณะที่เริ่มนับถอยหลังสู่วันจัดงาน ณ กรุงริยาด ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม 2567

ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์อันทรงเกียรติของผู้พิทักษ์มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด งานที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้หวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างไม่เคยมีมาก่อน และปรับเปลี่ยนแผนที่โลจิสติกส์โลก โดย GLF จะเป็นเวทีสำคัญในการรวมตัวของพันธมิตรในแวดวงโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และผลกำไรในโลกที่เชื่อมโยงกัน

พันธมิตรทั่วโลกประจำงานประชุม GLF นี้ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันกับงาน นั่นคือการรวมทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เพื่อจัดงานที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เข้าร่วมงานราว 10,000 คน งานนี้ได้รับการสนับสนุนในแวดวงเดียวกันเอง โดยมีพันธมิตรตั้งแต่องค์กรด้านการบินอย่าง Saudia Group ผู้ดูแลท่าเรือซาอุดีอาระเบียอย่าง Mawani ไปจนถึงบริการซัพพลายเชนและการจัดส่งอย่าง Agility และ Aramex นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านความรู้ ไม่ว่าจะเป็น Bain and Company, Accenture, PWC และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะมาแบ่งปันความเชี่ยวชาญและข้อมูลเชิงลึกของตลาด เพื่อให้งานประชุมนี้เป็นเวทีที่นำโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

ฯพณฯ ดร. Rumaih bin Muhammad Al - Rumaih รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและบริการโลจิสติกส์ กล่าวว่า งานประชุม Global Logistics Forum นี้ถือเป็นจุดสำคัญบนเส้นทางของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์โลก "ตั้งแต่อาหารที่เรากิน ของขวัญที่เรามอบให้ ไปจนถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน โลกสมัยใหม่ของเราล้วนพึ่งพาเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับโลก โดยในงาน Global Logistics Forum นี้ เราจะกำหนดทิศทางอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดนี้

"เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลกและระดับภูมิภาคมากมายที่เป็นพันธมิตรกับเราในงาน GLF ครั้งแรกนี้ ซึ่งล้วนตระหนักถึงความสำคัญของช่วงเวลานี้ในการแบ่งปันแผนที่อนาคตของวงการโลจิสติกส์ในระดับสากล"

"เส้นทางการค้าโลก ความยั่งยืน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับโลกที่เชื่อมต่อกันของเรานั้น ล้วนเป็นปัญหาท้าทายสำคัญสำหรับภาคส่วนโลจิสติกส์ ในงาน GLF นี้ เราจะหารือกันว่าภาคโลจิสติกส์ระดับโลกจะร่วมมือกันรับมือปัญหาท้าทายเหล่านี้ได้อย่างไร โดยใช้โอกาสที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนแผนที่โลจิสติกส์โลกในที่สุด

"เราตั้งตารอที่จะต้อนรับบรรดาผู้นำวงการโลจิสติกส์จากทั่วโลกสู่กรุงริยาดในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมกันเชื่อมโยงโลกของเราให้ดียิ่งขึ้น และเราขอขอบคุณพันธมิตรทุกรายที่ช่วยให้งาน GLF นี้เกิดขึ้นได้"

ฯพณฯ วิศวกร Ibrahim Al-Omar ผู้อำนวยการใหญ่ของ Saudia Group กล่าวว่า "การที่เราได้เป็นพันธมิตรหลักของงานประชุม Global Logistics Forum ประจำปี 2567 ที่กรุงริยาดนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราต่อยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030 งานประชุมนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ Saudia Group ในการพบปะกับเหล่าผู้นำระดับโลก และมีส่วนร่วมในความทะเยอทะยานของราชอาณาจักรฯ ที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ชั้นนำ บทบาทของเราแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ และความร่วมมือในภาคส่วนโลจิสติกส์"

Stephen Thomas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ KAFD DMC กล่าวถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในราชอาณาจักรฯ ว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรผู้ก่อตั้งงานประชุม Global Logistics Forum (GLF) ซึ่งเราได้ยืนเคียงข้างผู้นำรายอื่น ๆ ในการกำหนดอนาคตของภาคส่วนนี้ ในฐานะเมืองอัจฉริยะและผู้มีส่วนขับเคลื่อนสำคัญของยุทธศาสตร์ Vision 2030 นั้น ทาง KAFD มุ่งมั่นและลงทุนอย่างจริงจังในการสร้างระบบนิเวศด้านการขนส่งและการเดินทางที่แข็งแกร่ง เรามีโครงการที่ทะเยอทะยานหลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดินแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของราชอาณาจักรฯ เพื่อเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องระบบขนส่งที่ส่งเสริมความยั่งยืนและคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้"

Othman Aljeda ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ Aramex กล่าวว่าทางบริษัทฯ "รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นการเดินทางแห่งความร่วมมือครั้งนี้กับงานประชุม Global Logistics Forum โดยเมื่อต้นปีนี้ Aramex ได้เปิดศูนย์กลางระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในกรุงริยาด และการที่เราเป็นพันธมิตรกับ GLF จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า เรากำลังนำความเชี่ยวชาญของเรามาช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือ ความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และการเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคส่วนโลจิสติกส์ของภูมิภาคนี้"

งานนี้มีวิทยากรกว่า 120 ท่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำระดับโลก รัฐมนตรี ผู้นำธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญในภาคโลจิสติกส์ที่จะมาร่วมแบ่งปันความรู้ มีการจัดเสวนาที่น่าสนใจนับสิบรายการ ทั้งการปาฐกถาพิเศษ การพูดคุยแบบสบาย ๆ การเสวนาระหว่างผู้เชี่ยวชาญ และการอภิปรายแบบกลุ่ม ซึ่งจะกล่าวถึงหัวข้อสำคัญในวงการโลจิสติกส์ อาทิ ความยั่งยืน ความยืดหยุ่นของการค้าโลก และบทบาทของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการช่วยปฏิวัติวงการโลจิสติกส์โลก

นอกจากหัวข้อที่น่าสนใจแล้ว GLF ยังเป็นเวทีสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างผู้นำอุตสาหกรรมรายต่าง ๆ ในวงการโลจิสติกส์ระดับโลกด้วย เพื่อสร้างความเป็นทางการให้กับภาคโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เครือข่ายการเชื่อมต่อทั่วโลกมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การประชุม GLF ประจำปี 2567 จะร่วมมือกับพันธมิตรในการทำบันทึกความเข้าใจ แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ และจัดการอภิปรายแบบกลุ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยน เพื่อเตรียมคนรุ่นปัจจุบันให้พร้อมรับมือกับความท้าทายระดับโลกทั่วทั้งอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอนาคต

งานนี้มีขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่ภาคโลจิสติกส์กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีซาอุดีอาระเบียเป็นแรงขับเคลื่อน ด้วยความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่งมีขึ้นในภาคส่วนนี้ เช่น ความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเปิดศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งใหม่ และอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของซาอุดีอาระเบียในเส้นทางการค้าโลก