ฝอซาน, จีน--4 สิงหาคม 2564--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ผลการจัดอันดับ 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก FORTUNE Global 500 ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีบริษัทจีนติดอันดับเพิ่มขึ้นเป็น 143 แห่ง ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน และหนึ่งในบริษัทจีนที่ติดอันดับก็คือ Country Garden Holdings (02007.HK) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจีน โดยทะยานสู่อันดับ 139
ผลการจัดอันดับของ FORTUNE ระบุว่า ในปี 2563 บริษัท Country Garden มีรายได้ 6.708 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไร 5.075 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครองอันดับ 139 ของโลก โดยทะยานขึ้น 328 ขั้น จากอันดับ 467 ในปี 2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทเข้ามาติดอันดับ
นับตั้งแต่เข้ามาติดอันดับ FORTUNE Global 500 ในปี 2560 บริษัท Country Garden ก็ไต่อันดับสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดห้าปี โดยรั้งตำแหน่งบริษัทที่ไต่อันดับเร็วที่สุดในปี 2562 และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่รั้งตำแหน่งสูงสุดในปี 2563 ส่วนในปี 2564 บริษัทก็ทะยานสู่อันดับสูงสุดระดับใหม่ นับเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทเอกชนจีนในเวทีโลก เคียงข้างกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Tencent และ Huawei
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา Country Garden เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีคุณภาพสูง พร้อมกับรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและการขยายเมืองของจีน โดยในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กลุ่มบริษัท Country Garden และบริษัทร่วมทุนมียอดขายที่ทำสัญญาแล้วส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทราว 5.7066 แสนล้านหยวน (ประมาณ 8.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีพื้นที่อาคารรวม (GFA) ที่ทำสัญญาแล้วส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทราว 67.33 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้น 3.3% และ 8.0% เมื่อเทียบรายปีตามลำดับ โดยยอดขายของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดระดับใหม่
การเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงของ Country Garden ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท
ในระหว่างปี 2559-2563 ยอดขายที่ทำสัญญาแล้วส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25% ในขณะที่ตัวบ่งชี้รายได้หลักอื่น ๆ ก็เติบโตอย่างยั่งยืน โดยตลอดห้าปี รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 1.5309 แสนล้านหยวน (ราว 2.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 4.629 แสนล้านหยวน (ราว 7.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทะยานขึ้นถึง 202.4% ส่วนกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 296% จาก 1.366 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 5.41 หมื่นล้านหยวน (ราว 8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ด้านกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1.1516 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 3.602 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทะยานขึ้นถึง 212.8%
บริษัทมีอัตราส่วนภาระหนี้สินต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยการดำเนินงานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและการควบคุมหนี้สินอย่างรอบคอบคือเคล็ดลับที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
รายงานทางการเงินของ Country Garden แสดงให้เห็นว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมลดลง 11.7% สู่ระดับ 3.265 แสนล้านหยวน (ราว 5.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.696 แสนล้านหยวน (ราว 5.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหนี้สินรวมลดลง 0.78% สู่ระดับ 5.56% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิอยู่ที่ 55.6% นับว่าอยู่ต่ำกว่าระดับ 70% มานานหลายปีแล้ว
"Country Garden กำลังพัฒนาธุรกิจอย่างมีคุณภาพสูง มั่นคง และแข็งแกร่ง" Mr. Mo Bin ซีอีโอของ Country Garden Holdings กล่าว นอกจากนี้ เขากล่าวถึงการที่รัฐบาลจีนค่อย ๆ ยกระดับนโยบายควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่ความพยายามในการควบคุมการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ การที่จีนเดินหน้าขยายเมืองจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจของ Country Garden
เมื่อสามปีที่แล้ว Country Garden ได้นำหลักปรัชญาหนึ่งมาใช้ ซึ่งเป็นวลีภาษาจีนที่มีความหมายว่า "เดินอย่างมั่นคงและก้าวไกล" เพื่อประสานทุกแง่มุมของการวางแผนภายในองค์กร นอกจากนี้ ซีอีโอของบริษัทยังเน้นย้ำว่า "ความปลอดภัยและคุณภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่ความก้าวหน้าของทุกโครงการมีการวางแผนตามหลักวิทยาศาสตร์" พร้อมกับเสริมว่า "ผู้บริหารในแต่ละภูมิภาคให้ความสำคัญกับตัวโครงการและภูมิภาคที่โครงการตั้งอยู่ เพื่อบรรลุเป้าหมาย Reputation-First และ Long-Termism"
การใช้มาตรการปฏิรูปและบรรษัทภิบาลมากมายโดยยึดหลักปรัชญา "เดินอย่างมั่นคงและก้าวไกล" ได้นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร และการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั่วตลาดรองระดับ 3 และระดับ 4 ของจีน นอกจากนี้ ช่องทางการเข้าครอบครองที่ดินอันหลากหลายและทีมขายคุณภาพสูงยังช่วยรับประกันผลกำไรในอนาคตและผลการดำเนินงานทางธุรกิจที่ยั่งยืน
Country Garden ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีมาโดยตลอด เนื่องจากมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและการบริหารการเงินที่รอบคอบ ในปี 2563 บริษัท Moody's ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ Country Garden และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทสู่ระดับ Baa3 ซึ่งน่าลงทุน ขณะที่บริษัท S&P Global Ratings ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตระยะยาวของบริษัทจาก "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงบวก" แม้ว่าตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้นในปี 2563 อันเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19