omniture

รายงานศึกษาฉบับใหม่พบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข

Carrier Global Corporation
2021-09-11 02:41 185

ผลการศึกษาสนับสนุนผลการวิจัยก่อนหน้าที่ว่า คุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีขึ้นนำไปสู่การทำงานของสมองและสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้พักอาศัยในอาคาร

ปาล์มบีช การ์เด้นส์, ฟลอริดา--11 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

นับเป็นครั้งแรกในระดับโลกที่มีรายงานวิจัยฉบับใหม่ยืนยันว่า อาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพที่มีการระบายอากาศที่ดีขึ้น สามารถปรับปรุงการทำงานของสมองและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้นได้ ซึ่งบ่งชี้ว่า การระบายอากาศและการกรองอากาศเป็นแผนกลยุทธ์สำหรับอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด โดยรายงานวิจัยฉบับนี้ ซึ่งมีชื่อว่า COGfx Study 3: Global Buildings จัดทำขึ้นโดยคณะนักวิจัยจากวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานวิจัยชุด COGfx Study ชื่อดัง ซึ่งตรวจสอบผลกระทบของคุณภาพอากาศภายในอาคารต่อวิธีคิดและความรู้สึกของผู้คน และรายงานวิจัยล่าสุดฉบับนี้สนับสนุนผลการศึกษาก่อนหน้าของห้องปฏิบัติการและผลวิจัยของสหรัฐ และยิ่งสนับสนุนข้อเท็จจริงที่ว่า คุณภาพอากาศภายในอาคารนอกจากจะเป็นผลดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คนแล้ว ยังดีกับผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วย เพราะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น วันลาป่วยลดลง และการทำงานของสมองดีขึ้น

Results across the COGfx studies show that, with the right strategies in place, buildings can play a significant role in improving cognitive function, health and productivity, while delivering bottom line benefits to businesses and health benefits to society.
Results across the COGfx studies show that, with the right strategies in place, buildings can play a significant role in improving cognitive function, health and productivity, while delivering bottom line benefits to businesses and health benefits to society.

Dave Gitlin ประธานและซีอีโอของ Carrier กล่าวว่า "ในขณะที่ผู้คนมากขึ้นกำลังจะย้ายกลับไปทำงานในออฟฟิศ, โรงเรียน และกิจกรรมสันทนาการ สุขภาพ ความปลอดภัย และระบบอัจฉริยะของสิ่งแวดล้อมภายในอาคารก็เป็นที่สนใจมากขึ้น รายงานวิจัย COGfX ยังแสดงให้เห็นว่า การระบายอากาศ และการกรองอากาศที่เหมาะสมของสิ่งแวดล้อมภายในอาคารมีบทบาทสำคัญทั่วโลกในการส่งเสริมแผนยุทธศาสตร์การสร้างสุขภาพแบบป้องกันล่วงหน้า ที่ Carrier เรามุ่งเน้นการส่งมอบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และบริการที่มีผลในเชิงบวกต่อสุขภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน และผลลัพธ์การทำงานของสมองของผู้อาศัยในอาคารทุกแห่ง"

COGfx Study 3: Global Buildings ตรวจสอบผลกระทบของคุณภาพอากาศภายในอาคารต่อการทำงานของสมองของพนักงานออฟฟิศใน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, อินเดีย, เม็กซิโก, ไทย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ และรายงานวิจัยพบว่า การทำการทำงานของสมองจะลดลง เมื่อระดับของฝุ่นละอองจิ๋ว (PM2.5) และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพิ่มขึ้น ซึ่งก๊าซ CO2 ที่เพิ่มขึ้นสามารถเป็นดัชนีบ่งชี้การระบายอากาศที่ย่ำแย่ในอาคารได้

