ปักกิ่ง--8 กันยายน 2563--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
สงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นของประชาชนจีนระหว่างปีพ.ศ.2474-2488 ได้เปลี่ยนแปลงจีนและความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นไปตลอดกาล
จีนยังคงจำได้ดี แม้กาลเวลาผ่านไปนาน 75 ปีนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามครั้งนั้น
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 กันยายน) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง ได้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเขตชานเมืองปักกิ่ง เพื่อร่วมรำลึกวันครบรอบสิ้นสุดสงคราม
หลังจากสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยแด่วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต นายสี จิ้นผิง พร้อมด้วยสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้วางพวงมาลาระลึกถึงผู้ที่สละชีพเพื่อชาติ
ในวันเดียวกัน นายสี จิ้นผิง ได้เข้าร่วมการประชุมโดยมีทหารผ่านศึกที่รอดชีวิตจากสงครามเข้าร่วมด้วย โดยเขาได้กล่าวยกย่องจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของชาติจีน พร้อมเน้นย้ำถึงความรักชาติและความกล้าหาญซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูชาติจีน
เขากล่าวว่า ชาวจีนทั้งชาติรวมพลังต่อสู้และเอาชนะสงครามด้วยจิตวิญญาณความรักชาติและความกล้าหาญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ในปัจจุบัน และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวจีนฟันฝ่าความยากลำบากและอุปสรรคทั้งหมด เพื่อฟื้นฟูชาติจีนให้สำเร็จ
การระบาดของโควิด-19 ทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐที่ตึงเครียดอยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
แม้จีนสามารถควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่สหรัฐยังคงโจมตีจีนอย่างต่อเนื่องในเรื่องการรับมือกับโควิด และในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ รัฐบาลสหรัฐยังยกระดับการโจมตีพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยกล่าวหาว่าเป็น "ภัยคุกคามและศัตรูของโลก"
นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำระหว่างการประชุมว่า ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชนชาวจีนไม่เพียงเอาชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมนับแต่นั้นเป็นต้นมา
การปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนก่อให้เกิดการยกเครื่องเศรษฐกิจ พัฒนาสังคมเมือง และยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่จากหน้ามือเป็นหลังมือ ปัจจุบัน จีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ และก่อนสิ้นปี 2563 ประชาชนจีนทั้งประเทศจะหลุดพ้นจากความยากจน
เพื่อบรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูชาติจีน นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ทั้งชาติต้องยึดมั่นในความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบอบสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีน กลยุทธ์ที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการพัฒนาอย่างสันติ
"ชาวจีนไม่มีวันยอมรับใครหรืออิทธิพลใดก็ตามที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทำลายชื่อเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน" นายสี จิ้นผิงกล่าว
"ชาวจีนไม่มีวันยอมรับใครหรืออิทธิพลใดก็ตามที่พยายามบิดเบือนและเบี่ยงเบนระบอบสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีน รวมถึงพยายามปฏิเสธและทำลายชื่อเสียงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ภายใต้ระบอบนี้ ชาวจีนไม่มีวันยอมรับใครหรืออิทธิพลใดก็ตามที่พยายามทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนและชาวจีนแตกแยกกัน"
นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธความพยายามในการกลั่นแกล้งและกำหนดบทลงโทษจีน รวมถึงขัดขวางการติดต่อสื่อสารระหว่างชาวจีนกับประชาชนในประเทศอื่น ๆ
ข้อเท็จจริงที่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับขนาดของสงครามในจีน
โลกต้องจดจำความเจ็บปวดและความสูญเสียจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และต้องไม่ลืมสงครามในจีน ทั้งในแง่ของขอบเขตความรุนแรง ผลกระทบที่ตามมา และสิ่งที่ทิ้งไว้
ประชาชนทั่วทั้งประเทศจีนต่างตกอยู่ในสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น (พ.ศ.2474-2488)
จีนเป็นสมรภูมิหลักในการทำสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ญี่ปุ่น โดยก่อนที่สงครามแปซิฟิก (พ.ศ.2484-2486) จะอุบัติขึ้น ญี่ปุ่นได้ส่งกำลังทหารประมาณ 80-94% มายังประเทศจีน และหลังปี 2484 ญี่ปุ่นยังคงตรึงกำลังทหารไว้ในจีนมากกว่า 50%
ตอนที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม มีทหารญี่ปุ่นทั้งหมด 1.86 ล้านนายในจีน คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 52% ของจำนวนทหารทั้งหมดที่ส่งไปต่างประเทศ
ในช่วงที่เกิดสงคราม ทหารญี่ปุ่นกว่า 1.5 ล้านนายเสียชีวิตในจีน ขณะที่ทหารและพลเรือนจีนเสียชีวิตมากกว่า 35 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 8% ของประชากรจีนทั้งประเทศในปี 2471
จีนได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และโดยอ้อมอีกกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (มูลค่าในปี 2480)
โอกาสจากภาพสะท้อนในอดีต
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นมีลักษณะลุ่ม ๆ ดอน ๆ
ในระหว่างการประชุมที่โอซาก้าเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ผู้นำของทั้งสองประเทศบรรลุฉันทามติ 10 ข้อเพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ยังตกลงในหลักการว่าจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสองประเทศ แต่ถูกขัดขวางจากโควิด-19 เสียก่อน
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและญี่ปุ่นเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกัน ความสัมพันธ์ที่สงบสุขในระยะยาวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ ตลอดจนเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การสะท้อนภาพฟาสซิสต์ญี่ปุ่นและการรุกรานจีนของญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง เป็นรากฐานทางการเมืองที่สำคัญในการสถาปนาและพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น
เราควรใช้โอกาสนี้จดจำและสะท้อนประวัติศาสตร์ ในขณะที่เราเชิดชูสันติภาพและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ นายสี จิ้นผิง กล่าวทิ้งท้าย
ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://news.cgtn.com/news/2020-09-03/Xi-delivers-speech-at-symposium-to-mark-WWII-victory-anniversary-Tud3lrn8Y0/index.html
วิดีโอ - https://cdn5.prnasia.com/202009/anniversary/video2.mp4
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200904/2908114-1-a?lang=0
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200904/2908114-1-b?lang=0