omniture

กลุ่มผู้นำโลกหนุนความร่วมมือครั้งใหม่ด้านการท่องเที่ยว ดันเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในการประชุม COP26

Sustainable Tourism Global Center (STGC)
2021-11-04 22:32 285

- STGC ถือกำเนิดในฐานะความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว สู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  

- บุคคลสำคัญระดับโลก ทั้งอดีตผู้นำประเทศและสถาบันชั้นนำ ร่วมหารือกับ STGC ในการประชุม COP26

- STGC ตั้งเป้าขยายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ รวมถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติ และช่วยเหลือชุมชน

กลาสโกว์, สกอตแลนด์, 4 พฤศจิกายน 2564 /PRNewswire/ -- ผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ได้รับทราบถึงความร่วมมือครั้งใหม่ที่จะเร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยบรรดารัฐมนตรีจากประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ และผู้นำจากองค์กรระหว่างประเทศ ได้ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวที่ยั่งยืนผ่านกลุ่มความร่วมมือ Sustainable Tourism Global Centre (STGC)

Global tourism leaders on a panel at COP 26 to discuss the New Sustainable Tourism Global Center (STGC) commitment to achieving net-zero emissions
Global tourism leaders on a panel at COP 26 to discuss the New Sustainable Tourism Global Center (STGC) commitment to achieving net-zero emissions

ทั้งนี้ STGC เป็นกลุ่มพันธมิตรที่มีหลายประเทศเข้าร่วมและมีสมาชิกจากหลายฝ่ายที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อเป็นผู้นำในการเร่งให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมทั้งติดตามผล ตลอดจนขับเคลื่อนการคุ้มครองธรรมชาติและสนับสนุนชุมชน

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีผู้ประกอบการอยู่มากมาย ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก (SIDS) ล้วนต่างพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมีธุรกิจการท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านธุรกิจที่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดย่อม ซึ่งคิดเป็น 80% ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งหมด STGC จึงกำหนดเป้าหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้คนและโลกใบนี้ โดยปฏิรูปแนวทางการมีส่วนร่วมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการมากที่สุด

ทั้งนี้ อาเหม็ด อัล-คาตีป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย ได้ร่วมหารือวาระพิเศษว่าด้วยอนาคตของ STGC ในระหว่างการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ร่วมกับนายเฟลิเป กัลเดรอน อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก ประธานเศรษฐกิจภูมิอากาศแนวใหม่และสถาบันทรัพยากรโลก, นายเดวิด ลิฟวิงสตัน ที่ปรึกษาอาวุโส ทูตพิเศษฝ่ายกิจการสภาพอากาศของสหรัฐ ตลอดจนผู้นำคนอื่น ๆ

สำหรับยุทธศาสตร์ของ STGC นั้นจะเกิดขึ้นโดยอาศัยความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ กลุ่มนักวิชาการ สถาบันการเงินและกลุ่มพหุภาคี ตลอดจนกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ส่วนประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือที่สำคัญในเฟสแรกนี้ ประกอบด้วยสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี เคนยา จาไมกา โมร็อกโก สเปน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับสภาพอากาศ การท่องเที่ยว และธุรกิจ SME ซึ่งจะนำไปสู่การประสานความร่วมมือในโครงการที่สำคัญเช่นนี้

สำหรับหน่วยงานระดับสูงที่จะช่วยวางรากฐานให้กับศูนย์ STGC และให้บริการในเฟสแรก ประกอบด้วยสถาบันทรัพยากรโลก (WRI), อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC), โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP), หอการค้านานาชาติ (ICC), สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC), ธนาคารโลก และ SYSTEMIQ นอกเหนือไปจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งให้ความช่วยเหลือด้านการค้นคว้าวิจัยและสร้างศักยภาพให้กับ STGC ขณะที่ UNFCCC จะช่วยวางแนวทางเพื่อให้ศูนย์ STGC เร่งดำเนินงานเพื่อสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในอุตสาหกรรม

ศูนย์ STGC จะให้บริการและส่งมอบผลิตภัณฑ์ผ่านสามแนวทางหลัก อันได้แก่ การสร้างและถ่ายทอดองค์ความรู้ การวัดและติดตามผล รวมถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม โดย STGC จะยึดสามแนวทางนี้เพื่อมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเก้าด้านเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐานการพัฒนาและการจัดสรรทรัพยากรสำหรับภาคการท่องเที่ยว การส่งเสริมศักยภาพ รวมไปถึงการสนับสนุนด้านงบประมาณในโครงการและการลงทุน

STGC มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย และยังวางแผนเปิดสำนักงานสาขาในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคด้วย พร้อมทั้งมีบริการออนไลน์หลายภาษา