ที่สำคัญคือการระบายอากาศแบบใช้เครื่องช่วย เช่น ระบบ HVAC ที่มีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยปกป้องผู้อาศัยในอาคารจากผลกระทบด้านความคิดความเข้าใจในเชิงลบที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 และ COได้ ซึ่งนอกจากผลกระทบร้ายแรงต่อการทำงานของสมองแล้ว การลดการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ยังเกี่ยวข้องกับประโยชน์ด้านสุขภาพอื่นๆอีกหลายข้อ อาทิ การลดโรคหัวใจและหลอดเลือด, การป่วยเป็นโรคหอบหืด และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ขณะที่รายงานวิจัยฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่พนักงานออฟฟิศในอาคารพาณิชย์ แต่ประเด็นสำคัญก็สามารถนำไปใช้กับสิ่งแวดล้อมภายในอาคารทั้งหมดได้ โดย Carrier นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ มากมายที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับคุณภาพอากาศภายในอาคาร ซึ่งรวมถึงชุดโซลูชันที่ทันสมัยผ่าน Carrier's Healthy Buildings Program ที่รองรับธุรกิจแนวดิ่งที่สำคัญทั้งบริการสุขภาพ, การต้อนรับ, การศึกษา, ค้าปลีก และการเดินทะเล โดยโครงการ Healthy Buildings Program ของ Carrier มอบนวัตกรรมต่างๆดังนี้:

  • Abound แพลตฟอร์มระบบดิจิทัลแบบ Cloud-native ที่รวบรวมข้อมูลจากระบบและเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้ด้วยกัน และสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนให้กับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ, สภาวะอยู่สบาย และข้อมูลด้านผลการดำเนินงานอื่นๆ
  • OptiClean Dual-Mode Air Scrubber & Negative Air Machine เครื่องปรับอากาศความดันลบแบบเคลื่อนที่ได้ ซึ่งจะทำให้อากาศสะอาด และขจัดอากาศที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโคโรนาไวรัส
  • Indoor Air Quality (IAQ) Assessments การประเมินคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) เพื่อกำหนดแผนยุทธศาสตร์อาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอาคารในขณะนี้ได้ และรับประกันได้ว่า โซลูชันต่างๆ จะมีประสิทธิภาพยืนยาวไปจนถึงอนาคต

รายงานวิจัยฉบับล่าสุดเป็นการสานต่อผลการศึกษา COGfx ฉบับก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วิธีการคิดที่ดีขึ้น และสุขภาพที่ดีขึ้นสามารถพบได้ภายในอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพมากขึ้น โดยผลศึกษาฉบับแรกพบว่า คะแนนทดสอบการทำงานของสมองเพิ่มขึ้นสองเท่า เมื่อผู้ร่วมวิจัยอยู่ในสภาพจำลองที่เลียนแบบสภาพในอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีระบบระบายอากาศดีขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับสภาพอาคารแบบดั้งเดิม ขณะที่รายงานวิจัย COGfx Study 2 ได้ตรวจสอบสภาพในอาคารที่ใช้งานจริงในสหรัฐ และพบว่า พนักงานที่อยู่ในอาคารที่ผ่านการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมมีคะแนนทดสอบด้านความคิดความเข้าใจเพิ่มขึ้น 26% และมีอาการป่วยน้อยลง 30% เมื่อเทียบกับอาคารที่ไม่ผ่านการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

สามารถอ่านรายงาน COGfx Study 3 ได้ที่นี่ และรายงานฉบับเต็มที่ www.theCOGfxStudy.com ติดตามการพูดคุยผ่านทางทวิตเตอร์โดยใช้แฮชแท็ก #TheCOGfxStudy

รายงานการศึกษาฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนหลักจาก Carrier Global Corporation (NYSE:CARR)

เกี่ยวกับ Carrier

ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านบริการโซลูชันอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ, ปลอดภัย, ยั่งยืน และมีระบบอัจฉริยะ และระบบห่วงโซ่ความเย็น Carrier Global Corporation จึงมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกใบนี้ปลอดภัยขึ้น ยั่งยืนมากขึ้น และสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อๆไป โดยนับตั้งแต่เริ่มต้น เราได้เป็นผู้นำในการประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม่ๆ และอุตสาหกรรมใหม่ทั้งหมด ปัจจุบัน เรายังคงเป็นผู้นำ เพราะเรามีพนักงานที่มีความหลากหลายในระดับเวิล์ดคลาสที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.Corporate.Carrier.com หรือติดตามเราได้ทางโซเชียลมีเดีย @Carrier

ติดต่อ:

Danielle Canzanella


860-221-8457


Danielle.Canzanella@carrier.com

PDF - https://mma.prnewswire.com/media/1612993/Corporate_Carrier_COGfx_Study_3_Results_Infographic_0921.pdf

Source: Carrier Global Corporation
Related Stocks:
NYSE:CARR
Keywords: Construction/Building Household/Consumer/Cosmetics HVAC Survey, Polls & Research