บาร์เซโลนา, สเปน--24 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
หัวเว่ย (Huawei) และ ดอยช์ เทเลคอม (Deutsche Telekom) ร่วมกันสาธิตเทคโนโลยีเครือข่ายแยกส่วน 5G E2E Network Slicing เป็นครั้งแรกของโลก ในวันเปิดงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน การสาธิตร่วมกันจัดขึ้นที่ห้องปฏิบัติการ 5G:haus ของดอยช์ เทเลคอม ในกรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพิสูจน์เทคโนโลยี Network Slicing ซึ่งสามารถสร้างเครือข่ายแยกได้ตามต้องการตามสภาพการใช้งาน โดยมีความยืดหยุ่นสูงและมีประสิทธิภาพในการรองรับการใช้งาน 5G ที่หลากหลายในอนาคต
การใช้งานเทคโนโลยี 5G E2E Network Slicing บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมของหัวเว่ย ได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถแยกเครือข่ายแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ผ่านการแยกเครือข่ายหลักออกเป็นส่วนๆ รวมถึงการแยกส่วนควบคุมและส่วนของผู้ใช้ออกจากกัน โดยมีการกำหนดและติดตั้งเครือข่ายหลักและอินเตอร์เฟซ RAN เพื่อรองรับการแยกเครือข่ายแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันยังมีการจัดการแยกสำหรับทั้งเครือข่ายหลักและ RAN เพื่อจัดการวงจรชีวิตและติดตามการแยก
การสาธิตร่วมกันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของนวัตกรรม "เครือข่ายเดียว ให้บริการได้หลายอุตสาหกรรม" รวมถึงความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมเครือข่าย 5G ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ
"หัวเว่ยทุ่มทุนมหาศาลไปกับนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G" เดวิด หวัง ประธานฝ่ายเครือข่ายไร้สายของหัวเว่ยกล่าว "การแยกเครือข่าย 5G ช่วยให้สามารถรวมโครงสร้างเครือข่ายทางกายภาพเข้าด้วยกันเพื่อรองรับการให้บริการในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงโมบายล์บรอดแบนด์และอุตสาหกรรมแนวดิ่ง เราจะทุ่มเทความพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีขั้นสูงไปสู่ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเรา"
"เทคโนโลยี Network Slicing จะช่วยให้ 5G เป็นเครือข่ายอเนกประสงค์ทีมีประสิทธิภาพสูง อันเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นต้องมีเพื่อใช้เชื่อมต่ออุตสาหกรรมต่างๆเข้าด้วยกัน และยังต้องสามารถเชื่อมต่อจำนวนมากได้เช่นเดียวกับโมบายล์บรอดแบนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแน่นอน" บรูโน เจค็อบเฟาเออร์บอร์น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของดอยช์ เทเลคอม กล่าว "เราแสดงให้เห็นว่า ศักยภาพเหล่านี้สามารถจัดหาให้ได้ในรูปแบบบริการเครือข่ายตามความต้องการสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน"
ดอยช์ เทเลคอม และ หัวเว่ย ได้ร่วมกันพัฒนาและทำการทดสอบเทคโนโลยีระบบ 5G ซึ่งรวมถึงอินเตอร์เฟซทางอากาศและสถาปัตยกรรมเครือข่าย หัวเว่ยมีประสบการณ์ร่วม 6 ปีในการวิจัยและพัฒนา 5G จึงมีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและทดสอบภาคสนามเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นๆในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างระบบนิเวศ 5G และผลักดันการพัฒนาระบบ 5G ต่อไป
งาน MWC 2016 จัดขึ้นที่บาร์เซโลนาในระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์นี้ หัวเว่ยจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ล่าสุดของบริษัทที่ Fira Gran Via Hall 1 และ Hall 3 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.huawei.com/en/mwc2016
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ยเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ชั้นนำระดับโลก เรามีจุดมุ่งหมายในการสร้างโลกที่เชื่อมต่อได้ดีกว่าเดิม ด้วยการรับบทเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ผลักดันนวัตกรรมในสังคมสารสนเทศ และผู้มีส่วนช่วยเหลืออุตสาหกรรม ด้วยแรงผลักดันจากนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าและพันธมิตรแบบเปิด หัวเว่ยได้สร้างสรรค์โซลูชันไอซีทีแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ที่ช่วยให้ลูกค้ามีความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและแวดวงเครือข่ายธุรกิจ อุปกรณ์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง พนักงานของหัวเว่ยกว่า 170,000 คนทั่วโลกมีพันธกิจในการสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม องค์กร และผู้บริโภค โซลูชั่น ผลิตภัณฑ์ และบริการด้านไอซีทีของเราถูกนำไปใช้ในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค เพื่อให้บริการแก่ประชากรมากกว่าหนึ่งในสามของโลก ทั้งนี้ หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่พนักงานเป็นเจ้าของร่วมกัน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.huawei.com หรือติดตามเราได้ทาง
http://www.linkedin.com/company/huawei
http://www.facebook.com/Huawei
Open ROADS to a Better Connected World
"Open ROADS to a Better Connected World" คือธีมของหัวเว่ยในงาน Mobile World Congress 2016 ซึ่งอิงจากกลยุทธ์หลักของบริษัทในการผลักดันความก้าวหน้าทางไอซีที ผ่านการสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างและมีการประสานความร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย ในอนาคต คนกับคน คนกับวัตถุ และวัตถุกับวัตถุ จะมีการเชื่อมต่อ มีปฏิสัมพันธ์ และมีการทำงานร่วมกันอย่างเต็มรูปแบบ อันจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมธุรกิจดิจิตอลแบบใหม่ที่มีทั้งความท้าทายและโอกาสมากมายสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม ทั้งนี้ หัวเว่ยได้กำหนดมาตรฐานประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน นั่นคือ ROADS ซึ่งหมายถึง Real-time, On-demand, All-online, DIY และ Social และด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและโซลูชั่นชั้นนำของบริษัท หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างๆ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ ROADS รวมทั้งเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์สำหรับอนาคต เพื่อสร้างโลกที่เชื่อมต่อกันได้ดียิ่งขึ้น