 |
เซี่ยงไฮ้--14 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท Shanghai Electric Group ผู้ผลิตและซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า อุปกรณ์อุตสาหกรรม และบริการครบวงจรชั้นนำระดับโลก ได้รับการประกาศให้เป็นแบรนด์จีนที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับที่ 48 บนทำเนียบ "China's 500 Most Valuable Brands" ในงาน World Brand Conference ประจำปี 2020 หลังประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ได้กว่า 30% สู่ระดับ 1.05637 แสนล้านหยวน ส่งผลให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมพลังงานของจีน
จากประวัติความเป็นมาที่ย้อนกลับไปได้ถึงปี 1902 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Shanghai Electric ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโรงไฟฟ้าเชิงนวัตกรรมอุตสาหกรรมสำหรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการดำเนินงานตามกลยุทธ์ระยะที่ 3 อย่างครอบคลุม ซึ่งสามารถสร้างการเติบโตให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ได้อย่างโดดเด่นทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 26% ผลกำไรที่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่ที่เพิ่มขึ้น 24.83% และคำสั่งซื้อใหม่ ๆ ที่มีเข้ามามากขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวเลขที่เป็นสถิติใหม่ และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของแบรนด์ที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมระดับโลกและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเปี่ยมคุณภาพ
จากนี้สู่อนาคต Shanghai Electric ได้กำหนดให้การพัฒนาแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักระดับสากลในเชิงบวกเป็นแกนหลักของการดำเนินกิจการทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ให้ปรากฏขึ้นอย่างโดดเด่นในต่างประเทศภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นองค์กรสากลชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก ผ่านการทุ่มเททรัพยากรเพื่อสร้างการพัฒนาและความก้าวหน้าให้กับสังคม การเปิดกว้างทางนวัตกรรม และการส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย (EHS) ที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ที่ไปร่วมงานมหกรรมจัดแสดงอุตสาหกรรมที่เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี และเข้าร่วมการประชุมกับผู้มีโอกาสเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่งานประชุม World Energy Congress ในดูไบ Shanghai Electric กำลังมองหาแนวทางยกระดับความร่วมมือกับองค์กรระดับโลกเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและแก้ปัญหาความกังวล ตลอดจนความท้าทายด้านพลังงานของโลกให้หมดไป
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่นับเป็นการสูญเสียที่สร้างแรงสะเทือนเป็นอย่างมากให้กับสังคม อย่างไรก็ตาม Shanghai Electric เชื่อว่า แม้การรบกวนธรรมชาติจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็สามารถจำกัดความเสียหายให้น้อยลงได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการยกระดับการตรวจสอบและการจัดการ บริษัทจึงเบนเป้าความสนใจไปสู่การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนซึ่งทำให้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 51% ในปี 2019 เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งมีรายได้จากการผลิตพลังงานความร้อนเพิ่มขึ้นเพียง 8.4% ยิ่งไปกว่านั้น การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน รวมถึงความต้องการที่จะสร้างแบรนด์ระดับสากลในเชิงบวก ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และนโยบาย 'สีเขียว' นอกจากจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ของ Shanghai Electric แล้ว สิ่งเหล่านี้ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงการพัฒนาของโครงการริเริ่มภายในอย่าง 'SEC-LOVE' ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าทุกแผนกนั้นทำงานสอดคล้องกับเป้าหมายสีเขียว โดยมีบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 80% พึงพอใจกับข้อกำหนดมาตรฐาน ISO14001 Environmental Management System (EMS)
'Made in China 2025' นับเป็นจุดสำคัญในโครงการริเริ่มของจีนเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงกว่าเดิมด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยสู่สายตาชาวโลก และ Shanghai Electric ก็เป็นผู้นำความพยายามนี้เพื่อพลิกโฉมภาพลักษณ์ของ 'Made in China' และสร้างผลกระทบด้านบวกต่อชุมชนที่ดำเนินงานอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมาย CSR สำคัญของบริษัท เพื่อส่งมอบนวัตกรรมพลังงานระดับโลก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.shanghai-electric.com
โลโก้ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200424/2786026-1-LOGO?lang=0
