หางโจว, จีน--14 เมษายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Hikvision เปิดตัว HikCentral Professional 2.0 (HCP 2.0) ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่เพิ่งมีการอัปเดตใหม่ขนานใหญ่ โดยผสมผสานฟีดของหลากหลายระบบเข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มเดียว ซอฟต์แวร์ HCP 2.0 สามารถปรับแต่งให้เชื่อมกับอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอรักษาความปลอดภัย ระบบแจ้งเตือน ระบบควบคุมการเข้าออกสถานที่ ฯลฯ รวมถึงระบบของค่ายอื่นผ่าน Open API เพื่อให้สามารถจัดการการใช้งานทางธุรกิจและการรักษาความปลอดภัยได้หลากหลายรูปแบบในที่เดียว
แฟรงก์ จาง ประธาน International Product and Solution Center ของ Hikvision กล่าวว่า "การอัพเดตครั้งนี้มีความสำคัญมากสำหรับเรา และถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการให้บริการซอฟต์แวร์จัดการความปลอดภัย โดย HikCentral Professional 2.0 จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถจัดการหลากหลายกิจกรรมได้อย่างไร้รอยต่อในแพลตฟอร์มเดียว และเราตั้งตารอดูคุณค่าที่จะเกิดจากซอฟต์แวร์ตัวนี้"
การทำงาน 9 รูปแบบหลัก รองรับความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย
HikCentral Professional 2.0 บูรณาการระบบทางธุรกิจและการรักษาความปลอดภัยหลายระบบเข้าด้วยกันเพื่อรองรับ 9 การใช้งานหลัก จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการใช้ในงานธุรกิจและการรักษาความปลอดภัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งในอาคาร โรงงาน ร้านค้า อพาร์ตเมนต์ และอื่น ๆ
การใช้งานดังกล่าวประกอบด้วย กล้องและระบบแจ้งเตือน ซึ่งบูรณาการในแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถรับชมภาพสดอย่างไหลลื่น และแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที
นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มระบบ Access Control เพื่อกำหนดการอนุญาตเข้าออกสถานที่ด้วยหลากหลายวิธี ทั้งระบบวิเคราะห์ใบหน้า สแกนบัตรประจำตัว สแกนลายนิ้วมือ สแกนคิวอาร์โค้ด และอื่น ๆ โดย HCP 2.0 เอื้อให้บุคลากรหลายฝ่าย เช่น ผู้จัดการด้านทรัพยากรบุคคล สามารถตั้งกฎเกณฑ์การเข้าออกงานที่ยืดหยุ่น รวมถึงสามารถจัดตารางการเข้างานเป็นกะ พร้อมระบบรายงานข้อมูลเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ผู้จัดการไซต์งานยังสามารถใช้ระบบจัดการยานพาหนะและระบบจัดการผู้มาติดต่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการเข้าออก รวมถึงการจอดรถในไซต์งาน
ผู้ใช้ยังสามารถใช้งานระบบวิเคราะห์และรายงานผลอัจฉริยะ ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลและแปลงเป็นรายงานและแดชบอร์ดแสดงผลที่เข้าใจง่าย ประกอบด้วยสถานะกระแสงาน ความหนาแน่นของคน และอื่น ๆ สำหรับในส่วนของทีมงานบริหารจัดการระบบนั้น แอพพลิเคชั่นบำรุงรักษาระบบของ HCP 2.0 สามารถแสดงภาพการแจ้งเตือนอุปกรณ์ และสัญญาณเตือน รวมถึงลักษณะทางกายภาพอย่างเต็มรูปแบบของระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ เพื่อการตอบสนองที่ตรงเป้าและรวดเร็วเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น
ผู้ใช้ HCP 2.0 ยังสามารถใช้ระบบ Digital Signage เพื่อแสดงสื่อโฆษณาหรือประกาศต่าง ๆ โดยซอฟต์แวร์นี้มาพร้อมเทมเพลตพร้อมใช้งาน 8 รูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้นำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การแสดงจำนวนผู้ใช้สถานที่หรืออุณหภูมิในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
สร้างระบบที่มีเอกภาพอย่างสมบูรณ์ ด้วยความปลอดภัยและประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
HCP 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบูรณาการการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น และสร้างระบบที่ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการทางธุรกิจและการรักษาความปลอดภัยของตนเอง การบูรณาการเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้ทราบสถานการณ์ความปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดทรัพยากรการจัดการประจำวันซึ่งเดิมต้องใช้ในระบบที่แยกส่วนกัน
