บริษัทจะมอบวัคซีนแบบฉีดครั้งเดียวจำนวนสูงสุด 400 ล้านโดสให้ประเทศสมาชิกสหภาพแอฟริกา
วัคซีนดังกล่าวจะมอบให้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแลของแต่ละประเทศ
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า วัคซีนทดลองที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตครอบคลุมหลากหลายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งรวมถึงผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในสายพันธุ์ที่กำลังน่าเป็นห่วง
นิวบรันส์วิก, นิวเจอร์ซีย์--29 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Janssen Pharmaceutica NV ในเครือ Janssen Pharmaceutical Companies of Johnson & Johnson (NYSE: JNJ) (บริษัท) ได้ทำข้อตกลงกับกองทรัสต์เพื่อการจัดซื้อวัคซีนแห่งแอฟริกา (AVAT) เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 แบบฉีดครั้งเดียวที่ทางบริษัทเป็นผู้พัฒนามอบให้ประเทศสมาชิกสหภาพแอฟริกา 55 ประเทศจำนวนรวมกันสูงสุด 220 ล้านโดส โดยเริ่มส่งมอบในไตรมาสสามของปี 2564 นอกจากนี้ AVAT ยังมีโอกาสสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 180 ล้านโดส ทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านโดสนับจนถึงปี 2565 อย่างไรก็ดี วัคซีนจะส่งมอบได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลของสมาชิกสหภาพแอฟริกาแต่ละประเทศ
"นับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดโรคระบาด Johnson & Johnson ตระหนักว่าคนเราจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อทุกคนปลอดภัย และเราได้ทุ่มเทเพื่อให้ทั่วโลกมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเสมอภาค" อเล็กซ์ กอร์สกี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Johnson & Johnson กล่าว "การสนับสนุนที่เรามอบให้โครงการ COVAX Facility ประกอบกับข้อตกลงอื่น ๆ ที่เราได้ทำไว้กับประเทศและดินแดนต่าง ๆ จะช่วยให้ทั้งโลกผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ได้เร็วขึ้น"
Johnson & Johnson มีความมุ่งมั่นในการทำให้แน่ใจว่า ทั่วโลกจะเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 แบบฉีดครั้งเดียวที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาได้อย่างเสมอภาคในรูปแบบไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อใช้รับมือโรคระบาดในกรณีฉุกเฉิน โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2563 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในหลักการกับองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนหรือกาวี (Gavi) เพื่อสนับสนุนโครงการ COVAX Facility ซึ่งกำลังเดินหน้ารองรับความต้องการวัคซีนของประเทศที่เข้าร่วมโครงการ 190 ประเทศในระยะเบื้องต้น ในจำนวนนี้มีหลายประเทศอยู่ในแอฟริกา ทั้งนี้ บริษัทและ Gavi คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการจัดซื้อล่วงหน้า (APA) ที่จะมอบวัคซีนของบริษัทจำนวนสูงสุด 500 ล้านโดสแก่โครงการ COVAX จนถึงปี 2565
นอกจากนี้ Johnson & Johnson ยังตระหนักถึงผลกระทบอันร้ายแรงจากโรคโควิด-19 ในแอฟริกา เช่นเดียวกับการที่ไวรัส SARS-CoV-2 ได้กลายพันธุ์จนแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ซึ่งปรากฏให้เห็นมาแล้วว่าแพร่เชื้อง่ายกว่าเดิม
ข้อมูลจากการวิจัย ENSEMBLE เฟส 3 แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโควิด-19 ของ Johnson & Johnson ทนต่อผลข้างเคียงได้ดี ทั้งยังลดโรคโควิด-19 แบบแสดงอาการได้ถึง 67% ในอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีน เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้ยาหลอก โดยสังเกตเห็นฤทธิ์ป้องกันในวันที่ 14 และยังคงอยู่ได้หลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 28 วัน
ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 85% ในการป้องกันโรคอาการรุนแรงในทุกภูมิภาคที่วิจัย และป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตครอบคลุมหลายประเทศและหลายสายพันธุ์ โดยเริ่มออกฤทธิ์ 28 วันหลังได้รับวัคซีน สำหรับสายพันธุ์กลายพันธุ์ที่นำมาวิเคราะห์ในการวิจัย ENSEMBLE นั้นได้แก่สายพันธุ์ B.1.351 ซึ่งพบในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ถึง 95%
ข้อมูลการผลิตและซัพพลายเชน
Johnson & Johnson ได้จัดตั้งเครือข่ายการผลิตและซัพพลายระดับโลกสำหรับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท โดยร่วมมือกับพันธมิตร 9 รายใน 4 ทวีป รวมถึง Aspen Pharmacare ในแอฟริกาใต้ โดย Aspen จะสนับสนุนการจัดส่งวัคซีนไปยังประเทศสมาชิกสหภาพแอฟริกา และจะมีบทบาทในการจัดส่งวัคซีนดังกล่าวทั่วโลก
วัคซีนโควิด-19 แบบฉีดครั้งเดียวของ Johnson & Johnson รองรับการจัดเก็บและช่องทางกระจายวัคซีนมาตรฐาน ทำให้จัดส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลได้ วัคซีนนี้คาดว่าจะยังคงมีเสถียรภาพเป็นเวลา 2 ปีในอุณหภูมิ -25 ถึง -15 องศาเซลเซียส ทั้งยังจัดเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาโดยไม่ลดทอนคุณภาพได้สูงสุดถึง 3 เดือน ช่วยให้วัคซีนของบริษัทรองรับการขนส่งโดยใช้เทคโนโลยีห่วงโซ่ความเย็นที่ใช้กันอยู่เดิมในการขนส่งยาและวัคซีนอื่น ๆ
วัคซีนโควิด-19 ของ Johnson & Johnson
วัคซีนโควิด-19 ของ Johnson & Johnson ใช้แพลตฟอร์มวัคซีน AdVac® ของบริษัท ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในการผลิตและพัฒนาวัคซีน Ebola ของ Janssen ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมาธิการยุโรปแล้ว และผลิตวัคซีนตัวเลือกสำหรับ HIV, RSV และ Zika ด้วยเช่นกัน
การยื่นขออนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแล
