ปารีส--18 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
"Nature's Treasures" คือคอลเลคชั่นน้ำหอมสุดหรูหราและเย้ายวนใจที่ผสมด้วยมือจาก Fragrance Du Bois แบรนด์น้ำหอมสัญชาติฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณภาพเยี่ยมและมาจากแหล่งที่มีความยั่งยืนเท่านั้น
น้ำหอม 6 กลิ่นในคอลเลคชั่นใหม่ประกอบด้วย Baie Rose, Patchouli Argent, Brume du Matin, Petales de Cashmere, Santal Complet และ Zest Marin ซึ่งทุกขวดล้วนรังสรรค์จากวัตถุดิบสุดพิเศษที่ผสมผสานความหอมนุ่มลึกและความเย้ายวนใจอย่างลงตัว อันที่จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์น้ำหอมส่วนใหญ่ของ Fragrance Du Bois มีส่วนผสมของน้ำมันกฤษณาธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่คอลเลคชั่น Nature's Treasures จะเผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ที่หลงใหลในแบรนด์ของเราอย่างแน่นอน
คุณนิโคลา พาร์คเกอร์ ผู้อำนวยการแบรนด์ Fragrance Du Bois กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวคอลเลคชั่น "Nature's Treasures" ที่ผ่านการคิดและการวิจัยอย่างหนักตลอดทั้งปี น้ำหอมคอลเลคชั่นนี้ไม่เพียงสะท้อนตัวตนของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าถึงลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอนาคตได้ด้วย ชื่อของคอลเลคชั่นก็บอกชัดเจนว่า น้ำหอมแต่ละขวดล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และรังสรรค์ขึ้นโดยใช้ส่วนผสมชั้นเลิศที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน เราสร้างสรรค์คอลเลคชั่นนี้ในแบบเดียวกับที่เราสร้างสรรค์น้ำหอมจากน้ำมันกฤษณา โดยใช้แต่ส่วนผสมที่ดีที่สุดจากธรรมชาติเท่านั้น"
ด้วยปณิธานในการสร้างสรรค์เฉพาะน้ำหอมสุดหรูชั้นเลิศ และด้วยศรัทธาต่อธรรมเนียมการผลิตน้ำหอมอันเก่าแก่ตามแบบฉบับเมืองกราสส์ Fragrance Du Bois จึงได้จับมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตน้ำหอมชาวฝรั่งเศส เพื่อรังสรรค์น้ำหอมที่ผสานความเข้มข้นและเบาบางอย่างลงตัว แต่ก็เผยให้เห็นตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน
แม้ว่า Fragrance Du Bois จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในเวทีโลก แต่น้ำหอมและผลิตภัณฑ์จากน้ำมันกฤษณาตามหลักปรัชญา "Pure Oud, Pure Luxury" ก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์อย่างล้นหลาม และการตัดสินใจผลิตน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันกฤษณาในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Fragrance Du Bois ในการยกระดับแบรนด์เพื่อตอบสนองความปรารถนาของลูกค้าที่ต้องการเติมสีสันอันหลากหลายให้กับชีวิต
นอกจากนี้ Fragrance Du Bois ตระหนักดีว่า ผู้ที่หลงใหลน้ำหอมจำนวนไม่น้อยชื่นชอบการฉีดน้ำหอมทับกับหลายๆชั้น เพื่อสร้างกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันเป็นวิธีฉีดน้ำหอมที่ทำมานานหลายร้อยหลายพันปีในตะวันออกกลาง
บรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีในตะวันออกกลางต่างคุ้นเคยดีกับการผสมผสานน้ำหอมกลิ่นต่างๆ เข้าด้วยกันตามรสนิยมและจินตนาการของแต่ละบุคคล โดยปกติแล้วน้ำมันกฤษณาจะเป็นส่วนผสมที่มีกลิ่นโดดเด่นที่สุด Fragrance Du Bois จึงต้องการสร้างความแปลกใหม่ด้วยการรังสรรค์น้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ที่มีกลิ่นบางเบากว่า แต่ยังคงใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดจากธรรมชาติเท่านั้น
คุณพาร์คเกอร์กล่าวว่า "เราเชื่อว่าน้ำหอมคอลเลคชั่นนี้จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆได้มากขึ้น โดยเฉพาะในโซนเอเชียที่มีสภาพอากาศเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นสดชื่นบางเบา แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งตัวตนของ Fragrance Du Bois เพราะน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์และหรูหราในแบบที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด"
เพื่อตอกย้ำถึงความหรูหราของ Fragrance Du Bois น้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่นี้จะบรรจุอยู่ในขวดแก้ววิจิตรงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมฝาขวดชุบทอง ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี
Nature's Treasures วางจำหน่ายที่บูติกของ Fragrance Du Bois ในปารีส สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ และเจนีวา โดยขนาด 100 ml ราคา 595 ยูโร และขนาด 50 ml วางจำหน่ายในบางประเทศด้วยราคา 295 ยูโร
อ่านรายละเอียดของน้ำหอมกลิ่นต่างๆได้ที่
https://www.dropbox.com/s/eqyaaafkyjxbtka/FDB%20-%20Nature%27s%20Treasures%20.pdf?dl=0
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ซาแมนธา ธาม
ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดประจำสิงคโปร์
อีเมล: samantha.tham@fragrancedubois.com
โทร. +65 9144 0933
ชาร์ลอตต์ เมดิก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและธุรการ
อีเมล: charlotte.medigue@fragrancedubois.com
มือถือ: +41-227-077-330
เกี่ยวกับ Fragrance Du Bois
Fragrance Du Bois เป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยถือกำเนิดขึ้นจากแก่นแท้ของธรรมชาติและรังสรรค์โดยเหล่านักผสมน้ำหอมรุ่นที่ห้า ผู้สานต่อการผลิตน้ำหอมแบบฉบับเมืองกราสส์ของฝรั่งเศสที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 น้ำหอมทุกขวดของ Fragrances Du Bois สร้างสรรค์ขึ้นจากน้ำมันกฤษณาอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ทั้งหรูหราและโดดเด่นไม่เหมือนใคร น้ำมันกฤษณาที่ใช้ในน้ำหอมของเราล้วนผลิตขึ้นจากแหล่งปลูกต้นกฤษณาของเราเอง ซึ่งรับประกันว่าผลิตตามหลักจรรยาบรรณและหลักความยั่งยืน