ปักกิ่ง--16 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
งานประชุม Beijing Forum 2020 ได้เปิดฉากขึ้น ณ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา และมีการถ่ายทอดสดในรูปแบบสองภาษาผ่านทางหลากหลายแพลตฟอร์ม ในปีนี้ งานวิชาการระดับนานาชาติจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คณะกรรมการการศึกษามณฑลปักกิ่ง และสถาบัน Chey Institute for Advanced Studies โดยมุ่งเน้นในด้านการพัฒนาระดับโลกหลังการระบาดของโควิด-19 ภายใต้หัวข้อ "ความเป็นหนึ่งด้านอารยธรรมและความเจริญรุ่งเรืองของทุกภาคส่วน - โลกาภิวัตน์ภายใต้ผลกระทบของโรคระบาด: โอกาสและความท้าทายใหม่" (The Harmony of Civilizations and Prosperity for All -- Globalization under the Impact of the Pandemic: New Challenges and Opportunities) และมีนักคิดระดับแนวหน้าทั้งจากจีนและต่างประเทศได้รับเชิญมามอบความรู้และพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาระดับโลกที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 จำนวนมาก
งานประชุม Beijing Forum 2020
คุณ Qiu Shuiping ประธานสภามหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม ตามด้วยสุนทรพจน์จากบรรดานักพูดทั้งที่อยู่ภายในงานและทางออนไลน์ ประกอบด้วย คุณ Han Qide รองประธานคณะกรรมการถาวรแห่งสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 10 และ 11 คุณ Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ คุณ Hao Ping ประธานมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คุณ Chey Tae-won ประธาน SK Group Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งเวทีการประชุมฟอรัมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) คุณ Fukuda Yasuo อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และคุณ Qiu Yuanping สมาชิกสภาที่ปรึกษาการเมืองจีน
คุณ Antonio Guterres ได้กล่าวอวยพรการประชุมและชื่นชมประเทศจีนในด้านการพัฒนาสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งโลกเรียนรู้จากภัยด้านปัญหาสุขภาพและเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน คุณ Hao Ping ก็ได้มาร่วมแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับภารกิจหลักที่สถาบันการศึกษาระดับสูงควรยึดมั่นเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการทางสังคมท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ต้องมองหาการพัฒนาเพื่ออนาคตและโมเดลการปฏิรูปการศึกษา
ส่วนคุณ Klaus Schwab ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความจริงและความเชื่อใจคือหินก่อสร้างที่สำคัญที่สุดในกระบวนการแสวงหาความสามัคคี
นอกจากนี้ ยังมีเหล่านักคิดชั้นนำอีก 5 ท่านมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มระดับโลกในช่วงการประชุมออนไลน์ ได้แก่ คุณ Park In-kook ประธาน Chey Institute for Advanced Studies คุณ Joseph Stiglitz ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย คุณ Stephen Toope รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ คุณ Wu Zunyou หัวหน้าฝ่ายระบาดวิทยาประจำกรมควบคุมโรคจีน คุณ Jerome H. Kim ผู้อำนวยการทั่วไปประจำสถาบัน International Vaccine Institute และคุณ Huang Ru รองประธานมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
คุณ Joseph Stiglitz ได้แสดงการสนับสนุนความร่วมมือระดับโลกในช่วงที่มีวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น โดยระบุว่า "เราต้องการความร่วมมือระดับโลกเพื่อแก้วิกฤตและความท้าทายต่าง ๆ แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราก็ยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ในด้านความร่วมมือระดับโลกตลอดมา ด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่จากที่มหันตภัยโรคระบาดนี้ผ่านพ้นไปแล้ว ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เท่าเทียม มีภูมิต้านทาน และอิงความรู้มากขึ้น"
ด้านคุณ Stephen Toope ได้พูดถึง "No man is an island" พร้อมระบุถึงความเชื่อที่ว่า สิ่งที่เป็นความจริงสำหรับผู้คน ย่อมเป็นความจริงสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วโลก และเสริมว่าสถาบันการศึกษาควรหาวิธีการในการร่วมมือกันต่อไป เนื่องจากความหลากหลายของภูมิหลัง แนวคิด รวมถึงความเชี่ยวชาญที่มาจากพันธมิตรที่เท่าเทียมและอิสระ นั้นคือวิธีการผลิตความรู้ในปัจจุบัน
คุณ Wu Zunyou ได้วิเคราะห์ช่วงเวลาการเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน และอธิบายถึงสิ่งที่จีนได้ทำเพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรค โดยกล่าวว่า "4 ขั้นตอนเริ่มแรก" ซึ่งได้แก่ การตรวจจับในขั้นแรกเริ่ม การรายงานขั้นแรกเริ่ม การคัดแยกขั้นแรกเริ่ม และการรักษาขั้นแรกเริ่ม คือกลยุทธ์สำคัญในการตอบสนองต่อโรคติดต่อเฉียบพลัน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า "แม้จีนจะสามารถควบคุมเชื้อไวรัสได้สำเร็จ แต่สถานการณ์จะยังไม่กลับมาดีเช่นเดิมจนกว่าทั่วโลกจะสามารถควบคุมการระบาดได้"
คุณ Jerome H. Kim ได้เน้นย้ำถึงการผลิตวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก โดยระบุว่าการค้นคว้าวิจัย พัฒนา และผลิต ถือเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในความพยายามระดับโลก และให้ความสำคัญกับการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมในอนาคต เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณะสุขทั่วโลก
นอกจากการประชุมหลักแล้ว งานนี้ยังประกอบด้วยการประชุมย่อยอีก 8 รายการ ภายใต้ชื่อ Beijing Forum Webinar Series ซึ่งเป็นการลงลึกเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ เช่น การศึกษาประวัติศาสตร์จีนในบริบทของความเป็นดิจิทัล เรื่องของการสื่อสารด้านสุขภาพและการสร้างสุขอนามัยที่ดีของจีน รวมถึงประเด็นในเรื่องนโยบายสาธารณะระดับนานาชาติในโลกที่ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว และอื่น ๆ อีกมากมาย
การประชุม Beijing Forum ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2004 ภายใต้หัวข้อใหญ่ "ความเป็นหนึ่งด้านอารยธรรมและความเจริญรุ่งเรืองของทุกภาคส่วน" (The Harmony of Civilizations and Prosperity for All) ซึ่งได้รวบรวมคำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่ทรงคุณค่าเพื่อมาช่วยสร้างความก้าวหน้าในแวดวงการศึกษาทั่วโลกจากบุคคลากรและนักวิชาการทรงเกียรติกว่า 6,500 คนทั่วโลกจาก 80 ประเทศและภูมิภาค