วัคซีนโควิด-19 แบบฉีดครั้งเดียวของ Johnson & Johnson ได้รับการอนุมัติ Emergency Use Listing จากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ทั้งยังได้รับการอนุมัติ Conditional Marketing Authorization จากคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม และ Emergency Use Authorization จากองค์การอาหารและยาสหรัฐเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 นอกจากนี้ วัคซีนโควิด-19 แบบฉีดครั้งเดียวของทางบริษัทยังได้รับการอนุมัติ Interim Order ในแคนาดา โดยได้ยื่นเอกสารเพื่อขออนุมัติในอีกหลายประเทศทั่วโลกด้วยเช่นกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการแบบหลายด้านของบริษัทในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ได้ที่ www.jnj.com/coronavirus
เกี่ยวกับจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
เราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีคือรากฐานของชีวิตที่สดใส ชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง และอนาคตที่ก้าวหน้า ตลอดระยะเวลากว่า 130 ปีที่ผ่านมา เราจึงมุ่งมั่นสร้างเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัยและทุกช่วงของชีวิต ปัจจุบัน เราเป็นบริษัทเฮลธ์แคร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและครอบคลุมที่สุดในโลก และจะใช้ข้อได้เปรียบนี้ในการทำประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป เรามุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีราคาย่อมเยาและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงสร้างสรรค์ชุมชนที่มีสุขภาพดีกว่าเดิม ตลอดจนเปิดโอกาสให้ทุกคนทั่วโลกได้มีสุขภาพกาย สุขภาพจิต และสภาพแวดล้อมที่ดี เราใช้หัวใจ วิทยาศาสตร์ และความรอบรู้ ในการเปลี่ยนแปลงวิถีสุขภาพเพื่อมวลมนุษยชาติ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jnj.com ติดตามเราได้ที่ @JNJNews
เกี่ยวกับแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล
ที่แจนส์เซน เรากำลังสร้างอนาคตที่โรคร้ายเป็นเรื่องในอดีต เราเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ในเครือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้อนาคตที่วางไว้กลายเป็นเรื่องจริงสำหรับผู้ป่วยในทุกที่ ด้วยการต่อสู้กับความเจ็บป่วยด้วยวิทยาศาสตร์ ปรับปรุงช่องทางเข้าถึงให้ดีขึ้นด้วยความชาญฉลาด และรักษาความสิ้นหวังด้วยหัวใจ เราให้ความสำคัญกับเรื่องทางการแพทย์ ซึ่งเราสามารถสร้างความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดได้ ซึ่งได้แก่โรคหัวใจและหลอดเลือด และการเผาผลาญ, ระบบภูมิคุ้มกัน, โรคติดต่อ & วัคซีน, ประสาทวิทยาศาสตร์, มะเร็งวิทยา และภาวะความดันเลือดในปอดสูง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.janssen.com และติดตามเราได้ที่ @JanssenGlobal
ข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มี "ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต" ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 ในส่วนของความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวัคซีนที่มีศักยภาพป้องกันโรคโควิด-19 ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตมากเกินไป เพราะข้อความเหล่านี้อิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบัน หากข้อสันนิษฐานไม่ถูกต้อง หรือความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนที่ทราบหรือไม่ทราบมาก่อนเกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์ที่แท้จริงก็อาจจะแตกต่างไปอย่างมากจากการคาดการณ์และการประมาณการของบริษัท รวมถึงบริษัทในเครือแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล และ/หรือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ความท้าทายและความไม่แน่นอนที่อยู่ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงความไม่แน่นอนของความสำเร็จทางคลินิก และการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบ ความไม่แน่นอนในเรื่องความสำเร็จเชิงพาณิชย์ ความยากลำบากและความล่าช้าในการผลิต การแข่งขัน ซึ่งรวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ใหม่ และสิทธิบัตรที่คู่แข่งได้ไป การยื่นคัดค้านสิทธิบัตร ประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ หรือความกังวลเรื่องความปลอดภัยอันเป็นผลมาจากการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ หรือการดำเนินการด้านกฎระเบียบ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และรูปแบบการใช้จ่ายของผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์และบริการด้านดูแลสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมทั้งการปฏิรูปการดูแลสุขภาพทั่วโลก และแนวโน้มต่อการจำกัดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ สามารถอ่านได้ในรายงานประจำปีของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บน Form 10-K สำหรับปีการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 3 มกราคม 2564 ซึ่งรวมถึงในส่วนที่ระบุว่า "Cautionary Note Regarding Forward-Looking Statements" และ "Item 1A. Risk Factors" และในรายงานประจำไตรมาสบน Form 10-Q ที่ทางบริษัทได้ยื่นไปล่าสุด ตลอดจนเอกสารอื่น ๆ ที่จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ โดยสำเนาของเอกสารดังกล่าวมีการเผยแพร่ในระบบออนไลน์ผ่านทาง www.sec.gov, www.jnj.com หรือสามารถขอได้จากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทั้งนี้ แจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตใด ๆ แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ใดเกิดขึ้นในอนาคต
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/403394/Johnson_and_Johnson_Logo.jpg?p=medium600