omniture

Huawei เปิด DIGIX Lab แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก หวังสร้างพลังแก่นักพัฒนาในการสร้างอนาคตดิจิทัล

Huawei Mobile Services
2021-02-25 16:02 217

สิงคโปร์--25 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

Huawei Mobile Services (HMS) ประกาศเปิด DIGIX Lab ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาแอปมือถือในภูมิภาค ในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิด ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ และสนับสนุนความร่วมมือ

Huawei DIGIX Lab @ Singapore equipped with AR, VR, AI, HMS Core kits and other open technological capabilities, offers a space for developers across APAC to experience the full range of HMS developer resources. Visitors can tour the lab virtually via the DIGIX Lab website and access featured remote services such as Cloud Debugging and Cloud Testing.
Huawei DIGIX Lab @ Singapore equipped with AR, VR, AI, HMS Core kits and other open technological capabilities, offers a space for developers across APAC to experience the full range of HMS developer resources. Visitors can tour the lab virtually via the DIGIX Lab website and access featured remote services such as Cloud Debugging and Cloud Testing.

Lab แห่งนี้มาพร้อมกับ AR, VR, AI, เครื่องมือ HMS Core และขีดความสามารถทางเทคโนโลยีแบบเปิดอื่น ๆ มอบพื้นที่แก่นักพัฒนาในการเชื่อมต่อและสัมผัสทรัพยากรนักพัฒนา HMS เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ DIGIX Lab ยังเปิดให้เข้าถึงบริการได้แบบออนไลน์ เปิดทางให้นักพัฒนาทั่วภูมิภาคใช้ทรัพยากรได้แบบเสมือนจริง

Shane Shan ผู้อำนวยการ Asia Pacific Huawei Consumer Cloud Service กล่าวว่า "ในยุค 5G HMS มีเป้าหมายที่จะสร้างระบบ Eco-System ในมือถือที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์แบบ '1+8+N' และสร้างพลังแก่นักพัฒนาและพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคในการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างอนาคตดิจิทัล โดย DIGIX Lab ใหม่นี้ทำหน้าที่เป็น ศูนย์รวมนวัตกรรมครบวงจร ที่ให้สิ่งจำเป็นทั้งหมดที่นักพัฒนาต้องการเพื่อความสำเร็จ Huawei จะเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และสถาบันต่าง ๆ ในชุมชนต่อไป พร้อมบ่มเพาะแหล่งรวมบุคลากรหัวกะทิด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่พร้อมรับกับทุกสถานการณ์"

ภายใต้กลยุทธ์ "1+8+N" Seamless AI Life สมาร์ทโฟนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งเดียว (1) ขณะที่พาร์ทเนอร์ในระบบ Eco-System ของ Huawei เชื่อมโยงเข้าหากันผ่าน 8 อุปกรณ์ของ Huawei (8) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม IoT ที่เชื่อมต่อกันเต็มรูปแบบพร้อมบริการที่ไร้ขีดจำกัด (N) HMS สนับสนุนกลยุทธ์นี้โดยการเป็นสะพานเชื่อมแอปมือถือระดับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ IoT ผ่านทางขีดความสามารถด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Huawei ซึ่งเมื่อรวมกับระบบ AI และโซลูชันประมวลผลคลาวด์ของ Huawei แล้ว ท้ายที่สุดจะสามารถสร้างระบบ AI ในทุกสถานการณ์สำหรับผู้ใช้ปลายทางของ Huawei

HUAWEI DIGIX Lab @ Singapore’s “Experience Zone” showcases Huawei all-scenario products. Developers, partners, and tech enthusiasts can look forward to a series of Residency Programmes like developer workshops, knowledge sharing sessions, and onsite consultation with tech experts hosted by Huawei online and offline.
HUAWEI DIGIX Lab @ Singapore’s “Experience Zone” showcases Huawei all-scenario products. Developers, partners, and tech enthusiasts can look forward to a series of Residency Programmes like developer workshops, knowledge sharing sessions, and onsite consultation with tech experts hosted by Huawei online and offline.

เชื่อมต่อ สื่อสาร และร่วมมือที่ Huawei DIGIX Lab

DIGIX Lab แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ๆ ซึ่งนักพัฒนา พาร์ทเนอร์ และผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี สามารถเชื่อมต่อ สื่อสาร และร่วมมือกันภายในชุมชนแห่งนี้

