มิวนิก--20 มิถุนายน--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ยิ่งรถยนต์ควบคุมพวงมาลัย เร่งความเร็ว และลดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเท่าไร การปกป้องระบบจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น และนี่คือเหตุผลที่ทำให้พันธมิตรจากภาคอุตสาหกรรมและวิชาการทั้ง 15 รายมารวมตัวกัน 3 ปีต่อจากนี้ เพื่อร่วมกันคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ในการรักษาความปลอดภัยทางไอทีของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โครงการความร่วมมือนี้มีชื่อว่า Security For Connected, Autonomous Cars (SecForCARs) และได้รับเงินทุนสนับสนุน 7.2 ล้านยูโรจากกระทรวงศึกษาธิการและการวิจัยแห่งเยอรมนี โดยมีบริษัท Infineon เป็นผู้นำในโครงการ
ปัจจุบัน ยานยนต์เริ่มมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารหลายรูปแบบและเริ่มมีระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ระบบช่วยรักษาระยะห่างและระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน เป็นต้น ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมยานยนต์ก็กำลังพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีระบบอิเล็กทรอนิกส์แตกต่างจากรถยนต์แบบเดิมอย่างมาก เพราะต้องบันทึกและประมวลผลข้อมูลมหาศาลในเวลาที่น้อยลงมาก เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเพื่อควบคุมการขับเคลื่อนทั้งระบบ ด้วยเหตุนี้ ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
โครงการ SecForCARs โฟกัสไปที่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ จึงมีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางไอทีของรถยนต์ทั่วไป รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะสร้างจุดแข็งมากมายให้กับการขับขี่อัตโนมัติ เช่น ยานยนต์จะมีความปลอดภัยมากขึ้นเพราะสามารถส่งคำเตือนถึงกันและกันเมื่อพบความเสียหายบนถนนหรือน้ำแข็งเกาะถนน ทว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในรถยนต์ก็จำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการโจมตีจากภายนอก เหล่าพันธมิตรในโครงการนี้จึงตั้งใจที่จะสำรวจและประเมินกลไกอันทันสมัยต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
โครงการ SecForCARs กำลังพยายามตอบคำถามมากมาย เช่น เราจะพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้มีความปลอดภัยมากขึ้นได้อย่างไร เราจะทดสอบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของยานยนต์เหล่านี้ได้อย่างไร และผู้ผลิตยานยนต์และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีจะสามารถอุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นภายหลังอย่างรวดเร็วที่สุดได้อย่างไร
โครงการนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไอทีและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจากบริษัทชั้นนำมากมาย ได้แก่ Volkswagen AG, AUDI AG, Infineon Technologies AG, Robert Bosch GmbH, ESCRYPT GmbH, Itemis AG, Mixed Mode GmbH และ SCHUTZWERK GmbH ขณะเดียวกัน สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยที่ได้รับเลือกจะเข้ามาช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่า ผลการวิจัยใหม่ล่าสุดจะถูกถ่ายโอนมายังโครงการนี้ ซึ่งประกอบด้วย University of Ulm, Technical Universities of Braunschweig and Munich, Free University of Berlin, Karlsruhe University of Applied Sciences, Fraunhofer Institutes AISEC และ IEM ทั้งนี้ โครงการ SecForCARs จะดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคม 2564