จาการ์ตา, อินโดนีเซีย--28 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
/PRNewswire/ -- ผู้คนมากกว่า 100 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ชีวิตโดยปราศจากการใช้น้ำที่ปลอดภัยอันเป็นผลมาจากมลพิษ การใช้น้ำมากเกินไป ความแห้งแล้งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศทางน้ำ เขื่อน และการปนเปื้อน โดยสถาบันราอูลวอลเลนเบิร์กว่าด้วยกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม (RWI) องค์กรไชน่า ไดอะล็อก (China Dialogue) และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิบน์ ค็อลดูน ในเมืองโบโกร์ ประเทศอินโดนีเซีย เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดในหัวข้อสิทธิในการใช้น้ำที่ปลอดภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ ที่เคารพ ปฏิบัติตาม และปกป้องสิทธิในการใช้น้ำที่ปลอดภัย ล้วนมีมุมมองที่ดีกว่าในการจัดการปัญหาน้ำประปา และรับรองผลประโยชน์ด้านสิทธิมนุษยชนทั้งหมดอย่างครบถ้วน
วิกเตอร์ เบอร์นาร์ด เจ้าหน้าที่โครงการ RWI ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า "รายงานสิทธิในการใช้น้ำที่ปลอดภัยเน้นย้ำว่า ประเทศในอาเซียนควรได้รับการชมเชยเนื่องจากพวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนสำคัญในการตระหนักถึงสิทธิในการมีน้ำดื่มที่ปลอดภัยในรูปแบบที่แบ่งแยกไม่ได้ และเป็นรากฐานสำหรับการบรรลุสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอื่น ๆ มากมาย"
การตระหนักถึงสิทธิการเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยในฐานะสิทธิแบบแยกเดี่ยวหรือส่วนหนึ่งของสิทธิในการมีสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ
ประเทศอาเซียนต่างตระหนักว่า สิทธิการเข้าถึง "น้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัย" และ "สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สะอาด และยั่งยืน" คือสิ่งที่จำเป็นต้องมี ก่อนที่จะตระหนักถึงสิทธิของมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสมในปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชนปี 2555 อย่างไรก็ดี อาเซียนยังไม่มีสนธิสัญญาหรือเครื่องมือทางกฎหมายเพื่อสนับสนุนสิทธิดังกล่าวโดยเฉพาะ
ผู้เขียนรายงานสิทธิในการใช้น้ำที่ปลอดภัย เสนอว่าประเทศในอาเซียนควร
ดาวน์โหลด "สิทธิในการใช้น้ำที่ปลอดภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ที่นี่
ติดต่อ:
Yudha Pratama
yudha.pratama@rwi.lu.se
+6227092823
Victor Bernard
victor.bernard@rwi.lu.se
+6227092823
เว็บไซต์:
http://www.rwi.or.id/