โรโซ, โดมินิกา
9 กันยายน 2563
/PRNewswire/ -- เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา นิตยสาร Professional Wealth Management ในเครือของ Financial Times ได้เปิดเผยรายงานประจำปี CBI Index ฉบับใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการประเมินโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (CBI) รวม 14 โปรแกรมทั่วโลก และจัดอันดับโดยใช้เกณฑ์การประเมิน 9 ข้อ โดยผลปรากฏว่า เครือรัฐโดมินิกาครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
เครือรัฐโดมินิการั้งอันดับหนึ่งในรายงาน CBI Index อีกครั้ง โดยทำคะแนนสูงสุดในเกณฑ์การประเมิน 6 ข้อ ซึ่งรวมถึงสองข้อใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ ได้แก่ การเอื้อต่อการขอสัญชาติทั้งครอบครัว และความแน่นอนของโปรแกรม ส่วนเกณฑ์การประเมินข้ออื่นที่ได้คะแนนสูงสุดประกอบด้วย กระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวด กระบวนการขอสัญชาติที่ไม่ซับซ้อน การไม่บังคับว่าต้องท่องเที่ยวหรืออาศัยอยู่ในประเทศก่อนขอสัญชาติ และเงินลงทุนขั้นต่ำที่ไม่สูงมาก
"เครือรัฐโดมินิการั้งตำแหน่งประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติที่ดีที่สุดในโลก 4 ปีซ้อน โดยสามารถสร้างสมดุลระหว่างชื่อเสียงในระดับยอดเยี่ยมในการตอบสนองความต้องการของนักลงทุน กับการตรวจสอบที่เข้มงวด เงินลงทุนขั้นต่ำที่ไม่สูงมาก กระบวนการขอสัญชาติที่มีประสิทธิภาพ และการให้ความสำคัญกับครอบครัว" รายงานระบุ
เจมส์ แมคเคย์ นักวิจัย ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงนิยามของ "ผู้อยู่ในอุปการะ" และการขอสัญชาติให้ผู้อยู่ในอุปการะภายใต้โปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเครือรัฐโดมินิกา โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า เครือรัฐโดมินิกามีโปรแกรมที่เป็นมิตรกับพี่น้องมากที่สุดโปรแกรมหนึ่ง ทำให้ช่วงอายุที่สามารถขอสัญชาติได้กว้างขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับสัญชาติโดมินิกาผ่านโปรแกรมนี้ยังสามารถขอสัญชาติให้กับผู้อยู่ในอุปการะได้ เช่น บุตรที่เพิ่งเกิด คู่สมรสใหม่ และผู้อยู่ในอุปการะอยู่แล้ว
เอ็มมานูเอล นันธาน เอกอัครราชทูตและประธานโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเครือรัฐโดมินิกา กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติที่รั้งตำแหน่งประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติที่ดีที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง โปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของเรา เราทำงานหนักเพื่อรักษามาตรฐานความซื่อสัตย์ ประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับประชาชนของเรา"
สำหรับความแน่นอนของโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเครือรัฐโดมินิกานั้น นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าโปรแกรมนี้ "ยืนหยัดท้าทายกาลเวลา" นับตั้งแต่จัดตั้งขึ้นในปี 2536 ทั้งนี้ รายงานได้สรุปว่า เครือรัฐโดมินิกาเป็น "จุดหมายปลายทางที่น่าเชื่อถือสำหรับการขอสัญชาติที่สอง" นอกจากนี้ รายงานยังเน้นย้ำถึงสภาพแวดล้อมที่สวยงามของเกาะแห่งนี้ว่า "เครือรัฐโดมินิกามีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ แสงแดดสดใส อากาศสดชื่น และมีผักผลไม้ให้บริโภคทั้งปี"
นายรูสเวลต์ สเคอร์ริต นายกรัฐมนตรีเครือรัฐโดมินิกา กล่าวว่า "สำหรับเรา นักลงทุนต่างชาติที่กลายเป็นพลเมืองของเราผ่านโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ ถือเป็นหุ้นส่วนที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง เราภูมิใจที่ได้เรียกพวกเขาว่าเป็นพลเมืองของเรา และมอบสถานที่ที่เรียกว่าบ้านได้อย่างเต็มปากให้กับพวกเขา"
บุคคลและครอบครัวที่ต้องการขอสัญชาติโดมินิกาต้องผ่านการตรวจสอบหลายระดับ เมื่อผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วจะสามารถลงทุนขั้นต่ำ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐในกองทุน Economic Diversification Fund หรือลงทุนขั้นต่ำ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐในอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการอนุมัติ
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำร้องผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น สำหรับขั้นตอนการพิจารณาจะใช้เวลา 3 เดือนโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทางโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเครือรัฐโดมินิกาจึงอนุญาตให้ยื่นคำร้องผ่านทางออนไลน์ได้เป็นการชั่วคราว โดยต้องมีการยื่นคำร้องฉบับจริงในภายหลัง
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1249824/cbi_index_dominica_infographic.jpg?p=medium600