  1. โซนสัมผัสประสบการณ์: พื้นที่สำหรับผู้มาเยือนในการสัมผัสประสบการณ์ระบบ Eco-system ครบวงจรแบบ "1+8+N" พื้นที่นี้จัดแสดงสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด และอุปกรณ์ 8 ชนิดของ Huawei ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต พีซี อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ และแว่น VR อัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์ IoT ที่ใช้ในบ้านของแบรนด์อื่นที่รองรับ HUAWEI HiLink ด้วย
  2. โซนปฏิสัมพันธ์: โซนอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ร่วมมือและห้องฝึกปฎิบัติการเพื่อสนับสนุนการสร้างชุมชน โดยโปรแกรมสำหรับนักพัฒนา เช่น กิจกรรมฝึกอบรม เวิร์กชอป อีเวนต์ระดับอุตสาหกรรม และการสร้างเครือข่ายนั้นสามารถจัดในพื้นที่นี้ได้ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีหรือนักพัฒนาทั้งหลาย ก็จองพื้นที่เพื่อจัดอีเวนต์ชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอปมือถือได้เช่นกัน
  3. โซนสนับสนุน: โซนนี้ประกอบด้วยห้องประชุม 3 ห้อง ซึ่งนักพัฒนาที่กำลังเผชิญกับอุปสรรคระหว่างพัฒนาแอปสามารถพบกับวิศวกรหรือทีมธุรกิจของ Huawei เพื่อรับความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีศูนย์แก้จุดบกพร่อง 4 แห่งภายในแล็บแห่งนี้ เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาด้วยทรัพยากรที่จำเป็น

ผู้เยี่ยมชมจากทั่วภูมิภาคทัวร์ชม DIGIX Lab แบบเสมือนจริงได้ทาง https://developer.huawei.com/consumer/en/DIGIXLab-Offline?page=0 โดยนอกเหนือจากการเดินผ่านพื้นที่ต่าง ๆ แบบเสมือนจริงแล้ว ผู้เข้าชมทางออนไลน์ยังสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรและบริการล่าสุดของ HMS สำหรับนักพัฒนา พร้อมเข้าร่วม Developer Programs ของ Huawei รวมถึงเว็บบินาร์ (webinars) และเชื่อมต่อเพื่อรับความช่วยเหลือด้านเทคนิค นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถเข้าถึงบริการทางไกล เช่น Cloud Debugging และ Cloud Testing ซึ่งเปิดทางให้สามารถแก้ไขจุดบกพร่องและทดลองใช้แอปทางไกลจากอุปกรณ์ล่าสุดของ Huawei ชนิดไหนก็ได้ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง HUAWEI P Series และ HUAWEI Mate Series

สนับสนุนนักพัฒนาสร้างนวัตกรรมผ่านทาง Huawei Mobile Services Ecosystem

การเปิด DIGIX Lab ช่วยเติมเต็มเครื่องมือและโปรแกรมอื่น ๆ สำหรับนักพัฒนาในภูมิภาคเพื่อสร้างนวัตกรรมผ่านทางระบบนิเวศ HMS

เมื่อเร็ว ๆ นี้ HMS เปิตตัวแอป HUAWEI Developers ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับนักพัฒนา Huawei ในการบริหารจัดการระบบหลังบ้านของแอป พร้อมเข้าถึงกิจกรรมล่าสุดของนักพัฒนา และรับการแจ้งเตือนอีเวนต์ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ HMS จะเปิดตัวโครงการชุมชนนักพัฒนาใหม่ 3 โปรแกรมใน APAC ปีนี้ ซึ่งประกอบด้วย HUAWEI Student Developers (HSD), HUAWEI Developer Groups (HDG) และ HUAWEI Developer Experts (HDE) เพื่อช่วยนักพัฒนาในทุกระดับเติบโตไปกับระบบ Eco-system HMS โดยนักพัฒนาใน APAC จะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมคอร์สฝึกอบรม เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องมือพัฒนา HMS ในแอปของพวกเขา และรับ "Huawei Developer Certification" เมื่อสำเร็จคอร์ส

เพิ่มคุณค่าให้กับเจ้าของและนักพัฒนาแอปด้วย HMS

ระบบ Eco-system HMS เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก จนปัจจุบันติด Top 3 ระบบ Eco-system มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลก โดยเมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2020 มี HUAWEI Developers ที่ลงทะเบียนกว่า 2.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 77% ในช่วงเวลา 1 ปี

เจ้าของแอปที่ต้องการให้แอปของพวกเขาเข้าไปอยู่ในระบบ Eco-system HMS จะสามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งของ HMS ผ่านทางแพลตฟอร์มไฮบริดหลายช่องทาง เช่น HUAWEI AppGallery, HUAWEI Browser และ Petal Search

HMS Core 5.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด ประกอบด้วยขีดความสามารถแบบเปิด 56 อย่าง และ API 12,981 รายการ มอบฟังก์ชันที่ครอบคลุมเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาในการบูรณาการแอปอย่างง่ายดาย นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถเข้าถึงทีมเทคนิค HMS ในพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือในระหว่างกระบวนการ

สำหรับอนาคตข้างหน้า HMS จะเดินหน้าลงทุนในด้านขีดความสามารถทางเทคโนโลยี และสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่แก่นักพัฒนา เพื่อช่วยสร้างนวัตกรรมบนมือถือในภูมิทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง

Source: Huawei Mobile Services
Keywords: Computer Software Computer/Electronics Entertainment Mobile Entertainment Telecommunications New products/services
Related News