FII Institute ได้เปิดตัวดัชนีระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการติดตามโรคติดเชื้อ และพลิกโฉมวิธีการที่โลกตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ในอนาคต
ดัชนีโรคติดเชื้อระดับโลก (Global Infectious Diseases Index) ได้รับการพัฒนาโดย FII Institute ด้วยความร่วมมือกับ Accenture และ Metabiota
โซลูชันจัดการความเสี่ยงของ Metabiota เป็นโครงการแรก ๆ ที่รายงานการติดเชื้อที่ผิดปกติในนครอู่ฮั่นเมื่อเดือนธันวาคม 2562
นิวยอร์ก, 22 กันยายน 2564 /PRNewswire/ -- Future Investment Initiative Institute (FII Institute) ได้เปิดตัวดัชนีโรคติดเชื้อระดับโลก (Global Infectious Diseases Index) ในวันนี้ ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อติดตามจุลชีพก่อโรคที่พบในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และมอบข้อมูลที่สำคัญเพื่อช่วยเตรียมความพร้อมและต่อสู้กับโรคติดเชื้อ ดัชนีใหม่นี้ได้รับการพัฒนาด้วยความร่วมมือกับองค์กรระดับโลกซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันจัดการความเสี่ยงด้านโรคติดเชื้ออย่าง Metabiota และ Accenture บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีชั้นนำ โดยติดตามจุลชีพก่อโรคถึง 60 ชนิด ซึ่งรวมถึงจุลชีพที่อยู่เบื้องหลังต้นตอการก่อโรคโควิด-19 ไข้เลือดออก และหัด อีกทั้งยังออกแบบมาให้ประชาชนมีความตระหนักรู้เท่าทันโรคติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น วัณโรค มาลาเรีย และเอชไอวี ตลอดจนลดความเสี่ยง และมอบข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
FII Institute ได้เปิดตัวดัชนีอย่างเป็นทางการในการประชุมโต๊ะกลม Health Is Wealth ซึ่งจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 76 ในนิวยอร์ก โดยมีผู้นำระดับโลกและตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม สามารถดูดัชนีทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ www.globalinfectiousdiseaseindex.org
Richard Attias ซีอีโอของ FII Institute กล่าวว่า เขาภูมิใจกับการประสานงานครั้งนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ข้อมูลอันมีค่า "ข้อมูลเชิงลึกที่ดัชนีนี้มอบให้จะช่วยให้รัฐบาลและบริการด้านสาธารณสุขสามารถตัดสินใจดำเนินการต่าง ๆ ด้วยการพิจารณาข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติได้เป็นอย่างมาก" และเพิ่มเติมว่า "อีกทั้งยังช่วยขจัดความซับซ้อนด้านข้อมูลโรคติดเชื้อ พร้อมนำเสนอมุมมองที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ"
ดัชนีนี้มีความแตกต่างจากดัชนีอื่น ๆ เพราะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาโรคประจำถิ่นและภัยคุกคามจากโรคระบาดครบจบในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งรวมถึงโรคประจำถิ่นที่อันตรายที่สุด 5 อันดับแรกใน 204 ประเทศและเขตปกครอง และติดตามจุลชีพก่อโรคมากถึง 60 ชนิด รวมถึงโคโรนาไวรัส ข้อมูลแบบบูรณาการยังได้รวบรวมการจัดอันดับประเทศที่มีรายจ่ายด้านการดูแลสุขภาพสูงสุด (เมื่อคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี) จำนวนประชากรต่อประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนสำหรับแต่ละโรค และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และบริการต่าง ๆ
Lameen Abdul-Malik ผู้อำนวยการ THINK ของ FII Institute, เจ้าของรางวัลโนเบล และเป็นผู้นำในการพัฒนาดัชนี กล่าวว่า โลกจำเป็นต้องจัดการกับโรคติดเชื้อที่เป็นภาระแก่ประเทศ เศรษฐกิจ และประชาชน "ดัชนีนี้น่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้ประเทศต่าง ๆ วางแผนล่วงหน้าในการบรรเทาผลกระทบของโรคระบาดใหญ่ในอนาคต รวมทั้งจัดการกับโรคประจำถิ่นเพื่อช่วยให้ประชากรของพวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีอายุยืนยาวขึ้น" และเสริมว่า "แนวทางรับมือปัญหาที่พัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ควรถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับภัยคุกคามของโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่เป็นปัญหามานานหลายปี"
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเอกสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดัชนีโรคติดเชื้อทั่วโลก โปรดติดต่อ FII Institute และสามารถติดต่อผู้แทนเพื่อนัดหมายสัมภาษณ์
เกี่ยวกับ FII Institute (Future Investment Initiative Institute)
FII Institute เป็นมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่มีหน่วยงานด้านการลงทุน โดยมีเป้าหมายเดียวคือการสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมวลมนุษยชาติ (Impact on Humanity) เรายึดมั่นในหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมส่งเสริมความคิดที่เฉียบแหลมและเปลี่ยนแนวคิดต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมได้ใน 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ วิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
เราอยู่ถูกที่และถูกเวลา เนื่องจากขณะนี้ผู้มีอำนาจตัดสินใจ นักลงทุน และเยาวชนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในความทะเยอทะยาน เสริมกำลัง และพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง เราควบคุมพลังงานนั้นด้วย 3 เสาหลัก อย่าง การคิด (THINK), แลกเปลี่ยน (XCHANGE), ลงมือทำ (ACT) และลงทุนในนวัตกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทุกชีวิตทั่วโลก
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1630968/FII_Institute_Roundtable.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1630846/FII_Institute_Logo.jpg?p=medium600
สื่อมวลชนติดต่อ: media@fii-institute.org