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถบูรณาการระบบจัดการ Visitor เข้ากับระบบจัดการยานพาหนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานประจำวันสำหรับการใช้งานอาคาร ขณะเดียวกัน ผู้จัดการสถานที่สามารถลงทะเบียนข้อมูล Visitor ในระบบ HCP 2.0 และเมื่อเชื่อมกับระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ก็จะสามารถกำหนดให้ระบบอนุญาตให้ Visitor เข้าจอดรถได้โดยอัตโนมัติ ในทำนองเดียวกัน ระบบยังสามารถอนุญาตให้ Visitor เข้าถึงบางพื้นที่ได้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ปรับแต่งได้
HikCentral Professional 2.0 สามารถปรับแต่งให้นำส่งข้อมูลเฉพาะให้แก่ผู้ใช้ที่กำหนดได้ โดยระบบมาพร้อมกับหน้าที่ที่กำหนดไว้แล้ว 3 หน้าที่ ได้แก่ "การติดตั้งและการจัดการระบบ" "การควบคุมและจัดการความปลอดภัย" และ "การจัดการการเข้าออกงาน" ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคลสามารถตั้งค่าหน้าฟีดให้แสดงสถานะการเข้าออกงานของพนักงานได้ ส่วนเจ้าหน้าที่บริหารจัดการก็สามารถติดตามดูความปลอดภัยของสถานที่ได้ นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ปรับแต่งพิเศษอีกหนึ่งหน้าที่ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ
เหนือสิ่งอื่นใด HikCentral Professional 2.0 ยังมาพร้อม User Interface ที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าตาแผงควบคุมตามความต้องการ ด้วยการลากและวางฟีดอุปกรณ์และวิดีโอในหน้าแดชบอร์ดแสดงข้อมูล พร้อมปรับแต่งตำแหน่งและรูปลักษณ์ได้
User Interface ที่ชาญฉลาดและลื่นไหล
HCP 2.0 มาพร้อมแดชบอร์ดแสดงข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งแสดงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจและความปลอดภัยที่รวบรวมมาจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อให้กระบวนการตัดสินใจเป็นไปอย่างง่ายดาย แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้งาน E-Map แบบ 3 มิติ ซึ่งแสดงสถานะการติดตามอุปกรณ์ในตำแหน่งต่าง ๆ และจัดการระบบแจ้งเตือนแบบ Interactive ด้วยการคลิกและชมภาพสด รวมถึงข้อมูลระบบแบบบูรณาการ
ติดตั้งและบำรุงรักษาง่าย
HikCentral Professional 2.0 ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและใช้งานได้อย่างง่ายดายสำหรับโครงการหลากหลายประเภทด้วยแอพพลิเคชั่นเดียว โดยผู้ใช้สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ HCP 2.0 ได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียวด้วยสเป็คขั้นต่ำ Intel i3-CPU และ 8 GB RAM นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นแนะนำการใช้งานระบบที่แสดงไว้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการปรับแต่งการใช้งานหลัก ขณะเดียวกัน แดชบอร์ดแสดงผลการติดตามสถานะของระบบยังช่วยให้การบำรุงรักษาด้านไอทีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hikvision.com/en/products/software/HikCentral-Professional-series/HikCentral-Professional-2-0/
เกี่ยวกับ Hikvision
Hikvision คือผู้นำด้านโซลูชัน IoT ซึ่งมีจุดแข็งด้านกล้องวงจรปิด บริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนาที่มีทักษะสูงและมีความรู้กว้างขวาง บริษัทผลิตโซลูชันและผลิตภัณฑ์ครบวงจรเพื่อรองรับตลาดแนวตั้งที่หลากหลาย โดยนอกเหนือจากอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยแล้ว Hikvision ยังขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติในงานอุตสาหกรรม และระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผลิตภัณฑ์ของ Hikvision มอบคุณสมบัติการวิเคราะห์ธุรกิจอันทรงพลังให้แก่ผู้ใช้งาน ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและประสบความสำเร็จทางการค้ามากขึ้น Hikvision ยึดมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผลิตภัณฑ์ จึงสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มากมายที่บริษัทได้นำเสนอ ซึ่งรวมถึงศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของบริษัท สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hikvision.com
ติดต่อ: Sales.thailand@hikvision.com