Songtradr ประกาศซื้อกิจการเอเจนซีเพลงอย่าง MassiveMusic

ข้อตกลงครั้งนี้เป็นการผนึกรวมเทคโนโลยีด้านลิขสิทธิ์เพลงที่ทันสมัยเข้ากับการสร้างสรรค์เพลงตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงแผนกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่แบรนด์และเอเจนซี

ลอสแองเจลิส--2 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

Songtradr ตลาดลิขสิทธิ์เพลง B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถลงในวันนี้ว่า บริษัทได้ซื้อกิจการ MassiveMusic เอเจนซีเพลงครีเอทีฟชั้นนำระดับโลกแล้ว ซึ่งช่วยให้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก บรรลุแผนกลยุทธ์ที่วางไว้และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยพลังแห่งอารมณ์ของเพลงและเสียง

การซื้อ MassiveMusic ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญในวงการ ขณะที่การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีและช่องทางคอนเทนท์ต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนสถานที่ที่เสียงของแบรนด์หนึ่งจะเป็นที่รู้จักนั้น จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และเนื่องจากการสร้างสรรค์คอนเทนต์มากมายกำลังเกิดขึ้นบนสื่อหลากหลายรูปแบบ จึงมีการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมดนตรีจะมีมูลค่าถึง 1.31 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 นักการตลาดจึงต้องหาทางลัดมากกว่าเดิม และสร้างอิมแพคให้เกิดขึ้นมากที่สุด จึงทำให้เกิดความเร่งด่วนในการใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจากพลังของดนตรี การนำเพลงที่เหนือชั้นกว่าของ MassiveMusic สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ มาผนวกรวมกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เพลง B2B ที่ได้จากการนำข้อมูลมาพัฒนาของ Songtradr จึงเป็นการสร้างโซลูชันเพลงที่ใช้เทคโนโลยีตัวเดียวที่ให้บริการครบวงจรสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในยุคดิจิทัลนี้ 

"MassiveMusic ได้สร้างชื่อเสียงอันโดดเด่นสำหรับโซลูชันดนตรีที่หนักแน่น สดใส และสร้างสรรค์ให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ มายาวนานกว่า 20 ปี" Paul Wiltshire ซีอีโอของ Songtradr กล่าว "ความซับซ้อนของวงการเพลง B2B ทำให้เป็นเรื่องท้าทายในการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่ จึงจำกัดวงการนี้จากการเติบโตแบบเดียวกับที่วงการเพลงทั่ว ๆ ไปกำลังเติบโต ดังนั้น การนำบริษัทและความสามารถต่าง ๆ ของเรามารวมกันนั้นจึงสร้างขอบเขตและความน่าเชื่อถือ ที่ทำให้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับวงการเพลง B2B และปลดปล่อยศักยภาพการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ"

ปัจจุบัน MassiveMusic ซึ่งเป็นเอเจนซีเพลงครีเอทีฟระดับชั้นนำของโลก มีพนักงานประมาณ 85 คน โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม เบอร์ลิน ลอนดอน นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส และโตเกียว บริษัททำหน้าที่สร้างสรรค์และจัดการดนตรีระดับเวิลด์คลาส รวมถึงโซลูชันการสร้างแบรนด์ด้วยเสียงเชิงกลยุทธ์ และบริหารจัดการดนตรีให้แก่แบรนด์ระดับโลก อาทิ Nike, Heineken, Apple และ UEFA ซึ่งในปีนี้ MassiveMusic ได้เปิดตัวเครื่องมือสร้างแบรนด์ด้วยเสียงโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนตัวแรกของโลก นั่นคือ MassiveBASS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พลิกวงการที่รวมศิลป์และศาสตร์ไว้ด้วยกัน และทำนายความสำเร็จในการจดจำ การสร้างความโดดเด่น และการเชื่อมโยงกับบุคลิกของแบรนด์ MassiveMusic ยังคว้ารางวัลในวงการที่เป็นไปได้ทุกรางวัล อาทิ Cannes Gold Lion, D&AD, CLIO, Transform และอีกมากมาย MassiveMusic มีการเติบโตแบบน่าประทับใจในรอบปีที่ผ่านมา แม้เผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม โดยสามารถทำรายได้ให้เติบโตในอัตราเลขสองหลักในปี 2020 เมื่อเทียบกับปี 2019

