กรุงเทพฯ—15 ต.ค.—พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ดานอน (Danone) บริษัทเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Dumex, Hi-Q และน้ำแร่ Evian ได้ประกาศยกระดับแผนส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและการมีส่วนร่วมกับพนักงาน ตามวิสัยทัศน์ 'One Planet. One Health' ในประเทศไทย ดานอนเชื่อว่าคนเป็นทรัพย์สินที่มีบทบาทมากที่สุดในการบรรลุพันธกิจของบริษัทและจัดการปัญหาท้าทายใหม่ ๆ ที่โลกกำลังเผชิญ ดานอนจึงมีความตั้งใจในการสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทั่วถึง หลากหลาย และมีส่วนร่วมหลายฝ่าย โดยการสร้างทีมบุคลากรที่แข็งแรงและเต็มใจมีส่วนร่วมผ่านโมเดลการบริหารจัดการบุคลากรสุดล้ำนั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบรรลุวิสัยทัศน์ 'One Planet. One Health' ของดานอน ซึ่งเริ่มที่พนักงานของบริษัทเอง
ดานอนได้เปิดตัวโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับพนักงาน 'One Person, One Voice, One Share' เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมทั่วทั้งบริษัท และกระตุ้นให้พนักงานดานอนในไทยมีความรู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของบริษัทมากขึ้น โครงการ 'One Voice' ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อที่ว่า พนักงานทุกคนควรมีความรู้สึกร่วมว่าตนมีส่วนในการกำหนดวาระของบริษัท หนึ่งในวิธีแสดงออกคือการช่วยกำหนดแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายในปี 2030 ของดานอน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โครงการ 'One Voice' มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนชาวดานอนในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาเหล่านี้ ทางโครงการจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มภายในโดยมีทรัพยากรการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัท รวมถึงคอนเทนต์จากการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีมุมมองเดียวกัน เช่น สถาบันเพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยแห่งสหประชาชาติ (UNITAR) และโครงการริเริ่มภายในต่าง ๆ เช่น งาน 'Campus for All' ประจำปี ซึ่งเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ยาวหนึ่งสัปดาห์เพื่อบ่มเพาะความสามารถบุคลากรในพื้นที่และผลักดันพวกเขาในการร่วมนำการปฏิวัติวงการอาหาร และเมื่อมีการปรึกษาหารือกับพนักงานในไทยผ่านโครงการ 'One Voice' แล้ว ชาวดานอนต่างรู้สึกต้องการส่งเสริมสุขภาพของผู้คนในพื้นที่ และสิ่งนี้ได้ผนวกรวมไว้ในแผนกลยุทธ์ในไทย โดยมุ่งเน้นการจัดการกับปัญหาการขาดธาตุเหล็ก[1] นอกจากนี้ โครงการ 'One Voice' ยังเติมเต็มด้วยโครงการ 'One Share' ซึ่งมอบหุ้นของบริษัทหนึ่งหุ้นให้พนักงานทุกคน พร้อมแผนให้ผลตอบแทนหลัก ๆ ในรูปแบบเงินปันผลจากผลประกอบการรวมเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทำให้พนักงานดานอนรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของบริษัทมากขึ้น
ดานอนเป็นบริษัทที่เชื่อในเรื่องความหลากหลายอย่างทั่วถึง บริษัทจึงเล็งเห็นเอกลักษณ์ของชาวดานอนแต่ละคน และลงทุนในการส่งเสริมมูลค่าเพิ่มที่ความแตกต่างเหล่านี้มอบให้องค์กร การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและเปิดโอกาสสู่ความก้าวหน้าในอาชีพเป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์นี้ โดยชาวดานอนทุกคนมีโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์ในตลาดและวัฒนธรรมอื่น ๆ ผ่านงานมอบหมายระยะสั้นตามสำนักงานสาขาอื่น ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ เพื่อให้สอดรับกับกระแสดิจิทัลในเศรษฐกิจโลก ดานอนจึงมีการนำร่อง Agile Organisation ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนขีดความสามารถและนำแนวทางการทำงานยุคดิจิทัลมาใช้
เพื่อแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของดานอนในการสนับสนุนพนักงานในสถานที่ทำงานแห่งอนาคต ดานอนจึงขอนำเสนอนโยบายสนับสนุนพนักงานที่เป็นพ่อแม่ ครอบคลุมทั้งการสนับสนุนก่อนคลอด สิทธิลางานเลี้ยงลูกทั้งพ่อและแม่ และการสนับสนุนหลังคลอด นโยบายนี้ยังรวมถึงสภาวะการทำงานที่ปรับให้เข้ากับว่าที่คุณแม่ ขยายสิทธิลาเลี้ยงลูกแบบได้รับเงินเดือนเป็นระยะเวลาสูงสุด 18 สัปดาห์ และแบบไม่ได้รับเงินเดือนจนครบระยะเวลานานสูงสุด 6 เดือน นโยบายคุ้มครองงาน และตารางทำงานที่ยืดหยุ่น เช่นเดียวกับห้องให้นมลูก ในสำนักงานและโรงงานผลิตของดานอนทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นโยบายเหล่านี้สะท้อนให้เห็นการสนับสนุนที่ดานอนยินดีมอบให้พนักงานของบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแสนสำคัญในการเริ่มเลี้ยงดูลูกตั้งแต่วันแรก ๆ และเพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