ทั้งนี้ ประเทศและองค์กรอื่น ๆ จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมเฟสที่ 2 นอกจากนี้ จะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านการท่องเที่ยวและสภาพอากาศมารวมตัวกัน เพื่อสนับสนุนความพยายามครั้งสำคัญนี้

คุณอาเหม็ด อัล-คาตีป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า

"การระบาดของโควิด-19 แสดงให้โลกเห็นถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ รวมถึงชุมชนที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวซึ่งเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอก เราจึงต้องดำเนินการโดยทันทีเพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายจากสภาพอากาศ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับธุรกิจ รัฐบาล และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อเร่งดำเนินการนี้ โดยซาอุดีอาระเบียมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความพยายามที่สำคัญยิ่งนี้"

คุณเฟลิเป กัลเดรอน อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก และประธานสถาบันทรัพยากรโลก กล่าวว่า

"เราดำเนินโครงการนี้ร่วมกับผู้นำโลกที่ร่วมภารกิจกับเรา ในการนำพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้บรรลุเป้าหมายความตกลงปารีสและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ธุรกิจและรัฐบาลมีช่องทางที่นำไปสู่โอกาสในการร่วมมือกันเพื่อผลักดันเป้าหมายดังกล่าว โดย STGC จะเป็น "ดาวเหนือ" ที่นำพาภารกิจนี้ไปสู่ความสำเร็จ"

คุณเอ็ดมันด์ บาร์แล็ตต์ รัฐมนตรีท่องเที่ยวของจาไมกา กล่าวว่า

"รัฐบาลจาไมกาซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็กและมีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ ยังคงมุ่งมั่นสร้างความยืดหยุ่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จาไมกามีความยินดีที่ได้รับโอกาสเป็นพันธมิตรกับกลุ่มความร่วมมือ STGC เพื่อมีส่วนร่วมและรับประโยชน์จากความพยายามร่วมกันนี้ เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป"

คุณเจเน็ต โรแกน ทูตสหราชอาณาจักรประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาในการประชุม COP กล่าวว่า

"เราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม COP26 เวลาที่มนุษย์เราใช้ในการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศเหลือน้อยลงไปทุกที ตอนนี้เราต้องลงมือทำแล้ว การท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างการเติบโต เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการใหม่ที่สำคัญนี้เพื่อเร่งให้ภาคการท่องเที่ยวเดินหน้าสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์"

คุณฟาติม ซาห์รา อัมมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว หัตถกรรม และเศรษฐกิจสังคมของโมร็อกโก กล่าวว่า

"ภายใต้คำแนะนำของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 ราชอาณาจักรโมร็อกโกได้ผนวกความยั่งยืนเข้าเป็นหนึ่งในเสาหลักของยุทธศาสตร์ภาคการท่องเที่ยวมาแล้ว รวมถึงรูปแบบการพัฒนาที่คิดขึ้นใหม่ด้วย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจำเป็นต้องร่วมกันสร้างและออกแบบแผนฟื้นฟูที่ยั่งยืนที่เกี่ยวกับกิจกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว กลุ่ม Sustainable Tourism Global Center ถือเป็นก้าวสำคัญต่อเป้าหมายนี้"

คุณนาจิบ บาลาลา รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและสัตว์ป่าของเคนยา กล่าวว่า

"ในฐานะจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เคนยาได้รับผลกระทบอย่างมากจากการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาด ดังนั้น เราจึงเห็นพ้องกันว่าควรมีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับแนวทางใหม่ที่ยั่งยืนสำหรับการท่องเที่ยวระดับโลก เราเป็นผู้สนับสนุนที่เข็มแข็งของกลุ่มความร่วมมือ Sustainable Tourism Global Center พร้อมด้วยยุทธศาสตร์ Wildlife Strategy 2030 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อมอบระบบนิเวศทางธรรมชาติที่เฟื่องฟูภายใต้แรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ"

คุณมาเรีย เรเยส มาโรโต รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม การค้า และการท่องเที่ยวของสเปน กล่าวว่า

"การประชุม COP26 เป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความท้าทายระดับโลกของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการท่องเที่ยว สเปนส่งเสริมโครงการด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคส่วนท่องเที่ยว และประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสีเขียวสำหรับภาคการท่องเที่ยวตามข้อตกลงลดโลกร้อนของสหภาพยุโรป สเปนเป็นสมาชิกที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในโครงการนานาชาติ เช่น โครงการ Planet's Sustainable Tourism Programme และจะยังคงเป็นพันธมิตรคนสำคัญที่ทำงานร่วมกับประเทศอื่นในระดับโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนสถาบันนานาชาติและผู้แทนภาคธุรกิจ"

คุณจูเลีย ซิมป์สัน ประธานและซีอีโอของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก กล่าวว่า

