ปักกิ่ง--15 มิถุนายน 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ชาวจีนให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และพยายามบรรลุเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่นมาอย่างยาวนาน ดังที่หวัง หยางหมิง (พ.ศ. 2015-2072) นักคิดชาวจีนในยุคราชวงศ์หมิง กล่าวไว้ว่า "ไร้ซึ่งความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ก็ไร้ซึ่งความสำเร็จ"
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อ้างถึงวลีดังกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่สานต่อปณิธานดังกล่าว
"ชาวจีนรุ่นใหม่ควรมีความอุตสาหะ ยึดมั่นในอุดมคติและความเชื่อ กล้าที่จะเผชิญความยากลำบากและก้าวไปข้างหน้า และทำงานหนักด้วยใจเด็ดเดี่ยว" นายสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยปักกิ่งในเมืองหลวงของจีน
เขาเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่เชื่อมโยงอุดมคติเข้ากับอนาคตของชาติ และมุ่งมั่นฟื้นฟูประเทศชาติ
จากบ่อก๊าซมีเทนสู่ความฝันของจีน
นายสี จิ้นผิง ค้นพบความฝันในอาชีพตั้งแต่ยังหนุ่ม ขณะที่ทำงานในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในมณฑลส่านซีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
ในปี 2512 ขณะมีอายุ 15 ปี เขาเดินทางไปยังหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ตามโครงการส่งคนหนุ่มสาวในเมืองที่มีการศึกษาหลายสิบล้านคนไปอยู่อาศัยและทำงานในชนบท เขาใช้เวลาเกือบ 7 ปีที่นั่น และค้นพบเป้าหมายในชีวิต นั่นคือ การสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการรับใช้ประชาชน
นายสี จิ้นผิง เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2517 และได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำเหลียงเจียเหอ เขานำพาชาวบ้านทำโครงการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น ทั้งการสร้างเขื่อน บ่อก๊าซมีเทน โรงเย็บผ้า ร้านขายสินค้า และโรงสี
เพื่อสร้างบ่อก๊าซมีเทนให้ชาวบ้านได้ใช้ทำอาหารและจุดไฟ นายสี จิ้นผิง ได้เดินทางไปยังมณฑลเสฉวนที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ แต่เมื่อเดินทางกลับมาที่เหลียงเจียเหอ เขาก็พบว่าการปฏิบัติจริงยากกว่าทฤษฎี
"การขุดบ่อก๊าซมีเทนครั้งแรกยากมาก" เขาให้สัมภาษณ์ในปี 2547 "น้ำรอบบ่อสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีวี่แววของก๊าซ ต่อมาพบว่าปัญหาอยู่ที่ท่อตัน เราจึงเคลียร์สิ่งกีดขวาง และปุ๋ยก็พุ่งใส่หน้าผม จากนั้นก๊าซก็เริ่มพุ่งออกมา เรารีบเชื่อมท่อเข้ากับเตาไฟ เปลวไฟสูงเกิน 30 ซม.ก็พวยพุ่งเหนือเตามีเทน"
ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2546 นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ได้รับจากหมู่บ้านเหลียงเจียเหอมีอิทธิพลต่อเขา "ผมเห็นพลังของประชาชนและรากฐานของชีวิต ในตอนนั้นนั่นเองที่ทำให้ผมเริ่มเข้าใจประชาชนและสังคมอย่างแท้จริง"
ตลอดชีวิตการทำงานทางการเมืองในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีน นายสี จิ้นผิง ยังคงรักษาและกระชับความสัมพันธ์กับประชาชนและพยายามยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน หลังจากก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ เขาได้เรียกร้องให้ทั้งพรรคและทั้งประเทศทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาจีนให้ดีกว่าเดิม
"พันธกิจของเราคือการทำให้ประชาชนมีชีวิตที่มีความสุข" นายสี จิ้นผิง กล่าวกับสื่อมวลชนหลังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555
หลังจากนั้นสองสัปดาห์ เขาได้ประกาศแนวคิดความฝันของจีนในระหว่างการเข้าร่วมนิทรรศการในหัวข้อ "The Road Toward Renewal" โดยเขากล่าวว่าการบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูชาติจีนถือเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนในยุคสมัยใหม่
เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ผู้นำจีนได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้แก่สมาชิกพรรค 90 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อย้ำเตือนให้ทุกคนยึดมั่นในความปรารถนาตั้งแต่แรกเริ่มของพรรคและพันธกิจของการก่อตั้งพรรค นั่นคือ การสร้างความสุขให้กับประชาชนชาวจีนและฟื้นฟูประเทศชาติ
คนรุ่นใหม่ร่วมสานต่อพันธกิจ
ทุกวันนี้ ชาวจีนรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้เข้ามาร่วมสานต่อพันธกิจในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมให้กับประเทศชาติและประชาชน
Einar Tangen นักวิจารณ์การเมือง กล่าวว่า ชาวจีนรุ่นใหม่กำลังตื่นรู้และต้องการมีบทบาทในการพัฒนาประเทศ
"คนจีนรุ่นใหม่จำนวนมากตื่นรู้และคิดว่าประเทศจะก้าวไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ จึงต้องการเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้" เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CGTN
"ความสำเร็จทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และพวกเขารู้สึกภูมิใจที่จีนมาได้ไกลขนาดนี้" เขากล่าวเสริม
"ในฐานะคนรุ่นใหม่ เรามีความรับผิดชอบในช่วงเวลานี้" จู ยวี่ฮุ่ยหลาน นักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าว "เราต้องรับผิดชอบหน้าที่ของเราและพยายามบรรลุผลสำเร็จ"
เมื่อคนรุ่นใหม่อุทิศตนให้กับการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ จีนก็สามารถรับมือกับความท้าทายมากมายด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาความยากจน การต่อสู้กับโควิด-19 หรือการเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาประเทศ
ลิงก์: https://www.youtube.com/watch?v=pjRSGTOoSz4
