ปักกิ่ง--5 พฤศจิกายน 2563--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังสร้างความหวาดวิตกไปทั่วโลก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อหลายล้านคน ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบชะงักงันหลังจากที่หลายประเทศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
แล้วเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวจากวิกฤตที่เหนือความคาดหมายครั้งนี้ได้อย่างไร
ในการกล่าวสุนทรพจน์หลักผ่านวิดีโอลิงก์ เนื่องในพิธีเปิดมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo: CIIE) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ได้ตอบคำถามข้างต้นจากมุมมองของจีน นั่นคือ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย และการเปิดกว้างของทุกฝ่าย
ความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า โควิด-19 เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าทุกประเทศล้วนเชื่อมโยงกันเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ไม่มีประเทศไหนรอดตัวท่ามกลางวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ และนานาประเทศต้องร่วมมือกันในฐานะพันธมิตร โดยที่แต่ละประเทศต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง
ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือจึงเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ "เราต้องส่งเสริมความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย" เขากล่าว
นายสี จิ้นผิง ย้ำว่า มหกรรม CIIE เป็นเวทีสำคัญสำหรับการจัดซื้อ การส่งเสริมการลงทุน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่เปิดกว้างให้เกิดการแลกเปลี่ยนทั่วโลก
มหกรรม CIIE ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2561 นำไปสู่การทำสัญญาซื้อขายสินค้าและบริการมูลค่า 5.783 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่สัญญาจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการ Belt and Road มีมูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมูลค่าการซื้อขายในมหกรรม CIIE ครั้งที่สองเพิ่มขึ้น 23% สู่ระดับ 7.113 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับมหกรรม CIIE ปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมและบริษัทที่ติดทำเนียบ Fortune 500 เกือบ 50 แห่ง
แน่นอนว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นในมหกรรม CIIE ปีนี้ได้สร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้กับเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
การเปิดกว้างของทุกฝ่ายเพื่อแบ่งปันประโยชน์ ความรับผิดชอบ และหลักธรรมาภิบาลร่วมกัน
การเปิดกว้างของทุกฝ่ายเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่นายสี จิ้นผิง กล่าวถึงในมหกรรม CIIE ครั้งนี้
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า การจัดมหกรรม CIIE ครั้งที่สาม แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาจากใจจริงของจีนในการแบ่งปันโอกาสในตลาดร่วมกับประชาคมโลก และผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า มาตรการเปิดกว้างที่ประกาศในมหกรรม CIIE ปีที่แล้วได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างเต็มที่ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเปิดกว้างตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาภายในประเทศและเพื่อประโยชน์ของประชาชนในทุกประเทศ
ข้อมูลจากทางการระบุว่า จีนฟื้นตัวจากโควิดรวดเร็วที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจใหญ่ทั่วโลก โดยในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย นอกจากนี้ ยอดนำเข้าและส่งออกของจีนยังมีการขยายตัวเมื่อเทียบรายปีในช่วงเวลาดังกล่าว
จีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก เดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาแบบ "วงจรคู่" (dual circulation) มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ตลาดในประเทศและต่างประเทศกระตุ้นซึ่งกันและกัน โดยมีตลาดในประเทศเป็นหลัก
ข้อมูลเพิ่มเติม: การพัฒนาเศรษฐกิจแบบวงจรคู่คือตัวเลือกที่ดีและกลยุทธ์ระยะยาวของจีน (https://news.cgtn.com/news/2020-10-30/China-s-dual-circulation-an-active-choice-and-long-term-strategy-V0kW26SOu4/index.html)
การเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาแบบ "วงจรคู่" ตลอด 5 ปีข้างหน้า ได้รับการเน้นย้ำในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 19 ซึ่งปิดประชุมไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม
นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ได้ประกาศมาตรการใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการเปิดกว้าง ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์หลัก
นายสี จิ้นผิง เปิดเผยว่า จีนจะประกาศธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน (negative list) แต่ยังคงมีการเปิดกว้างมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ จีนจะหาวิธีการที่สร้างสรรค์เพื่อขยายการค้าระหว่างประเทศด้วย
เขากล่าวเสริมว่า จีนพร้อมลงนามข้อตกลงการค้าเสรีมาตรฐานสูงร่วมกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และจีนจะเดินหน้าสู่การลงนามขั้นแรกในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตลอดจนเร่งเจรจาความตกลงด้านการลงทุนจีน-อียู และข้อตกลงการค้าเสรีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ https://news.cgtn.com/news/2020-11-04/CIIE-2020-China-offers-solutions-to-pandemic-hit-global-economy-V9gIvvNlxC/index.html
จีนชี้ทางออกเศรษฐกิจโลกหลังโควิดคือ "ความร่วมมือและการเปิดกว้าง"
จีนพึ่งพาการค้าต่างประเทศน้อยลง
