เซี่ยงไฮ้--4 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลกด้านชิปเซ็ตการสื่อสารผ่านมือถือและชิปเซ็ต IoT วันนี้ UNISOC ออกมาประกาศว่า ได้สำเร็จรายการทดสอบทั้งหมดตามมาตรฐาน 3GPP Rel-15 , การทดสอบโหมดเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA/NSA, รวมถึงการทดลองด้านการวิจัยและพัฒนา 5G ของจีนที่จัดโดย IMT-2020 (5G) Promotion Group และดำเนินการที่สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของจีน (CAICT) เรียบร้อยแล้ว
การทดสอบดำเนินการที่ห้องทดลอง MTNet Lab ของ CAICT โดยใช้อุปกรณ์ทดสอบมือถือที่ใช้โมเด็ม UNISOC IVY510 5G และระบบคลื่นวิทยุ 5G NR ของหัวเว่ย ซึ่งผลปรากฏว่า UNISOC ผ่านการทดสอบทั้ง 180 รายการที่เกี่ยวข้องกับโหมด SA และ NSA โดยที่การทดสอบ SA สำเร็จด้วยอัตราการเชื่อมต่อสูงสุดที่ 1.41 Gbps บนย่านความถี่ N41 ขณะที่การทดสอบ NSA บน B3+N41 สำเร็จโดยได้อัตราการเชื่อมต่อสูงสุดที่ 1.6 Gbps
IVY510 ผ่านรายการการทดสอบในอาคารทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์อย่างแท้จริงถึงความสมบูรณ์ และ UNISOC ก็ได้เริ่มทำการทดสอบภาคสนามเพื่อปูทางสู่อุปกรณ์ 5G ตัวแรกแล้ว
ในเวลาเดียวกัน UNISOC ยังทำงานและดำเนินการทดสอบการพัฒนา 5G ร่วมกับผู้ให้บริการหลายราย เช่น หัวเว่ย อิริคสัน แซดทีอี และต้าถัง โมบาย โดยการทดสอบ IODT เหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำ UNISOC สู่แวดวง 5G เชิงพาณิชย์
เกี่ยวกับ UNISOC
UNISOC เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless ชั้นนำในเครือของ Tsinghua Unigroup ที่มีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาชิปเซ็ตเพื่อรองรับการใช้งานด้านการสื่อสารเคลื่อนที่และ IoT ผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยชิปเซ็ตที่รองรับมาตรฐานการสื่อสาร 2G/3G/4G/5G และโซลูชันชิปเซ็ตในด้าน IoT, RFFE, การเชื่อมต่อไวร์เลส, ความมั่นคง, โทรทัศน์ และอื่น ๆ บริษัทมีพนักงานราว 4,500 คน มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 14 แห่ง และศูนย์บริการลูกค้า 7 แห่งทั่วโลก บริษัทมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสามซัพพลายเออร์ชิปเซ็ตมือถือที่ครองส่วนแบ่งในตลาดโลกมากที่สุด รวมถึงผู้ให้บริการชิปเซ็ตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอุปกรณ์ IoT และการเชื่อมต่อ ตลอดจนบริษัท 5G ชั้นนำของจีน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.unisoc.com.