Sasol เผยผลประกอบการที่ดีสำหรับปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564

โจฮันเนสเบิร์ก

17 สิงหาคม 2564

/PRNewswire/ -- Sasol เผยผลประกอบการที่ดีสำหรับปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) 1.66 หมื่นล้านแรนด์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 100% ความสำเร็จเช่นนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในแง่ของต้นทุน เงินทุนหมุนเวียน และรายจ่ายในการลงทุน แม้ว่าจะยังคงมีผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และปัญหาจากสภาพอากาศ

บริษัทมีการฟื้นตัวอย่างดีเยี่ยมของกำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณดังกล่าว โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์และสารเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้น ร่วมกับการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินแรนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

รายได้ของเราส่วนใหญ่เป็นผลจากรายการปรับค่าที่ไม่ใช่เงินสดรวม 1.54 หมื่นล้านแรนด์ ดังนี้

• การด้อยค่าของสินทรัพย์สุทธิ 2.87 หมื่นล้านแรนด์ โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับค่าการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนระยะยาวและต้นทุนที่สูงขึ้นในการจัดหาก๊าซในระยะยาว
• กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ธุรกิจรวม 2.2 พันล้านแรนด์ รวมทั้งหน่วยธุรกิจแยกอากาศ (Air Separation Units)
• กำไร 3.4 พันล้านแรนด์จากค่าเผื่อสำรองการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน (FCTR) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการถอนการลงทุน 50% ในธุรกิจ LCCP Base Chemicals
• กำไร 5.5 พันล้านแรนด์จากการแปลงสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินที่เป็นตัวเงิน เนื่องจากการแข็งค่าขึ้น 18% ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินแรนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2563 และ
• กำไร 2.3 พันล้านแรนด์จากมูลค่าของตราสารทางการเงินและสัญญาอนุพันธ์

การบริหารจัดการงบดุล

เงินสดที่มาจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 4.51 หมื่นล้านแรนด์ การเพิ่มดังกล่าวประกอบกับการถอนการลงทุนในสินทรัพย์ทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้ราว 8.1 หมื่นล้านแรนด์ รวมถึงเงินกู้ในรูปสกุลเงินแรนด์ราว 4 พันล้านแรนด์

รายจ่ายการลงทุนจริงอยู่ที่ 1.64 หมื่นล้านแรนด์ เทียบกับ 3.52 หมื่นล้านแรนด์ในปี 2563 ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่ลดลงนี้เป็นผลจากการมุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการดำเนินการอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งการรักษาประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยของสินทรัพย์

หนี้สุทธิต่อ EBITDA ของเรา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ตามคำจำกัดความของเงื่อนไขการกู้ยืมแบบหมุนเวียน (RCF) และการกู้ยืมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 1.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตกลงกันอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอัตราส่วนนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายอัตราหนี้สุทธิต่อระดับ EBITDA เราก็จะยังคงมุ่งลดระดับหนี้ลงไปอีก ซึ่งจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นทางการเงินขณะที่เราดำเนินการตามกลยุทธ์ Future Sasol ท่ามกลางสภาวะทางเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน เป้าหมายของเราคือการจัดการงบดุลเพื่อปรับปรุงระดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนให้ดีเช่นเดิม

ระหว่างปีดังกล่าว มีการออกตราสารหนี้มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.14 หมื่นล้านแรนด์) ในตลาดหลักทรัพย์ New York Stock Exchange โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 หนี้โดยรวมของเราอยู่ที่ 1.029 แสนล้านแรนด์ เทียบกับ 1.897 แสนล้านแรนด์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ระหว่างปีดังกล่าว เรานำรายได้จากการขายสินทรัพย์มาใช้ชำระคืนเงินกู้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนและสินเชื่อเงินกู้ส่วนหนึ่ง ซึ่งช่วยลดภาระหนี้สินในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลงเกือบ 7.6 หมื่นล้านแรนด์ (5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของเราลดลงจาก 117.0% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เหลือ 61.5% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยเหตุผลหลักเป็นเพราะการชำระคืนเงินกู้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินแรนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 สภาพคล่องของเราอยู่ที่ 8.4 หมื่นล้านแรนด์ (5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสภาพคล่องมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เรากำหนดไว้ ด้วยเงินทุนในรูปสกุลเงินแรนด์และดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เรายกระดับการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ เราไม่มีกำหนดการชำระหนี้ก้อนใหญ่ก่อนเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นเวลาที่ตราสารหนี้มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจะถึงกำหนดชำระ

เรายังคงมีความก้าวหน้าที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงด้านสกุลเงินต่างประเทศ น้ำมันดิบ และอีเทน ซึ่งสอดคล้องกับกรอบการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของเรา เราประสบความสำเร็จในการคุ้มครองความเสี่ยงด้านน้ำมันโดยรวมสำหรับปี 2565 ซึ่งช่วยเพิ่มความแน่นอนของกระแสเงินสดในอนาคตเพื่อลดระดับหนี้ และช่วยให้เราสามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ Future Sasol ของเราได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ hedge position ของเราที่เปิดให้ทำการซื้อขายได้ที่ Analyst Book ของเรา (www.sasol.com)

