![]() |
มุ่งลงทุนในการพัฒนาสเปกตรัม โครงข่ายครอบคลุมพื้นที่ชนบท และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับ AI ท่ามกลางแรงกดดันจากภัยหลอกลวงที่เพิ่มสูงขึ้น
จาการ์ตา, อินโดนีเซีย, 10 ธันวาคม 2568 /PRNewswire/ -- วันนี้ GSMA ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการผลักดันที่ชัดเจนและนำโดยการลงทุน เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอินโดนีเซีย โดยนำเสนอข้อค้นพบจากรายงานฉบับล่าสุดในหัวข้อ GSMA Digital Nations 2025 และ ASEAN Consumer Scam 2025
ทาง GSMA ได้ขึ้นกล่าวบนเวที Digital Nation Summit (DNS) Jakarta โดยได้นำเสนอแผนปฏิบัติ เพื่อปลดล็อกเงินทุนจากภาคเอกชน และเร่งการติดตั้งใช้งานในด้านต่าง ๆ ครอบคลุมสเปกตรัม 5G, โครงข่ายส่วนหลังไฟเบอร์ และศูนย์ข้อมูลที่พร้อมรับ AI ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายที่มั่นคงและความร่วมมือข้ามภาคส่วน
ภาคธุรกิจอินโดนีเซียส่งสัญญาณความต้องการในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่จัดว่าแข็งแกร่งมากเป็นอันดับต้น ๆ ในภูมิภาค จากการสำรวจล่าสุดของ GSMA Intelligence ซึ่งครอบคลุมบริษัทกว่า 580 แห่งทั่วอาเซียน พบว่า บริษัทในอินโดนีเซียคาดการณ์ว่าจะจัดสรรรายได้โดยเฉลี่ยถึง 10% เพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลระหว่างปี 2568 ถึงปี 2573 ซึ่งสูงกว่าทั้งค่าเฉลี่ยของอาเซียน (10.4%) และค่าเฉลี่ยทั่วโลก (9.8%) ผู้ตอบแบบสอบถามถึง 2 ใน 3 ยกให้ AI ติดท็อป 3 ขอบเขตการใช้จ่ายลำดับต้น ๆ ในขณะที่มากกว่าครึ่งมองว่า IoT ที่ขับเคลื่อนด้วย 5G มีความจำเป็นต่อการเติบโตในอนาคต ซึ่งเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานของประเทศนี้ ในการนำเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคง
GSMA Intelligence พบว่า การลงทุน 5G ระลอกถัดไปในอินโดนีเซียมีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ให้แก่เศรษฐกิจของชาติเพิ่มขึ้นอีกถึง 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2567 ถึงปี 2573 ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากการเชื่อมต่อทางดิจิทัล (GSMA Intelligence, Forging a resilient digital nation: Proposals for Indonesia's future ธันวาคม 2566) โดยนับตั้งแต่ปี 2558 ผู้ประกอบการเครือข่ายเคลื่อนที่ได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและบริการต่าง ๆ ของอินโดนีเซียไปแล้วเกือบ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และด้วยสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เอื้ออำนวย คาดว่าอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการและพันธมิตรในระบบนิเวศ จะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2567 ถึงปี 2573 โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวบริการ 5G
คุณ Julian Gorman หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ GSMA แสดงความเห็นว่า "ด้วยขนาดของประเทศ พลังขับเคลื่อนของผู้ประกอบการ และประชากรวัยหนุ่มสาวที่เชื่อมต่อกัน ทำให้อินโดนีเซียมีโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเป็นผู้นำ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุดในตอนนี้คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสเปกตรัมที่เข้าถึงได้และมีนโยบายชัดเจน โครงข่ายส่วนหลังที่มั่นคง และศูนย์ข้อมูลที่พร้อมรองรับ AI และมีความยั่งยืน พร้อมกับการมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่จับต้องได้ เมื่อมีนโยบายชัดเจนและการดำเนินการร่วมกันในทุกภาคส่วนแล้ว อินโดนีเซียก็พร้อมเข้ามาสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยดึงดูดเงินทุนภาคเอกชนเข้ามาอย่างล้นหลาม เสริมแนวป้องกันภัยหลอกลวงให้แข็งแกร่ง และเร่งการเติบโตอย่างครอบคลุมทั่วทั้งหมู่เกาะ"
รายงาน Digital Nations ของ GSMA ได้มีการติดตามความก้าวหน้าของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแปซิฟิก โดยแบ่งออกเป็น 5 เสาหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ธรรมาภิบาลข้อมูล ความมั่นคงปลอดภัย และผู้คน ซึ่งรายงานได้เน้นย้ำถึงจุดที่การลงทุนจะสามารถสร้างผลกระทบได้สูงสุด อินโดนีเซียถูกจัดอยู่ในอันดับกลางในกลุ่ม 21 ประเทศที่ถูกนำมาเทียบเคียง แม้จะแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของอินโดนีเซียในด้านประชากร ทักษะดิจิทัล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่ก็ยังชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่ต้องปรับปรุงในด้านนวัตกรรมและการลงทุน โดยความล่าช้าในการจัดสรรสเปกตรัมช่วงกลาง ความครอบคลุมในพื้นที่ชนบทที่ไม่ทั่วถึง และขีดความสามารถที่ยังมีจำกัดในเรื่องการรองรับ AI นั้น มีความเสี่ยงที่จะทำให้ความคืบหน้าชะลอตัวลง ในขณะที่ความต้องการกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็กำลังถูกบั่นทอนเช่นกัน ข้อมูลเชิงลึกสำหรับอินโดนีเซียจากรายงาน ASEAN Consumer Scam Report 2025 นั้นชี้ให้เห็นว่า อินโดนีเซียมีภาพรวมสอดคล้องกับอาเซียน ผลสำรวจดังกล่าวเผยว่า ผู้ใหญ่ 45% รายงานว่าเคยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในช่วงชีวิต และเหยื่อ 68% ต้องสูญเสียเงิน โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย การติดต่อเพื่อหลอกลวงมีความเป็น Mobile-First มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งการส่งข้อความผ่าน OTT อยู่ที่ 50% และการโทรศัพท์ด้วยเสียงอยู่ที่ 44% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนทั้งสองรูปแบบ อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีคือ 81% ของชาวอินโดนีเซียสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแบ่งปันสัญญาณเครือข่ายขั้นต่ำที่กำหนดวัตถุประสงค์ (เช่น การแจ้งเปลี่ยนซิมและการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์) ในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อยับยั้งการฉ้อโกง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการใช้งาน API ต่อต้านการทุจริตของ GSMA Open Gateway อย่างกว้างขวาง
ผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่รายใหญ่ 3 รายของอินโดนีเซียอย่าง Telkomsel, Indosat Ooredoo Hutchison และ XLSmart ได้ผนึกกำลังจัดตั้งกลุ่มพันธมิตร เพื่อปกป้องลูกค้าจากภัยหลอกลวงและความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อื่น ๆ โดยนำ Open Gateway API เช่น SIM Swap, Number Verification และ Device Location มาใช้ร่วมกัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการชำระเงินและการเข้าระบบ
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1882833/5665015/GSMA_Logo.jpg?p=medium600