คุณนอร์มาลิส โมฮัมหมัด ซารีฟ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของดานอนประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "ที่ดานอน เราให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ดานอนมีพันธสัญญาต่อความสำเร็จทางธุรกิจควบคู่ไปกับความก้าวหน้าของสังคม ตามแถลงการณ์สำคัญเมื่อปี 1972 ของคุณอองตวน รีบูด์ อดีตซีอีโอของเรา ซึ่งได้เข้ามาร่างวิสัยทัศน์ใหม่ในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร โครงการ 'One Person, One Voice, One Share' เป็นวิธีการที่เราใช้ในการเชิญชวนให้พนักงานเข้ามาร่วมสร้างและร่วมเป็นเจ้าของอนาคตร่วมกัน สำหรับประเทศไทยนั้น เราเพิ่งเปิดตัวแคมเปญ 'I'm a Proud Danoner' ซึ่งกระตุ้นให้พนักงานออกมาแชร์สิ่งที่ตนเองภาคภูมิใจในฐานะพนักงานของดานอน นอกจากนี้ เรายังได้ทุ่มลงทุนในการพัฒนาพนักงานผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น งานมอบหมายระยะสั้นในต่างประเทศ และโครงการริเริ่ม Agile Organisation และเพื่อแสดงให้เห็นพันธสัญญาของเราในการสนับสนุนพนักงานสู่อนาคตข้างหน้า นโยบายสนับสนุนพนักงานที่เป็นพ่อแม่ที่เรามีขึ้นใหม่นี้ ยังรวมถึงทางเลือกในการทำงานและใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น เพื่อให้พ่อแม่คำนึงถึงครอบครัวเป็นศูนย์กลางในชีวิตของตน รวมถึงคำแนะนำในเรื่องความสำคัญของการมีโภชนาการที่เหมาะสมในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตของลูกน้อย เราต้องการเป็นบริษัทที่เป็นมิตรต่อพ่อแม่มากที่สุดในไทย ดิฉันรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ความพยายามของเราได้สะท้อนถึงอัตราการคงอยู่ของบุคลากรที่ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราการลาออกของพนักงานในดานอน ดูเม็กซ์ ประเทศไทย อยู่ที่เพียง 8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่ระดับ 15%"
คุณขวัญแก้ว ธนเศรษฐกร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของดานอน ดูเม็กซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า "ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานให้กับบริษัทที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอดอย่างดานอน โดยดานอนให้ความสำคัญกับการแสดงความคิดเห็นของดิฉัน และเปิดโอกาสให้เราได้มีส่วนตัดสินใจในระเบียบวาระของทางบริษัทผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ อาทิ โครงการ 'One Person, One Voice, One Share' ทางบริษัทเชื่อมั่นในการพัฒนาของพนักงาน ขณะที่โครงการนำร่อง Agile Organisation ก็มอบโอกาสให้ดิฉันได้ทำงานในระดับภูมิภาค แม้ตัวดิฉันเองจะประจำการอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ดานอนไม่เพียงแต่ดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานเป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ดานอนยังห่วงใยถึงความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัวของพนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ ดิฉันรู้สึกปลื้มใจกับนโยบายลาเลี้ยงบุตรที่เปิดโอกาสให้ดิฉันได้ให้นมลูกอย่างเต็มที่ ได้อยู่ดูแลเมื่อเขาร้องไห้ ได้โอบกอดเขามากเท่าที่ต้องการ และได้สร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแม่และลูกในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต"
[1] ข้อมูลจาก Global Alliance for Improved Nutrition ระบุว่า การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุหลักของโรคโลหิตจาง ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะการขาดสารอาหารที่เกิดขึ้นกับ 1 ใน 3 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจมีอาการอ่อนเพลียอย่างหนัก และอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการเรียนรู้และประสิทธิภาพในการทำงานได้
เกี่ยวกับดานอน (www.danone.com)
ดานอนมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสุขภาพที่ดีด้วยอาหาร ให้กับผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเป็นบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก บริษัททำธุรกิจในหมวดที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเน้นด้านสุขภาพใน 3 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่ผลิตภัณฑ์นมที่จำเป็นและอาหารจากพืช น้ำดื่ม และโภชนาการสำหรับความต้องการเฉพาะ ดานอนหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการรับประทานอาหารและดื่มน้ำในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์อย่าง 'One Planet. One Health' ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่ว่า สุขภาพของผู้คนและสภาวะของโลกเชื่อมโยงถึงกันและกัน เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง และสร้างคุณค่าที่มากกว่า ยั่งยืนกว่า และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าแก่ผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ดานอนได้กำหนดเป้าหมายในปี 2030 ซึ่งเป็นชุดเป้าหมายแบบบูรณาการ 9 ประการที่สอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติดานอนตั้งเป้าที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบ และมีความครอบคลุม โดยยึดมาตรฐานสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ ดังที่สะท้อนให้เห็นผ่านความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่ได้รับการรับรองในฐานะ B CorpTM ดานอนมีพนักงานกว่า 100,000คน และมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในกว่า 120 ประเทศ ดานอนทำรายได้กว่า สองหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยล้านยูโรในปี 2018 ทั้งนี้ ดานอนมีแบรนด์ชั้นนำระดับอินเตอร์ในเครือหลากหลายแบรนด์ (เช่น Actimel, Activia, Alpro, Aptamil, Danette, Danio, Danonino, evian, Nutricia, Nutrilon, Volvic เป็นต้น) รวมถึงแบรนด์ในท้องถิ่นและระดับภูมิภาค (เช่น Dumex, AQUA, Blédina, Cow & Gate, Horizon, Mizone, Oikos, Prostokvashino, Silk และ Vega เป็นต้น)
ดานอนจดทะเบียนในตลาด Euronext Paris และ OTCQX ผ่านใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐ (American Depositary Receipt หรือ ARD) ทั้งยังเป็นหุ้นบนดัชนีบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมชั้นนำอย่าง Dow Jones Sustainability Indexes, Vigeo Eiris, Ethibel Sustainability Index, MSCI Global Sustainability, MSCI Global SRI Indexes และ FTSE4Good Index
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20191011/2602357-1?lang=0
