บากู อาเซอร์ไบจาน 15 พฤศจิกายน 2567 /PRNewswire/ -- China Petroleum & Chemical Corporation ("Sinopec", HKG: 0386) ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาสีเขียวที่มีคุณภาพสูง พร้อมกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างบริษัทต่างๆ จากประเทศพันธมิตรในโครงการ Belt and Road Initiative เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน คาร์บอนต่ำ และมีคุณภาพสูงของภาคส่วนพลังงานและเคมีภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมระดับโลก
Ma Yongsheng ประธานของ Sinopec ประกาศความร่วมมือกับ Saudi Basic Industries Corporation (SABIC), Kazakhstan National Oil และบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ เพื่อจัดตั้งองค์กรความร่วมมือและนวัตกรรมเทคโนโลยี CCUS ระหว่างประเทศ ในระหว่างการประชุม Yabuli ประจำปีเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นที่ China Pavilion ในช่วงงาน COP29
Ma Yongsheng, chairman of Sinopec, announces to collaborate with Saudi Basic Industries Corporation (SABIC), Kazakhstan National Oil, and other oil giants to establish the International CCUS Technology Innovation Cooperation Organization, during the inaugural Yabuli Annual Conference on Sustainable Development held at China Pavilion during COP29.
"ความร่วมมือของเราจะผลักดันความก้าวหน้าในภาคส่วนพลังงานและเคมีภัณฑ์สีเขียว คาร์บอนต่ำ และมีคุณภาพสูง เพื่อฟื้นฟูและมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่สะอาดและสวยงามอย่างยั่งยืน" Ma กล่าว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Sinopec ได้ยกระดับขีดความสามารถของบริษัทในด้านเทคโนโลยี CCUS ขึ้นอย่างมาก โดยมีโครงการที่มีชื่อเสียงอย่าง โครงการสาธิต CCUS ของ Qilu Petrochemical-Shengli Oilfield และโครงการท่อส่ง CO₂ ระยะไกลระดับเมกะตันแห่งแรกของจีน ทั้งยังมีการเริ่มต้นกิจการร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ต่างๆ เช่น Shell, China Baowu และ BASF เป็นต้น เพื่อเปิดตัวโครงการ CCUS แบบเปิดระดับเมกะตันแห่งแรกของจีน
Sinopec ได้รีไซเคิล CO₂ ไปแล้วมากกว่า 8.55 ล้านตัน และอัดฉีดก๊าซ CO₂ เข้าไปประมาณ 5.75 ล้านตัน ซึ่งช่วยให้สามารถกู้คืนน้ำมันได้มากกว่า 600,000 ตัน นับตั้งแต่ที่เริ่มนำเทคโนโลยี CCUS มาใช้เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว
ความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Sinopec ร่วมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบกว่า 180 ล้านตันต่อปีจากประเทศที่เข้าร่วมในโครงการ Belt and Road Initiative โดยได้ประกอบธุรกิจค้าขายน้ำมันกลั่นมูลค่ากว่า 20 ล้านตันต่อปี รวมถึงขาย LNG เกือบ 7 ล้านตัน โดยบริษัทยังได้มีส่วนร่วมกับโครงการสำรวจน้ำมันและก๊าซ 32 โครงการตามเส้นทางเหล่านี้อย่างแข็งขันอีกด้วย
การจัดตั้ง Sinopec Tech Middle East ในซาอุดิอาระเบียเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมแบบเปิดในทั่วโลก โดยความร่วมมือดังกล่าวได้ขยายไปยังมหาวิทยาลัยชั้นนำจำนวนมากทั่วทวีปยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ที่นำไปสู่ข้อตกลงอนุญาตสิทธิ์เทคโนโลยีหลายฉบับตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการกลั่นที่สำคัญ เช่น การแตกตัวด้วยตัวเร่งปฏิกิริยา
นอกจากนี้ Sinopec ยังได้ปรับใช้เทคโนโลยีการผลิตสีเขียวในท้องถิ่น เช่น การใช้แท่นขุดเจาะแบบเงียบพิเศษและไม่ปล่อยมลพิษในยูกันดา ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อสัตว์ป่า อีกทั้ง Sinopec ยังคงดำเนินแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตสีเขียวในป่าฝนของเอกวาดอร์อย่างต่อเนื่อง และ Sinopec ยังได้ปลูกต้นไม้กว่า 15,000 ต้นในซาอุดิอาระเบียอีกด้วย