เงินปันผล

การกลับมาจ่ายเงินปันผลเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างยิ่ง แต่ด้วยสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคสูงเช่นนี้ คณะกรรมการเชื่อว่าจะเป็นการดีที่สุดหากยังไม่ประกาศเงินปันผลในตอนนี้

การเปลี่ยนแปลงของคณะกรรมการบริษัท

การเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้ของคณะกรรมการบริษัทเกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่ผลประกอบการทางการเงินกลางปีของบริษัทเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ดังนี้

Mr S Subramoney ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการอิสระที่ไม่เป็นผู้บริหารและสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 บริษัทยังได้ประกาศการแต่งตั้ง Ms GMB Kennealy ผู้เป็นกรรมการอิสระที่ไม่เป็นผู้บริหาร ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 หลังจากการเกษียณของ Mr C Beggs จากตำแหน่งกรรมการอิสระที่ไม่เป็นผู้บริหารและประธานคณะกรรมการตรวจสอบในวันที่ 31 สิงหาคม 2564

Mr P Victor ได้แจ้งบริษัทว่าจะออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่่ฝ่ายการเงิน (CFO) และกรรมการบริหารของบริษัท Sasol Limited ในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดย Mr H Rossouw ได้รับการแต่งตั้งเป็นว่าที่ CFO และว่าที่กรรมการบริหารบริษัท Sasol เพื่อรับตำแหน่งต่อจาก Mr Victor โดยจะเข้าร่วมกับบริษัท Sasol ในวันที่ 4 เมษายน 2565 และจะรับตำแหน่งกรรมการบริหารและ CFO ต่อจาก Mr Victor ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565

แกลงการณ์ฉบับย่อ

การประกาศนี้เป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท ข้อมูลในการประกาศฉบับย่อนี้ รวมถึงข้อมูลทางการเงินซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้ในการคาดการณ์ ยังไม่ได้รับการตรวจสอบและรายงานโดยผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท Sasol Limited ตัวเลขทางการเงินในประกาศนี้นำมาอย่างถูกต้องจากผลประกอบการทางการเงินของบริษัท ซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้วโดยผู้ตรวจสอบของบริษัท ได้แก่ PwC ซึ่งได้แสดงความเห็นโดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน (unmodified opinion) ทั้งนี้ เนื้อหาการตรวจสอบบัญชีที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับ "การประเมินการด้อยค่าของทรัพย์สิน โรงงานและอุปกรณ์ และการลงทุนในบริษัทลูก" ได้รับการระบุในรายงานการตรวจสอบบัญชีอิสระโดย PwC ประกาศนี้ไม่รวมถึงข้อมูลตามกำหนดที่สืบเนื่องจากย่อหน้า 16A(j) ของรายงานการเงินชั่วคราว IAS 34 'Interim Financial Reporting โดยเป็นเพียงการสรุปข้อมูลที่ระบุในประกาศฉบับเต็มและไม่ได้มีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ การตัดสินใจการลงทุนควรพิจารณาถึงข้อมูลที่อยู่ในประกาศฉบับเต็มด้วย ซึ่งเผยแพร่ทาง SENS เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ทางลิงก์ JSE ดูประกาศฉบับเต็มและผลลัพธ์ทางการเงิน FY21 ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว รวมถึงรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชี ได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.sasol.com/investor-centre/financial-reporting/annual-integrated-reporting-set

Capital Markets Day

Fleetwood Grobler ประธานและซีอีโอของบริษัท Sasol พร้อมทั้งทีมผู้บริหาร จะจัดกิจกรรม Capital Markets Day รวมถึงช่วงถามตอบคำถามทางออนไลน์ ในวันพุธที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. (ตามเวลาแอฟริกาใต้)

ขอเชิญชวนให้เข้าร่วมงาน Capital Markets Day ประจำปี 2564 ทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งเราจะอัปเดตกลยุทธ์ระยะยาวและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ Sasol รวมถึงแนวทางการเปลี่ยนผ่านของเราจนถึงปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593)

จะมีการเผยแพร่กำหนดการและรายละเอียดการเข้าร่วมหลังจากนี้ หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อ investor.relations@sasol.com หรือโทร +27 10 344 9280

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

รับชมพรีเซนเทชันที่บันทึกไว้ล่วงหน้าได้ที่

https://www.corpcam.com/Sasol16082021

ลิงก์ JSE: https://senspdf.jse.co.za/documents/2021/JSE/ISSE/SOL/FY21Result.pdf

ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน จัดการประชุมออนไลน์ผ่านเว็บแคสต์ในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาแอฟริกาใต้) เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลประกอบการและอัปเดตความคืบหน้าทางธุรกิจ

ลิงก์เข้าร่วมการประชุม:

https://www.corpcam.com/Sasol16082021Q 

เผยแพร่โดย

Matebello Motloung
ผู้จัดการ: Group Media Relations
โทรศัพท์สายตรง: +27 (0) 10 344 9256
มือถือ: +27 (0) 82 773 9457
อีเมล: matebello.motloung@sasol.com

Alex Anderson
ผู้จัดการอาวุโส: Group External Communication
โทรศัพท์สายตรง: +27 (0) 10 344 6509
มือถือ: +27 (0) 71 600 9605
อีเมล: alex.anderson@sasol.com