เซี่ยงไฮ้, 24 ก.ค. 2562 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- จีนมีตลาดก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มั่งคั่ง โดยในปี 2561 เพียงปีเดียวมีการใช้ก๊าซธรรมชาติมากถึง 2.80 แสนล้านลูกบาศก์เมตร และด้วยนโยบายการเปลี่ยนถ่านหินเป็นก๊าซของจีน รวมถึงเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราจึงสามารถคาดการณ์ได้ถึงความต้องการ LNG ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้า ดังนั้น เพื่อรองรับตลาดขนาดใหญ่ของจีนได้ดีขึ้น ENN Energy Holdings Limited หนึ่งในผู้ให้บริการด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของจีน จึงหันมาใช้ VeChainThor Blockchain เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการควบคุมคุณภาพและการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ ENN ดำเนินโครงการ 187 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมประชากรเมืองที่เชื่อมถึงกันกว่า 94.57 ล้านคนในจีน
องค์ประกอบ ค่าความร้อน และอัตราการผลิตก๊าซเชื้อเพลิงของ LPG แตกต่างกันไปตามแหล่งที่มาและกระบวนการ ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย จึงจำเป็นต้องมีการติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงทีและแม่นยำ และควรจะต้องมีการบันทึกการเปลี่ยนแปลงความดันก๊าซในระหว่างการขนส่งและเวลาที่มาถึงเช่นกัน ซึ่งวิธีการดั้งเดิมนั้น ข้อมูลจะถูกบันทึกโดยบุคลากรที่หลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน และถูกส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารที่หลากหลาย ซึ่งกินเวลานานและเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดจากมนุษย์
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เทคโนโลยี VeChainThor Blockchain และ IoT ถูกนำมาใช้ โดยในเดือนสิงหาคม 2561 ที่งานมหกรรม China International Gas & Heating Technology and Equipment Exhibition 2018 บริษัท ENN, VeChain แพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะระดับองค์กร และบริษัท Shanghai Gas รัฐวิสาหกิจที่ครองตลาดก๊าซของนครเซี่ยงไฮ้กว่า 90% ได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาโซลูชั่น LNG โดยใช้ VeChainThor Blockchain
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ENN รับผิดชอบเรื่องการออกแบบและสร้างระบบรองรับการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับก๊าซ LNG ขณะที่ VeChain รับหน้าที่เป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของโซลูชันนี้ รวมถึงบริการซอฟต์แวร์ที่จำเป็น และ Shanghai Gas จะรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบเพื่อทำให้มั่นใจว่าโซลูชันดังกล่าวครอบคลุมตลาด LNG ทั่วประเทศ
โซลูชั่นนี้ถูกนำไปใช้งานเป็นครั้งแรกโดยศูนย์จัดเก็บและจำหน่ายก๊าซ Zhoushan LNG Storage and Distribution Centre ในช่วงนำร่องก่อนการเปิดใช้งานวงกว้าง
สำหรับในกรณีนี้ VeChainThor Blockchain ถูกนำมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ IoT เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยก๊าซจะถูกฉีดเข้าไปในถังเก็บที่แตกต่างกัน จากนั้น แต่ละถังจะได้รับหมายเลขถังที่เชื่อมโยงกับข้อมูลซึ่งเก็บไว้บนบล็อกเชน เช่น แหล่งที่มา เป็นต้น เมื่อถังก๊าซถูกขนส่งไปยังผู้ค้าปลีก ข้อมูลโลจิสติกส์ ตลอดจนรายงานคุณภาพของ LNG จะถูกอัพโหลดขึ้นบล็อกเชนเช่นกัน ด้วยกระบวนการดังกล่าว ผู้ขนส่งและผู้จัดจำหน่ายท้องถิ่นจึงสามารถตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล LNG ระหว่างกันได้บนบล็อกเชน
นอกจากนี้ VeChainThor Blockchain ยังสามารถรองรับการให้บริการด้านการการเงินในห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นใบเสร็จการมัดจำคลังสินค้า การตรวจสอบย้อนกลับคุณภาพ การประกันความปลอดภัย และอื่นๆ และเนื่องจากสามารถตรวจสอบข้อมูลที่มีการเข้ารหัสได้ ผู้ให้บริการด้านการเงินในห่วงโซ่อุปทานจึงมีเครื่องมือที่ดีขึ้นสำหรับการสืบค้นข้อมูลและการตรวจสอบ
ในอนาคต VeChain จะร่วมมือกับ ENN อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้งานรูปแบบนี้ไปยังโครงการ LNG อื่นๆ ตลอดจนธุรกิจที่หลากหลาย ซึ่งจะสร้างมูลค่าสำหรับทั้งเศรษฐกิจที่แท้จริงและผู้บริโภคปลายทาง
เกี่ยวกับ VeChain
VeChain เปิดตัวในปี 2558 เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีบล็อกเชนกับโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการวางโครงสร้างการบริหารครบวงจร โมเดลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการบูรณาการ IoT ทั้งนี้ VeChain เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และมีการดำเนินงานทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ลักเซมเบิร์ก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ปารีส ฮ่องกง และซานฟรานซิสโก
ความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง PwC และ DNV GL ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรชั้นนำมากมายในหลายหลากอุตสาหกรรม อาทิ Walmart China, BMW, BYD Auto, Haier, Bright Food, D.I.G, DB Schenker และ PICC เป็นต้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VeChain สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ @vechainofficial หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการ www.vechain.com
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=3nz9WrYSlC4
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/738221/VeChain_Logo.jpg