"ที่ MassiveMusic เราตื่นเต้นกันมากที่จะได้ผนึกกำลังร่วมกับ Songtradr บริการต่าง ๆ ของเราส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ ทำให้เราสามารถเพิ่มบริการที่เรามอบให้แก่ลูกค้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกและเอเจนซีครีเอทีฟที่มีความสามารถที่เราทำงานด้วยนั้น สามารถได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากข้อเสนอที่ไม่เหมือนใครครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผนึกรวมบริษัทด้านเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เพลง B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้ากับเอเจนซีเพลงครีเอทีฟชั้นนำระดับโลก" Hans Brouwer ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ MasssiveMusic กล่าว "สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากที่สุดก็คือวิธีการปรับวิสัยทัศน์ ความต้องการ และวัฒนธรรมต่าง ๆ ของพวกเราให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน นับตั้งแต่การประชุมครั้งแรกเป็นต้นมา ความร่วมมือเป็นพันธมิตรกันของพวกเราก็รู้สึกเหมือนกับว่า เราอยู่ในวงเดียวกันมานานมากแล้ว เราตั้งตารอคอยที่จะช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกของเราเติบโตขึ้นแบบ Harder, Better, Faster, Stronger ตามเนื้อเพลงของวงในตำนานอย่าง Daft Punk"

ด้วยเพลงกว่า 300,000 แทร็กที่ถือลิขสิทธิ์ไว้ผ่านระบบอีโคซิสเต็ม และกว่า 1.5 ล้านแทร็กบนแพลตฟอร์ม Songtradr จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มลิขสิทธิ์เพลงที่ใหญ่ที่สุดในเวลาไม่ถึง 5 ปี โดยในปี 2019 บริษัทเข้าซื้อกิจการ Big Sync Music และนับตั้งแต่นั้นมา ก็ได้เข้าซื้อกิจการ Cuesongs, Song Zu, Pretzel, Tunefind รวมทั้งได้เข้าลงทุนใน Jaxsta ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลดนตรีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย

MassiveMusic จะรับหน้าที่นำแผนกบริการเพลง B2B ของ Songtradr Group ซึ่งจะทำให้แบรนด์และเอเจนซีต่าง ๆ สามารถเพิ่มอิมแพคทางการตลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตอบสนองความต้องการดนตรีทั้งหมดได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน ลิขสิทธิ์เพลง การแต่งเพลงตามความต้องการลูกค้า และการสร้างแบรนด์ด้วยเสียง ไปจนถึงเทคโนโลยี ดาต้า และข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ นักการตลาดสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและสร้างอิมแพคได้มากขึ้น

เกี่ยวกับ SONGTRADR:
Songtradr เป็นตลาดลิขสิทธิ์เพลงแบบ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งให้บริการบรรดาผู้สร้างเพลงและเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยโซลูชันที่เน้นเทคโนโลยีครบวงจรสำหรับการจัดการสิทธิ์และการสร้างรายได้ ขณะที่ให้บริการแก่ผู้ใช้งานเพลง B2B เช่น แบรนด์ นักโฆษณา ผู้สร้างภาพยนตร์ SVOD และเครือข่ายการกระจายเสียงและแพร่ภาพออกอากาศ แพลตฟอร์มเกม โซเชียลมีเดียและสตรีมมิง ด้วยการเข้าถึงเพลงด้วย AI ที่มีประสิทธิภาพสูง

เกี่ยวกับ MASSIVEMUSIC:
MassiveMusic เป็นเอเจนซีบันทึกเสียงให้แก่แบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์ในโลก ในฐานะพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจ MassiveMusic จึงมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่แบรนด์ต้องการในด้านเพลง ดนตรี และเสียง ไม่ว่าจะเป็นแผนกลยุทธ์ที่สร้างอิมแพค การสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ด้วยเสียง และการประพันธ์เสียงเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด เอเจนซีแห่งนี้สร้างสรรค์สิ่งนี้และอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องด้วยความหลงใหลในเสียงเพลง ประกอบกับความชำนาญ และการวิจัยค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์ บริษัทมีเป้าหมายสุดท้ายคือเพื่อสร้างเสียงในโลกให้ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์และเอเจนซีต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านพลังด้านอารมณ์ของเสียง นักสร้างสรรค์และนักคิดแผนกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลัง MassiveMusic กระจายกันทำงานในสำนักงานและสตูดิโอต่าง ๆ ทั่วโลก และยังเป็นที่เล่าลือกันว่า บริษัทยังจัดงานปาร์ตี้ใหญ่เป็นครั้งคราวด้วย

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1085219/Songtradr_Logo.jpg?p=medium600