สิงคโปร์--26 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Oracare Group ("Oracare") หนึ่งในกลุ่มทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากสิงคโปร์ เป็นบริษัทโฮลดิ้งแห่งใหม่และแบรนด์ระดับสากลสำหรับกลุ่มทันตกรรมที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ หลังจากที่ได้ดำเนินการใน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางกลุ่มก็เตรียมสยายปีกรุกขยายธุรกิจต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาค แม้จะมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
ปัจจุบัน Oracare มีคลินิก 40 สาขาทั่วสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย โดยได้เพิ่มคลินิกใหม่ 4 แห่งในปี 2563 แม้จะมีความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับในสิงคโปร์ กลุ่มบริษัทดำเนินการภายใต้แบรนด์ Family Dental Center ("FDC") และแบรนด์ Expat Dental เพื่อให้บริการในตลาดระดับพรีเมียม นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีแบรนด์ชั้นนำในตลาดอย่างมอส เดนทอล (MOS Dental) ในประเทศไทย และ Tawa Dental Studio ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ในสิงคโปร์ Oracare ยังดำเนินธุรกิจอุปกรณ์ทันตกรรม และธุรกิจการจัดหาในชื่อ A2Z Dental and Medical Supplies ด้วย
Oracare ได้รับการสนับสนุนโดยนักลงทุนด้านการดูแลสุขภาพมากประสบการณ์อย่าง White Cloud Capital ซึ่งได้ทุ่มเงินลงทุนในการสร้างและพัฒนา Oracare ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยได้ขยายการลงทุนทั้งด้วยการลงทุนใหม่ (greenfield) และการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) เพื่อสร้างกลุ่มทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ Oracare Group พัฒนาไปสู่ธุรกิจที่มีการกำกับดูแลกิจการและการรักษาทางคลินิกที่มีมาตรฐานสากล ซึ่งนำโดยทีมผู้บริหารมืออาชีพและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
คุณ Leon Luai ซีอีโอของ Oracare กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้พัฒนากลุ่มธุรกิจระดับสากลที่ประสบความสำเร็จ โดยปฏิบัติตามแนวทางความร่วมมือด้วยการผนึกกำลังกับผู้ประกอบการทันตแพทย์หน้าใหม่ที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกันกับเรา ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติทางคลินิกที่ยอดเยี่ยมและผลลัพธ์ทางการพยาบาลที่ประเมินจากผู้ป่วยเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจไปในทางบวก ไม่ใช่ในทางกลับกัน สำหรับ Oracare เรามอบผลประโยชน์มากมายให้กับพันธมิตรจากการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทันตกรรมระดับสกล ในขณะที่สนับสนุนความทะเยอทะยานส่วนตัวของพวกเขา เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสมากมายในตลาดสิงคโปร์ ในขณะที่ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
คุณ Luai กล่าวเสริมว่า "จุดโฟกัสหลักของ Oracare อยู่ที่การยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบัน การถือกำเนิดของเทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัลจะเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นในช่วงนี้ แต่เราได้ปรับปรุงธุรกิจของเราสู่ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยมุ่งปรับปรุงบริการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาความสามารถทางทันตกรรมทางไกลของเรา เพื่อเพิ่มความสะดวกและเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วย นอกจากนี้ เรายังลงทุนอย่างต่อเนื่องในอุปกรณ์ขั้นสูง เพื่อปรับปรุงการรักษาและมอบผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ป่วย"
การลงทุนสนับสนุนเทคโนโลยีในครั้งนี้ประกอบด้วยเครื่องสแกน Cone Beam CT ซึ่งให้ภาพสามมิติเพื่อให้วางแผนการรักษาได้แม่นยำที่สุด เช่นเดียวกับเครื่องสแกนเนอร์ในช่องปากที่ลดความจำเป็นในการพิมพ์ปาก และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เห็นแบบจำลองฟันของตนเองแบบดิจิทัลรวมถึงรอยยิ้มใหม่ที่คาดว่าจะได้จากการรักษาที่วางแผนไว้ ขั้นตอนงานทันตกรรมที่มีความซับซ้อนมากกว่าขั้นตอนอื่น เช่น ทันตกรรมรากฟันเทียม ก็ทำได้ง่ายกว่าที่เคย ด้วยการทำหัตถการที่มีความชอกช้ำต่อเนื้อเยื่อน้อย (minimally invasive) ซึ่งท้ายที่สุดผู้ป่วยก็จะได้รับประโยชน์ เพราะใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง จนกลับไปทำงานและทำกิจกรรมประจำวันได้เร็วขึ้น
Oracare ยังมีความภาคภูมิใจในการลงทุนพัฒนาทักษะอาชีพของทีมคลินิก เพื่อให้พวกเขาอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนหลักสูตรและเวิร์กช็อปเพื่อส่งเสริมทักษะทางคลินิกในสาขาทันตกรรมจัดฟัน รากฟันเทียม และอื่น ๆ นอกจากนี้ Oracare ยังให้ความสำคัญไม่แพ้กันในเรื่องการอบรมทักษะการสื่อสารและซอฟต์สกิลต่าง ๆ เนื่องจากทีมคลินิกมีบทบาทสำคัญในการมอบประสบการณ์บริการลูกค้าระดับเวิลด์คลาสแก่ผู้ป่วย
ทันตแพทย์อดิศร หาญวรวงศ์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของมอส เดนทอล คลินิก ได้ชี้ให้เห็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ช่วยให้มอส เดนทอล คลินิก เติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 64% นับตั้งแต่ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน Oracare Group เมื่อปี 2562 ว่า "ในฐานะที่เป็นธุรกิจครอบครัว เรายอมรับว่าเราเริ่มเข้าใกล้เพดานแก้วเข้ามาเรื่อย ๆ ในแง่ของขีดความสามารถในการเติบโต ประกอบกับความซับซ้อนและปัญหาการดำเนินงานที่ปรากฏให้เห็นมากขึ้น การผนึกกำลังกับ Oracare Group เปิดโอกาสให้เราได้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มระดับนานาชาติ ที่ได้เข้ามาช่วยให้เราดำเนินการหรืออัปเกรดระบบและระเบียบการต่าง ๆ ในสายงาน ไปพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานองค์กรที่ได้เข้ามาสนับสนุนจนทำให้เราเติบโตอย่างรวดเร็วจากเดิมที่มีคลินิก 14 สาขา เพิ่มขึ้นเป็น 23 สาขาในทุกวันนี้ และยังมีศักยภาพสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจเพิ่มเติมด้วย สิ่งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเราในฐานะผู้นำตลาดรายหนึ่งของไทย"
Oracare Group เติบโตจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้ และพร้อมก้าวขึ้นเป็นกลุ่มทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่ปีนี้
เกี่ยวกับ Oracare Group
Oracare Group เป็นกลุ่มทันตกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการลงทุนภาคเอกชนอย่าง White Cloud Capital ปัจจุบัน Oracare Group มีคลินิก 40 สาขาทั่วสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย Oracare Group ทำธุรกิจผ่านแบรนด์ Family Dental Centre และ Expat Dental ในสิงคโปร์, มอส เดนทอล ในประเทศไทย และ Tawa Dental Studio ในอินโดนีเซีย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.oracaregroup.com/ โดยสื่อมวลชนดาวน์โหลดภาพประกอบข่าวได้ที่นี่
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ในเวอร์ชันภาษาจีนกลางได้ที่นี่