"ในช่วงเวลาที่ความเป็นผู้นำเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ เราขอชื่นชมโครงการของซาอุดีอาระเบีย ที่มุ่งสนับสนุนภาคส่วนให้บรรลุเป้าหมายระดับโลกและรับรองอนาคตที่ยั่งยืน WTTC มีความยินดีที่ได้มีส่วนสนับสนุนกลุ่มความร่วมมือนี้ ผ่านข้อมูล การวิจัย และความเชี่ยวชาญที่ไม่เหมือนใครจากธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก"

จอห์น ดับบลิว เอช เดนตัน เอโอ เลขาธิการหอการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า

"ผมขอชื่นชมในความพยายามที่มีหลายประเทศเข้าร่วมและมีสมาชิกจากหลายฝ่าย ในการเร่งดำเนินการด้านความยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยวระดับโลก หากคำนึงถึงผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่มีต่อความแข็งแกร่งของภาคส่วนนี้ การเป็นพันธมิตรจึงมีความสำคัญที่จะรับรองว่าผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวรายย่อยสามารถกลับมาฟื้นฟูได้อย่างแท้จริง และกลายเป็นแรงที่ทรงพลังสำหรับชุมชนท้องถิ่นและโลกของเรา"

"ในฐานะสถาบันที่เป็นตัวแทนของบริษัทมากกว่า 45 ล้านแห่งครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ และหน่วยงานหลักอย่างเป็นทางการของ UNFCCC สำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรม หอการค้าระหว่างประเทศตั้งตารอที่จะส่งเสริมการพัฒนาศูนย์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับเครือข่ายธุรกิจระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็กหลายล้านรายในภาคการท่องเที่ยว"

คุณกลอเรีย เกวารา หัวหน้าที่ปรึกษาพิเศษของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า

"ภาคการท่องเที่ยวได้ประสบกับอะไรมามากมายตลอดช่วงการแพร่ระบาด และประกอบกับความเร่งด่วนในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราจำเป็นต้องพึ่งพาโซลูชันระดับโลก SME ในภาคส่วนของเรา เช่น บริษัทท่องเที่ยวหรือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว อาจไม่ทราบระดับการปล่อยคาร์บอนของตน และไม่ทราบแนวทางปฏิบัติเพื่อลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทุกครั้งที่เราเดินทางท่องเที่ยว เราสร้างงานและลดความยากจน ซึ่งคงจะดีหากเราไปถึงจุดที่ยิ่งเราเที่ยว ยิ่งดีต่อโลก กลุ่มพันธมิตรที่มีหลายประเทศเข้าร่วมและมีสมาชิกจากหลายฝ่ายนี้ จะทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่กระจัดกระจายในภาคการท่องเที่ยวมารวมกันได้ และให้ความรู้เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการในตอนนี้"

ดร. รามอน ซานเชส นักวิจัยหลัก ประจำภาควิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า

"ในการสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง ชุมชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องอาศัยเครื่องมือ กรอบการทำงาน และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทีมงานจากมหาวิทยาฮาร์วาร์ดรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับ STGC ในการทำวิจัย ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้บรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์"

คุณเจเรมี ออพเพนไฮม์ ผู้ก่อตั้ง SYSTEMIQ บริษัทที่ปรึกษาและการลงทุนระดับโลก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงภาคการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความตกลงปารีส และเป็นผู้สนับสนุน STGC กล่าวว่า

"STGC ตั้งเป้าที่จะรวบรวมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งการบิน การบริการ การขนส่ง และบริการจัดเลี้ยง เข้ากลุ่มพันธมิตรที่มีหลายประเทศเข้าร่วมและมีสมาชิกจากหลายฝ่าย ซึ่งช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SME จากภาคส่วนที่เดิมทีปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วน 8% ของทั้งโลก มาเป็นผู้ขับเคลื่อนโลกที่ฟื้นฟูและปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์"

นิคลาส สเวนนิงเซน ผู้จัดการฝ่ายการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ประจำกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า

"การท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนที่มีความเปราะบางเป็นอันดับต้น ๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีศักยภาพดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติภายในปี 2573 การดำเนินการด้านสภาพอากาศทำให้เกิดโอกาสที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ โดยจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ชุมชน และประเทศต่าง ๆ อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสภาพอากาศ"

รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1678329/STGC_1.jpg?p=medium600
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/1678330/STGC_2.jpg?p=medium600

His Excellency Ahmed Al Khateeb, Minister of Tourism, Saudi Arabia, speaks at Sustainable Tourism Global Center panel at COP26
His Excellency Ahmed Al Khateeb, Minister of Tourism, Saudi Arabia, speaks at Sustainable Tourism Global Center panel at COP26
Source: Sustainable Tourism Global Center (STGC)
Keywords: Environmental Products & Services Oil/Energy Travel Utilities Conservation/Recycling Environmental Policy
Related News